fbpx

กฟผ.ยอมรับเทคโนโลยีใหม่กระทบต้องลดแผนลงทุนระบบส่ง


 


กรุงเทพฯ 15 ต.ค.- กฟผ.ทบทวนแผนพัฒนาระบบส่งให้สอดคล้องกับแผนพีดีพีปรับใหม่
ตามเทคโนโลยีใหม่ที่เปลี่ยนแปลง เช่น ไมโครกริด พลังงานทดแทน
ที่ส่งผลให้การใช้ไฟฟ้าจากระบบลดน้อยลง 
และอาจทำให้การลงทุน 10 ปีข้างหน้า
ลดลงเหลือเพียงครึ่งหนึ่งจากเดิมประเมินที่
 แสนล้าน
พร้อมแนะรัฐพิจารณาส่งเสริม
Energy storage เป็นเสมือนโรงไฟฟ้าป้อนระบบ

               นายอดุลย์ พิทักษ์ชาติวงศ์ รองผู้ว่าการระบบส่ง
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ในขณะนี้
กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างปรับแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า(
PDP 2015) ที่คาดว่านำเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.)เห็นชอบหลักการ PDP ฉบับใหม่ในปลายเดือนต.ค.และประกาศใช้อย่างเป็นทางการต่อไป
ดังนั้น  กฟผ.ต้องปรับแผนลงทุนตามแผนพีดีพี
 โดยปัจจัยหลักที่จะกระทบมีทั้งเรือง
เทคโนโลยีใหม่  ของ  พลังงานหมุนเวียนที่มีแนวโน้มมากขึ้นโดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าติดตั้งบนหลังคาที่อยู่อาศัย(โซลาร์รูฟท็อป)ที่โรงงานทั้งขนาดใหญ่
ขนาดกลางและย่อม(เอสเอ็มอี) หันมาติดตั้งเพื่อผลิตเองใช้เองสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ประกอบกับการลงทุนโรงไฟฟ้าก็เริ่มเป็นขนาดเล็กทำให้ระบบส่งเป็นเพียงไมโครกริด(ระบบไฟฟ้าแรงดันต่ำ)แทน
ส่งผลให้ระบบส่งหลักที่เป็นแรงดันสูงไม่จำเป็นต้องเพิ่มการก่อสร้าง
               

         “ในส่วนของการพัฒนาระบบสายส่งได้ชะลอการลงทุนตามแผนระยะ
10 ปี(ปี 2559 -2569 )มูลค่ารวม 6 แสนล้านบาท แต่หากเอกชนผลิตไฟ้ฟาพึ่งพาตัวเองมากขึ้น
รวมทั้งระบบไมโครกริด  ก็อาจะทำให้แผนลงทุนระบบสายส่ง
อาจจะลดลงได้ในระดับ ร้อยละ50
 ในอนาคต” นายอดุลย์
กล่าว


        นายอดุลย์ กล่าวว่า กระทรวงพลังงานควรจะต้องศึกษา  ระบบสำรองไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่(BESS:
Battery Energy Storage System )
ซึ่งในต่างประเทศ เช่น อังกฤษ ได้ให้ใบอนุญาตดำเนินการเสมือนเป็นโรงไฟฟ้าแห่งหนึ่ง
โดยอาจให้ กฟผ.เป็นผู้ดำเนินการ
เพื่อจะได้มีระบบสำรองรองรับปัญหาของโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน
 โดยเฉพาะโซลาร์รูฟท็อป ที่คาดว่าเอกชนและประชาชน
ขะหันมาติดตั้งเพื่อผลิตเองใช้เองมากขึ้น แม้เป็นข้อดีสำหรับประเทศที่จะลดการใช้ก๊าซธรรมชาติและน้ำมันที่แพงกว่า
แต่เนื่องจากพลังงานหมุนเวียนขาดสเถียรภาพไม่สามารถเดินเครื่องได้ 24 ชั่วโมง  หากผลิตไม่ได้ เช่น ในช่วงกลางคืน หรือ ฝนตก
ฟ้าครึ้ม จะมีการใช้ไฟฟ้าจากระบบเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ เทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงาน(
Energy Storage)จะช่วยรองรับความมั่นคง  หากในอนาคตมีปริมาณไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนที่สูงขึ้น

             –สำนักข่าวไทย

 

 

 

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้