ประชาชน ทั่วทุกสารทิศ เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพฯอย่างต่อเนื่อง

สนามหลวง 1 ต.ค.-ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อย เปิดให้ประชาชน เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ประชาชนจากทั่วสารทิศ ยังคงหลั่งไหลเดินทางกันมาอย่างต่อเนื่อง  โดยในช่วงเช้าจุดคัดกรองฝั่งพระแม่ธรณีบีบมวยผม  ประชาชนต่อแถวยาวไปจนเกือบถึงบริเวณสี่แยกคอกวัว  และอีกจุดคัดกรองที่ประชาชนสามารถเข้าคิวได้ คือ บริเวณฝั่งวงเวียน รด.  ซึ่งเป็นที่สังเกตได้ว่า จุดนี้ประชาชนเข้าคิวน้อยกว่าฝั่งโรงแรมรัตนโกสินทร์  ซึ่งหากประชาชนที่จะเดินทางมาในช่วงบ่าย ก็สามารถมาเข้าคิวได้บริเวณฝั่ง วงเวียน รด.ขณะที่ประชาชนที่เดินทางมาหลายคนเดินทางมาเป็นครั้งแรก เช่น นายชีพ ชูขำ อายุ 65 ปี ชาวจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า มีความตั้งใจเดินทางมาจากพัทลุง ด้วยรถไฟ ตั้งแต่เมื่อวานนี้(30ก.ย.) และมาเป็นครั้งแรกพร้อมครอบครัว ขณะที่นายธเนศพล ชูขำ หลานชายอายุ 16 ปี รู้สึกปลาบปลื้มไม่ต่างกันที่จะได้เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพเป็นครั้งแรก และจะสืบสานพระราชปณิธานของพระองค์ท่านสืบต่อไป
ด้านกลุ่มจักรยานวันอาทิตย์จังหวัดพิษณุโลก กว่า 1,000 คัน ได้จัดกิจกรรม “กราบลาพ่อของแผ่นดิน  Last Bike For Dad”  ซึ่งเป็นการรวมตัวของนักปั่นจักรยาน จากภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน อาทิ จังหวัด พิจิตร ชัยนาทและอ่างทอง ร่วมกันปั่นจักรยานจากจังหวัดพิษณุโลก มายังกรุงเทพมหานคร โดยใช้เวลา รวม 2 วัน ถึงจุดหมายที่ท้องสนามหลวง และรวมตัวกันที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อทำพิธีวางดอกไม้จันทน์ ภายในหอประชุมศรีบูรพา จากนั้น ได้รวมตัวกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เพื่อถวายความจงรักภักดี และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 
โดยผู้ประสานงานกลุ่มจักรยาน กล่าวว่า แรงใจที่ทำให้มีกำลังปั่นมาถึงจุดหมาย เพราะสำนึกในพระราชกรณียกิจ ที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงเหน็ดเหนื่อยทำเพื่อพสกนิกร ซึ่งการปั่นระยะทางเพียงเท่านี้ ไม่ทำให้รู้สึกเหนื่อย แต่กลับภาคภูมิใจที่ได้มีร่วมแสดงความจงรักภักดี และทางกลุ่มพร้อมจะสืบสานสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมต่อไป
สำหรับประชาชนที่เข้าคิวรอเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพฯ ในขณะนี้มีจำนวน ไม่ต่ำกว่า 10,000 คน ซึ่งสัปดาห์นี้ถือเป็นสัปดาห์สุดท้าย ก่อนที่จะปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ในเวลา 24.00 น.วันที่ 5 ตุลาคมนี้โดยตั้งแต่เวลา 01.00 น.ที่ผ่านมา จนถึงเวลา 12.00 น. มีประชาชนได้เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพจำนวน 40,135 คน โดยตั้งแต่เข้ามาต่อแถวในจุดพักคอย จนเสร็จสิ้นการกราบถวายบังคมพระบรมศพ แต่ละคนใช้เวลาเฉลี่ย 4 ชั่วโมงถึง 8 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง