ความสามารถการแข่งขันของไทยดีขึ้นอยู่อันดับ 32 ของโลก

ทำเนียบฯ 27 ก.ย.-  รัฐบาลเผย  WEF ขยับอันดับไทยในแง่ความสามารถการแข่งขัน ดีขึ้นเป็นอันดับ 32 ของโลก 


นายเทวินทร์  วงศ์วานิช ประธานอนุกรรมการด้านการจัดการข้อมูลฯ คณะกรรมการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (กพข.) เปิดเผยว่า ผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ของ  (WEF: World Economic Forum) ประจำปี 2560 ปรากฎว่าไทยมีอันดับดีขึ้น 2 อันดับจาก 34 ได้รับคะแนน  4.67 เพิ่มเป็น 32  คะแนน 4.72 ในปีนี้  เมื่อเทียบในกลุ่มอาเซียนนับว่าไทยอยู่ในอันดับ 3 รองจากสิงคโปร์และมาเลเซีย  โดยประเทศเพื่อนบ้านที่น้อยกว่าไทยได้แก่ อินโดนิเซีย บรูไน และเวียดนาม และกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านส่วนใหญ่อันดับขยับเพิ่มขึ้น นับว่าทุกประเทศตื่นตัวในเรื่องเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างมาก 

คะแนนของไทยปรับดีขึ้น เนื่องจากการพัฒนาในหลายด้านหลัก จากคะแนนรวม 12 ด้านหลัก ไทยดีขึ้น 8 ด้านหลัก และเท่าเดิม 4 ด้านหลัก โดยไม่มีด้านหลักใดปรับลดลงเลย นับว่าการแก้ปัญหาด้านต่างๆได้ทำให้ด้านหลักคะแนนปรับเพิ่มขึ้น ทั้งด้านการอำนวยความสะดวกขององค์กรภาครัฐ เช่น ด้านเศรษฐกิจมหาภาคจัดอยู่ในอันดับ 9 ได้คะแนนรวม 6.2 ถือว่าภาพรวมดีมาก   ส่วนด้านโครงสร้างพื้นฐาน พบว่าอันดับดีขึ้นจาก 49 เพิ่มเป็น 43  ส่วนด้านนวัตกรรมอันดับดีขึ้น เรื่องการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เป็นยุทธศาสตร์หลักของรัฐบาล จึงได้มุ่งเน้นการพัฒนาและแก้ไข พร้อมทั้งเร่งพิจารณาจุดอ่อนของตนเองเพื่อกำหนดเป้าหมายและแก้ปัญหาให้ถูกจุด ซี่งจะทำให้ผลการจัดอันดับจะดีขึ้นต่อเนื่อง เพราะการวัดและประเมินผลในขณะนี้ยังประเมินไม่หมดตามที่รัฐบาลเดินหน้าดำเนินการในหลายด้าน 


นายสุริยนต์ ธัญกิจจานุกิจ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ สศช. กล่าวว่า รัฐบาลได้เร่งรัดแก้ปัญหาด้านต่างๆ จึงทำให้อันดับขยับเพิ่มดีขึ้น การสร้างสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจในการตั้งศูนย์นวัตกรรม การอำนวยความสะดวกภาคธุรกิจ เช่นให้บริการใบอนุญาตบางรายการเกี่ยวกับการตั้งธุรกิจปีนี้ใช้เวลา 25 วัน ในปีหน้ากำหนดให้ลดเหลือ 2.5 วัน  ยอมรับว่าด้านใดที่มีจุดอ่อนต้องปรับปรุงทบทวนรูปแบบ เพราะพัฒนาเท่าใด อันดับก็ไม่ขยับขึ้น เช่น การศึกษา การให้บริการหน่วยงานรัฐในบางด้าน อย่างไรก็ตาม WEF เตรียมปรับน้ำหนักการประเมินจากเดิมใช้ข้อมูลจริงเพียงร้อยละ 30 สัดส่วนร้อยละ 70 มาจากการสำรวจ เพื่อปรับเน้นแบบกลับหัวใช้ข้อมูลจริงร้อยละ 70 จึงทำให้กลุ่มอาเซียนรับบทหนักจากการปรับรูปแบบประเมินแบบข้อมูลจริงมากขึ้น 

ยอมรับว่าการบริการของสถาบัน หน่วยงานรัฐ ที่ยังมีปัญหาต้องเร่งแก้ไข เพราะหากปล่อยให้เป็นปัญหานานไปจะทำให้อันดับของประเทศต่ำลงต่อไป เช่น ปัญหาทรัพย์สินทางปัญญา ความน่าเชื่อถือของการให้บริการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนและนักลงทุน  ผลกระทบจากปัญหาก่อการร้าย การเข้าเรียนในระดับประถมต้องมีสัดส่วนมากขึ้น นักศึกษาต้องเรียนมาให้ตอบโจทย์ของภาคเอกชนที่ต้องการแรงงานคุณภาพให้มากขึ้น ต้องสอบถามความต้องการของภาคเอกชนให้มากขึ้น และต้องร่วมมือแบบประชารัฐ รวมทั้งอุปสรรคปัญหาข้อกฎหมาย กฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการอำนวยความสะดวกจึงต้องเร่งเดินหน้าแก้ปัญหา.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

อัญเชิญเรือพระที่นั่งกลับพิพิธภัณฑ์

หลังสร้างความตราตรึงให้กับชาวไทยและคนทั้งโลก กับความงดงามของขบวนพยุหยาตราทางชลมารค กองทัพเรือ และกรมศิลปากร เริ่มอัญเชิญเรือพระที่นั่ง และเรือพระราชพิธี กลับเข้าสู่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเรือพระราชพิธี ซึ่งแต่ละขั้นตอนต้องใช้ความละเอียด รอบคอบ เพราะเรือทุกลำถือเป็นสมบัติล้ำค่าของแผ่นดิน

ย้อนรอยเส้นทางชีวิต “บิ๊กโจ๊ก”

เป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้วที่เส้นทางตำรวจของ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ต้องยุติลง หลังถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน กรณีพัวพันเว็บพนันออนไลน์ จากนี้ชะตาชีวิต “บิ๊กโจ๊ก” ขึ้นอยู่กับ ป.ป.ช. ว่าจะได้กลับมาสวมชุดตำรวจอีกหรือไม่

“ปานเทพ” เปิดหลักฐานสัญญาชัด 71 ล้านเป็นชื่อ “มาดามอ้อย”

“อ.ปานเทพ” เปิดหลักฐานหนังสือสัญญาบอกชัด 71 ล้านบาท เป็นชื่อ “มาดามอ้อย” เปิด 3 รายชื่อให้เร่งตรวจสอบ หวั่นโยกย้ายทรัพย์สิน