ทำเนียบรัฐบาล 18 ต.ค. – นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้ปรับอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐเพิ่ม จากเดิมร้อยละ 0.18 เป็นร้อยละ 0.25 ต่อปีของยอดเงินฝากของแต่ละธนาคาร เพื่อนำเงินดังกล่าวไปใช้พัฒนา ปรับปรุง ดูแลความมั่นคงของแบงก์รัฐ และเพิ่มทุนของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย กำหนดให้เริ่มนำส่งตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 เป็นต้นไป
สำหรับการนำส่งเข้ากองทุนฯ งวดแรกปี 2559 จัดเก็บได้ 3,675 ล้านบาท ขณะที่ปี 2558 จัดเก็บครั้งแรก ช่วงครึ่งปีหลังมียอดเงินเข้ากองทุน 3,500 ล้านบาท ทั้งนี้ เมื่อเพิ่มอัตราการนำส่งคาดว่าทั้งปีจะมีเงินนำส่งเพิ่มขึ้น 2,800 ล้านบาทต่อปี ขณะนี้ 4 แบงก์รัฐมีเงินฝากประมาณ 4 ล้านล้านบาท เมื่อรัฐบาลปรับสัดส่วนเงินสมทบเพิ่มคาดว่าอยู่ในฐานะนำส่งได้ เช่น ธนาคารออมสินต้องนำส่งเพิ่มจาก 1,700 ล้านบาท เป็น 2,400 ล้านบาท และเงินเพิ่มดังกล่าวรัฐบาลต้องการนำเงินบางส่วนไปเพิ่มทุนให้กับธนาคารอิสลามฯ เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งและมีเงินสำรองต่อสินทรัพย์เสี่ยง ( BIS) สูงกว่าร้อยละ 8.5
ส่วนการนำส่งเข้ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินของธนาคารพาณิชย์ต้องนำส่งอัตราร้อยละ 0.47 เพื่อเข้ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ขณะนี้เมื่อนำส่งได้ระยะหนึ่งยอดเงินต้นลดลงแบงก์พาณิชย์จึงเริ่มมีภาระเงินนำส่งลดลงระยะยาว.-สำนักข่าวไทย