ทำเนียบรัฐบาล 9 ต.ค.-นายกฯมอบรางวัล “จังหวัดสะอาด” ย้ำสร้างจิตสำนึกการกำจัดขยะในพื้นที่สาธารณะมากกว่าบ้านตัวเอง ห่วงสถานการณ์น้ำ กำชับผู้ว่าฯเร่งสร้างความเข้าใจประชาชน ธรรมชาติน้ำไหลจากที่สูงลงต่ำ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) มอบรางวัลการบริหารจัดการขยะมูลฝอย “จังหวัดสะอาด” ระดับประเทศประจำปี 2560 ให้แก่ 18 จังหวัด ที่มีการบริหารจัดการขยะมูลฝอยชุมชนระดับประเทศ 4 จังหวัด โดยจังหวัดลำพูนได้รางวัลชนะเลิศ รองลงมาคือจังหวัดพิจิตร ลพบุรี และตรังตามลำดับ และจังหวัดที่บริหารจัดการขยะมูลฝอยชุมชนระดับกลุ่มจังหวัด 14 จังหวัด เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน ภายใต้หลักการ ใช้น้อย ใช้ซ้ำและนำกลับมาใช้ใหม่ โดยเริ่มคัดแยกขยะมูลฝอยในพื้นที่ส่วนราชการทุกแห่งเพื่อเป็นต้นแบบ และขยายไปยังหมู่บ้านและชุมชนในพื้นที่
นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายว่า อยากให้ทุกคนสร้างจิตสำนึกการกำจัดขยะที่ไม่ใช่ดูแลในบ้านเรือนของตนเท่านั้น แต่ต้องรวมถึงพื้นที่สาธารณะด้วย โดยต้องมองว่าเป็นเรื่องของส่วนรวมที่ทุกคนต้องช่วยกัน ซึ่งถือเป็นการเก็บขยะในใจของตัวเองด้วย ประเทศไทยเป็นเมืองท่องเที่ยวการจัดการขยะจึงเป็นเรื่องสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ ดังนั้น จึงต้องมีเครือข่ายชุมชนและจิตอาสามาร่วมมือ จะหารือกับกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแล้วล้อมให้รณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติกและเปลี่ยนไปใช้ถุงผ้าในการซื้อสินค้า โดยอาจใช้ส่วนลดราคาในการซื้อขายสินค้า นอกจากนี้จะให้กระทรวงศึกษาธิการปลูกฝังการดูแลขยะในสถานศึกษา เพราะคนรุ่นใหม่จะเป็นหลักในการขับเคลื่อนประเทศในอนาคต
“อยากให้ดูแลขยะชิ้นใหญ่ ๆ ด้วย อย่างที่นอน ตู้เสื้อผ้า ควรมีหน่วยงานไปรับมากำจัดอย่างถูกวิธีไม่ให้ทิ้งลงคูคลองกลายเป็นปัญหา แต่ผมก็เป็นห่วง หากเรามีวิธีการจัดเก็บขยะที่ดีแล้ว จะทำให้คนมีรายได้น้อยที่มีอาชีพเก็บขยะขายจะไม่มีงานทำหรือไม่ แต่ยืนยันรัฐบาลจะไม่ขึ้นค่าขยะอย่างที่มีการบิดเบือน รวมถึงค่าน้ำและเงินภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย โดยยังเก็บร้อยละ 7 ไม่ใช่จะขึ้นเป็นร้อยละ 10 เพียงแต่สิ่งที่สื่อนำมาเสนอเป็นเพียงการตัดเอาถ้อยคำทางกฎหมายมาบิดเบือน แสดงให้เห็นว่ายังมีคนไม่ดีที่มีขยะในใจ เพราะตอนนี้รัฐบาลเก็บเงินอะไรเพิ่มเติมไม่ได้ ประชาชนยังมีความเดือดร้อนเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ ส่วนบัตรสวัสดิการของรัฐที่มีปัญหาประมาณ 1,000 ใบเกี่ยวกับการใช้จ่ายรัฐบาลกำลังตรวจสอบและแก้ปัญหาอยู่ จึงขออย่าเหมารวมว่าโครงการนี้ล้มเหลว”นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การตั้งโรงไฟฟ้าจากขยะชุมชน การรับฟังความเห็นของประชาชนเป็นเรื่องยากที่จะทำให้เกิดการยอมรับ จึงอยากให้ทุกจังหวัดทำความเข้าใจด้วยการวาดภาพให้ประชาชนได้เห็นอนาคตที่ดีขึ้น หากนำพลังงานไปใช้ประโยชน์ ซึ่งตลอด 3 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลพยายามทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งบางเรื่องเห็นผลแล้วแม้จะผ่านไปถึง 2 ปี เช่น การปลดธงแดงของ ICAO ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจและ ICAO จะยกประเทศไทยเป็นแบบอย่างการแก้ปัญหาในอาเซียนด้วย
นายกรัฐมนตรี แสดงความเป็นห่วงสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ โดยขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทำความเข้าใจกับประชาชนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นธรรมชาติของน้ำที่ไหลจากที่สูงลงที่ต่ำ รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาจัดทำพื้นที่แก้มลิงรับน้ำและเปลี่ยนวิธีการปลูกพืช แต่ขณะนี้น้ำเหนือมีปริมาณมาก จึงอยากให้ตัดตอนน้ำในอนาคต เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการบริหารจัดการน้ำ วางเเผนเตรียมการรับมือภัยธรรมชาติ โดยต้องไปทำความเข้าใจกับประชาชนในการเสียสละพื้นที่ส่วนบุคคลในการทำเพื่อส่วนรวม.-สำนักข่าวไทย
