อสส.มั่นใจหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งศึกษาแนวทางรื้อคดี “ทักษิณ”

สำนักข่าวไทย 7 ต.ค.- อสส.ยังไม่มีคำสั่งทางการให้หน่วยงานรับผิดชอบรื้อคดี “นายทักษิณ” แต่เชื่อทุกหน่วยกำลังเร่งศึกษากฏหมายใหม่ และขั้นตอนการทำงานส่งพิจารณา ด้านอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ รับลูก อสส.เร่งรวบรวมสำนวนข้อเท็จจริงข้อกฎหมายทั้งหมดส่งอัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการ


นายโกศลวัฒน์  อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไทย กล่าวถึงกรณีที่วานนี้(6 ต.ค) นายเข็มชัย ชุติวงศ์  อัยการสูงสุดคนใหม่ ได้ตอบข้อซักถามสื่อมวลชนภายหลังเข้ารับตำแหน่ง โดยมีประเด็นเรื่องการจะรื้อฟื้น คดีทุจริตปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทยฯ กับกลุ่มกฤษดามหานคร  ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่ง ให้จำหน่ายคดี รวมถึงคดีทุจริตออกกฎหมายแก้ไขค่าสัมปทานโทรศัพท์มือถือและดาวเทียมเป็นภาษีสรรพสามิต ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาพิจารณาใหม่ ว่า ประเด็นในเรื่องนี้เกิดขึ้นจากการที่อัยการสูงสุดคนใหม่ เปิดให้สื่อมวลชนเข้าพบ และซักถามเมื่อวานนี้  โดยเป็นการพูดถึงกรอบแนวทางการทำงานว่า คดีดังกล่าวมีหน่วยงานที่รับผิดชอบอยู่ และสามารถดำเนินการต่อทำตามกรอบกฏหมายใหม่เท่านั้น   


โดยเรื่องนี้ยังไม่มีการสั่งการอย่างเป็นทางการ  แต่เชื่อว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบ อย่าง อัยการสำนักงานคดีพิเศษ รวมทั้งหน่วยงานอื่นๆในสังกัดที่ดูแลคดีที่เกี่ยวของกับนายทักษิณ กำลังตรวจสอบ และเตรียมเสนอเป็นผู้เสนอรายชื่อคณะทำงานที่เหมาะสม และแนวทางในการทำงานเพื่อรื้อฟื้นคดีใหม่มาให้อัยการสูงสุดพิจารณา  เพราะคดีดังกล่าวเป็นการยื่นฟ้องคดีในกฎหมายเก่าปี พ.ศ.2542 (พ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2542) ที่เดิมไม่สามารถที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาคดีลับหลังโดยที่ไม่มีตัวจำเลยได้แต่กฎหมายใหม่ที่เพิ่งออกมา พ.ศ.2560 มาตรา 28 ให้ศาลสามารถดำเนินกระบวนพิจารณาคดีโดยไม่มีตัวจำเลย หรือ พิจารณาคดีลับหลัง  ซึ่งในบทเฉพาะกาล มาตรา 69 ของกฎหมายใหม่ระบุว่าการดำเนินการใดที่เกิดขึ้นมาโดยสมบูรณ์ตามกฎหมายเก่าแล้วนั้น จะไม่ได้รับผลกระทบ แต่ให้พิจารณาต่อไปตามกฎหมายใหม่ที่บังคับใช้


อย่างไรก็ตาม  เชื่อว่าในวันที่ 17 ตุลาคมนี้เวลาประมาณ 9.00 น. ที่อัยการสูงสุดคนใหม่จะมอบนโยบายการทำงานให้กับหน่วยงานในสังกัด จะมีความชัดเจนในเรื่องนี้อีกครั้ง 

ด้าน นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ กล่าวถึงกรณีนี้ ว่า  ขณะนี้ทางอสส.ยังไม่ได้มีการสั่งการมายังอัยการสำนักงานคดีพิเศษโดยตรง เนื่องจากติดวันหยุด  ซึ่งเรื่องนี้เมื่อ อสส.มีดำริผ่านสื่อมวลชน เบื้องต้นทางอัยการสำนักงานคดีพิเศษก็มีการเตรียมศึกษาข้อเท็จจริง เเละเสนอตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อพิจารณาศึกษาสำนวนทั้งในส่วนของข้อเท็จจริงเเละข้อกฎหมายทั้งหมด 

สำหรับคดีของนายทักษิณ นั้น มีความเกี่ยวพันในหลายเรื่อง เเละคณะทำงานเคยพิจารณาสำนวนอยู่เดิม ก็มีการโยกย้ายหรือเกษียณอายุราชการไปเเล้ว จึงต้องนำข้อมูลมาศึกษาใหม่ทั้งหมดตามขั้นตอน หลังจากนั้นจะรวบรวมสำนวนข้อเท็จจริงข้อกฎหมายทั้งหมดส่งอัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

บกปภ.ช. แถลงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือเหตุแผ่นดินไหว

บกปภ.ช. แถลงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือเหตุแผ่นดินไหว สั่งพื้นที่เร่งสำรวจและให้ความช่วยเหลือ หากงบประมาณไม่เพียงพอให้ขอขยายวงเงินทันที ด้านอาคารที่ถล่มได้ส่งทีม USAR Thailand สลับกำลังเพิ่มเติม

นายกฯ กล่าวในวันอีฎิ้ลฟิตริ ฮ.ศ.1446 ส่งความปรารถนาดีชาวไทยมุสลิม

นายกรัฐมนตรี กล่าวในวันอีฎิ้ลฟิตริ ฮ.ศ.1446 ส่งความรัก ความปรารถนาดียังชาวไทยมุสลิมทุกคน ชื่นชมศรัทธาที่เข้มแข็ง ความอดทน อดกลั้น ความมุ่งมั่น เสียสละ

เร่งปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากใต้ซากอาคาร สตง.

ปฏิบัติการค้นหาผู้ติดใต้ซากอาคาร สตง. ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผ่านมาเกือบ 54 ชั่วโมงแล้ว ตอนนี้ยังไม่พบผู้รอดชีวิตเพิ่ม ส่วนยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มเป็น 11 รายแล้ว

สตง.ตั้งศูนย์ประสานงานช่วยผู้ประสบภัยตึกถล่มจากแผ่นดินไหว

สตง. เร่งตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยและผู้ได้รับผลกระทบ จากกรณีอาคารที่ทำการสำนักงานแห่งใหม่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว พร้อมยืนยันกระบวนการดำเนินโครงการฯ เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย