เชียงใหม่ 11 ต.ค.-เปิดใจชาวจีนยูนนาน หลังอพยพมาอาศัยอยู่ที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และอาสาเป็นทหารป้องกันประเทศเพื่อทดแทนพระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ให้มาอยู่ใต้พระบรมโพธิสมภาร ทั้งยังทรงพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ห่างไกล ให้เจริญก้าวหน้าและมีชีวิตที่ดีขึ้น ผ่านการตั้งโรงงานหลวงแห่งแรก
พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ประทับบนหลังม้าทรงงาน ช่วยเหลือชาวบ้านบนดอยป่าคา อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ยังติดตาและประทับอยู่ในใจ “อากง” ชาวจีนยูนนานวัย 91 ปี ครั้งได้รับเสด็จเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทอย่างใกล้ชิด
อากง อพยพจากจีนแผ่นดินใหญ่ หนีสงครามเจียงไคเช็ก มาอาศัยภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร อาสาเป็นทหารรักษาดินแดน ต่อมาชายแดนขณะนั้นมีความเป็นอยู่ยากลำบาก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ลงมาอยู่ที่หมู่บ้านยาง ส่งเสริมให้ปลูกผลไม้เมืองหนาว และส่งขายแก่โรงงานหลวง ชีวิตเปลี่ยนไปเพราะพระมหากรุณาธิคุณ
เช่นเดียวกับ “จะต่อ” ผู้ใหญ่บ้านป่าคา รุ่นหลานบรรพบุรุษเผ่ามูเซอที่ได้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ เล่าความเป็นอยู่เกือบ 40 ปี ที่ในหลวงช่วยฟื้นผืนดินจากเขาหัวโล้น เพราะทำไร่เลื่อนลอย และปลูกฝิ่น พลิกชีวิตชาวบ้านให้พ้นทุกข์
ผลผลิตทางเกษตรจากไร่ของชาวบ้านส่งมาโรงงานหลวง ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างขึ้นแห่งแรกในไทยเมื่อปี 2515 รับซื้อผลผลิตและแปรรูป จำหน่ายภายใต้เครื่องหมายการค้า “ดอยคำ” สะท้อนพระวิสัยทัศน์การเกษตรแบบครบวงจร ภายใต้แนวคิด “ขาดทุนเป็นการได้กำไรของเรา”
นอกจากสร้างอาชีพ ทรงเห็นความสำคัญของความเป็นอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ไม่มีไฟฟ้าใช้ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตั้งโรงไฟฟ้าพลังน้ำ หลังเห็นสภาพภูมิประเทศ ลุ่มน้ำงอนไหลแรงทั้งปี ปัจจุบันโรงไฟฟ้าแห่งนี้ส่งกระแสไฟให้ทั่วทั้ง อ.ฝาง ถือเป็นพระปรีชาสามารถในการจัดการทรัพยากรและพัฒนาชุมชน
ตลอดการครองราชย์ทรงทุ่มเทพระวรกายและพระราชหฤทัยเพื่อความผาสุกของพสกนิกร สะท้อนผ่านภาพพระเสโทหยาดหยด คล้ายหยดน้ำทิพย์ที่ชุ่มเย็นอยู่ในใจของคนไทยตราบนิจนิรันดร์.-สำนักข่าวไทย