ภรรยา “ป๋าเกิด” มอบตัว ยอมรับได้เงินจากสามี-ปฏิเสธเกี่ยวข้องค้ามนุษย์

กรุงเทพฯ 21 ก.ย.-ภรรยานายเกิดใหม่ รวยจริงนะ หรือป๋าเกิด มอบตัวตำรวจ ปคม. หลังถูกออกหมายจับข้อหาค้ามนุษย์ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อ้างทราบเพียงว่าสามีทำธุรกิจพาเด็กผู้เสียหายไปเป็นโคโยตี้เท่านั้น ยอมรับได้เงินจาก “ป๋าเกิด” จริง แต่ไม่ทราบว่าเงินที่ได้มาจากอะไร


น.ส.มลฤดี อินอ่อน อายุ 48 ปี ภรรยานายเกิดใหม่ รวยจริงนะ หรือป๋าเกิด พร้อมทนายความ เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคม. หลังถูกออกหมายจับข้อหาสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์และแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศในรูปแบบอื่น  และข้อหาชักจูงยุยงส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กแสดงหรือกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจาร ตาม พ.ร.บ.ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และพ.ร.บ.ปกป้องคุ้มครองเด็ก หลังสาวโคโยตี้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความไว้ก่อนหน้านี้ 

ตำรวจใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 3 ชั่วโมง น.ส.มลฤดี ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยอ้างเพียงว่าตนเองทราบเพียงว่า นายเกิดใหม่ หรือ ป๋าเกิด ทำธุรกิจพาเด็กผู้เสียหายไปเป็นโคโยตี้เท่านั้น แต่ไม่ทราบถึงการพาเด็กไปขายบริการที่สถานบันเทิง โดย น.ส.มลฤดี ยอมรับว่าได้รับเงินจำนวนหนึ่งมาจากป๋าเกิด แต่ไม่ทราบว่าเงินที่ได้มาจากอะไร และขอให้ข้อมูลทั้งหมดในชั้นศาลเท่านั้น ซึ่งพนักงานสอบสวนต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินของ น.ส.มลฤดี ต่อไป สำหรับบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับนายเกิดใหม่ ภายหลังจากนี้หากตรวจสอบแล้วมีความเชื่อมโยงก็จะดำเนินการออกหมายเรียกและออกหมายจับเพิ่มต่อไป


พ.ต.ท.ชูศักดิ์ อภัยภักดิ์ รอง ผกก.1 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำนายเกิดใหม่ รวยจริงนะ หรือป๋าเกิด ให้การภาคเสธข้อหา โดยอ้างว่าไม่นึกว่าแค่พาโคโยตี้สาวไปส่งตามสถานบันเทิงจะเข้าข่ายค้ามนุษย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้อธิบายให้ฟังว่าข้อหาเกี่ยวกับการค้ามนุษย์มี 3 แบบ 1.เกี่ยวกับการพาเยาวชนไปค้าประเวณี 2.เกี่ยวกับการนำเยาวชนไปถ่ายภาพลามกอนาจาร 3.เกี่ยวกับการนำเยาวชนไปแสดงโดยมีการให้แต่งกาย ล่อแหลม และลามกอนาจาร

ส่วนข้อกล่าวหาที่บังคับเด็กมีเพศสัมพันธ์ นายเกิดใหม่ ให้การว่า มีการร่วมเพศจริง แต่ไม่ได้บังคับเป็นการยินยอม ทั้งนี้ เมื่อพนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดเสร็จ ได้นำตัวไปฝากขังไว้ที่ สน.ทุ่งสองห้อง ก่อน จากนั้นนำไปฝากขังในวันนี้ (21 ก.ย.) เวลา 10.00 น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์

เร่งล่าฆาตกรโหดตัดนิ้วชิงทรัพย์หญิงวัย 67 ทิ้งศพกลางสวนปาล์ม

ตำรวจเร่งล่าฆาตกรโหดฆ่าตัดนิ้วหญิงวัย 67 ปี ชิงทรัพย์ ก่อนทิ้งศพกลางสวนปาล์ม อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ชาวบ้านเผยพบรถเก๋งต้องสงสัยสีขาววิ่งเข้าไปในจุดพบศพ

จับนายก อบต.นาบัว

คอมมานโดบุกจับนายก อบต.นาบัว-พวก รวม 16 คน

คอมมานโดกองปราบฯ บุกจับฟ้าผ่า! นายก อบต.นาบัว อ.นครไทย ประธาน “ธนาคารหมู่บ้าน” พร้อมพวก รวม 16 คน ฐานร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันกู้ยืมเงิน มูลค่าความเสียหายนับร้อยล้านบาท

New Zealanders march towards Wellington to protest Indigenous treaty bill

ชาวเมารีเต้นฮากาประท้วงร่าง กม.นิวซีแลนด์

เวลลิงตัน 15 พ.ย.- ผู้คนในหลายเมืองทั่วนิวซีแลนด์เข้าร่วมการเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังกรุงเวลลิงตัน เพื่อประท้วงร่างกฎหมายลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง โดยมีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารีในระหว่างการประท้วงด้วย รัฐสภานิวซีแลนด์ผ่านความเห็นชอบในเบื้องต้นเมื่อวานนี้ เรื่องการตีความใหม่สนธิสัญญาอายุ 184 ปี ที่มกุฎราชกุมารอังกฤษกับหัวหน้าชาวเมารีมากกว่า 500 คนลงนามในปี พ.ศ.2383 กำหนดเรื่องการปกครองนิวซีแลนด์ร่วมกัน ซึ่งเป็นแนวทางในการออกกฎหมายและนโยบายของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วนิวซีแลนด์ โดยมีการจัดเดินขบวนเป็นเวลา 9 วันมุ่งไปยังกรุงเวลลิงตัน คาดว่าขบวนจะถึงเมืองหลวงในวันที่ 19 พฤศจิกายน ตำรวจแถลงวันนี้ว่า มีคนประมาณ 10,000 คน เข้าร่วมการเดินขบวนในเมืองโรโตรัว ห่างจากกรุงเวลลิงตันไปทางเหนือราว 450 กิโลเมตร ผู้ประท้วงแต่งกายในชุดชนพื้นเมือง มีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารี โดยได้รับการต้อนรับจากคนจำนวนมากที่มาโบกธงเมารีและร่วมร้องเพลง.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

มนุษย์ ภัยคุกคามพะยูน ?

ช่วงนี้พบพะยูนในทะเลฝั่งอันดามันตายเพิ่มขึ้นแบบถี่ยิบ จนน่าเป็นห่วงว่าพะยูนอาจสูญพันธุ์ไปในอนาคต โดยเฉพาะล่าสุดเมื่อมีการพบพะยูนตายในทะเลภูเก็ต อยู่ในสภาพถูกตัดหัว คาดนักล่าหวังเอาเขี้ยว

typhoon Man-Yi barrels through the Philippines

ซูเปอร์ไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” เข้าฟิลิปปินส์

มะนิลา 17 พ.ย.- ซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ พัดเข้าเกาะลูซอนที่เป็นเกาะหลักและมีประชากรอยู่หนาแน่นที่สุดของฟิลิปปินส์แล้วในวันนี้ เสี่ยงทำให้เกิดฝนตกหนักในกรุงมะนิลาที่เป็นเมืองหลวง หม่านหยี่ เป็นภาษาจีนกวางตุ้ง เป็นชื่อของอ่างเก็บน้ำในฮ่องกง นับเป็นพายุลูกที่ 6 ที่พัดเข้าฟิลิปปินส์ในรอบ 1 เดือน มีความเร็วลม 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อ่อนกำลังลงเล็กน้อยหลังจากขึ้นฝั่งเมืองปางานีบัน จังหวัดคาตันดัวเนส ที่เป็นเกาะขนาดเล็ก เมื่อคืนวันเสาร์ ข้ามมาจนถึงจังหวัดคามารีเนส นอร์เต บนเกาะลูซอน ในเช้าวันนี้ ไต้ฝุ่นลูกนี้มีแนวโน้มจะทำให้เกิดฝนตกหนักทั่วเขตมหานครมะนิลา ซึ่งมีการอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงแล้วกว่า 1 ล้านคน แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แม้ว่ากระแสลมแรงได้สร้างความเสียหายให้แก่สิ่งปลูกสร้างในจังหวัดคาตันดัวเนสก็ตาม.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ดอยอินทนนท์คึกคักรับลมหนาว สัมผัสหมอกหนายามเช้า

นักท่องเที่ยวแห่ขึ้นดอยอินทนนท์รับลมหนาว สัมผัสหมอกหนายามเช้าวันหยุด หลายคนบอกไม่ผิดหวัง เพราะพระอาทิตย์สาดแสงเป็นประกายประทับใจ