ปลัดมหาดไทยกำชับเร่งหาเส้นทางระบายน้ำ

กรุงเทพฯ 17 ก.ย.- ปลัดกระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งด่วนให้ทุกจังหวัดสำรวจและทำเส้นทางระบายน้ำลดความเดือดร้อนประชาชนประสบปัญหาน้ำท่วมจากฝนตกหนัก พร้อมจัดหาแหล่งกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง กำชับใช้งบประมาณตามระเบียบห้ามเกิดการทุจริตเด็ดขาด


นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการด่วนที่สุดไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)ทั่วประเทศ ทำเส้นทางระบายน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเนื่องจากขณะนี้มีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขัง รวมถึงให้จัดหาที่กักเก็บน้ำเพื่อ นำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง โดยให้สำรวจพื้นที่ใกล้เคียงว่ามีแหล่งน้ำธรรมชาติหรือพื้นที่สาธารณะเพียงพอที่จะใช้เป็นพื้นที่รับน้ำได้หรือไม่ เพื่อหาวิธีการชักน้ำหรือขุดเจาะทำเป็นหลุมดึงน้ำลงไปเก็บไว้ใต้ดิน ใต้พื้น หรือทำเส้นทางระบายน้ำจากพื้นที่น้ำท่วมมากักเก็บไว้ให้ประชาชนใช้ในฤดูแล้งหรือในยามขาดแคลน 

ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ให้จัดทำเส้นทางระบายน้ำหรือการเปิดทางน้ำเพื่อให้น้ำไหลออกมานั้น อาจใช้รถแบคโฮ (backhoe) หรือรถขุด ตักดิน หรือเครื่องมือ เครื่องจักรที่มีในพื้นที่ โดยให้ประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เช่น องค์การบริหารส่วนจังหวัด/เทศบาลในพื้นที่เข้าไปดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ หรือประสานหน่วยทหารพัฒนา หน่วยทหารช่าง หรือภาคเอกชน เพื่อขอรับการสนับสนุนเครื่องมือดังกล่าว โดยจังหวัด อำเภอ หรือ อปท. ในพื้นที่อาจสนับสนุนน้ำมันเชื้อเพลิงตามระเบียบของทางราชการ ซึ่งในกรณีที่จะใช้วิธีการขุดเจาะรูเพื่อระบายน้ำลงไปเก็บไว้ใต้ดินนั้น ให้ประสานงานกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในจังหวัดหรือภาค เพื่อหารือร่วมกันในการจัดทำโครงการขุดเจาะรูหรือขุดหลุมเพื่อนำน้ำไปเก็บไว้ใต้ดินหรือในสถานที่ที่เหมาะสมเพื่อไว้ใช้ในฤดูแล้ง 


นายกฤษฎา กล่าวว่า ในการดำเนินการตามแนวทางข้างต้น ให้พิจารณาใช้งบประมาณของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด หรือเงินงบประมาณพัฒนาจังหวัด/กลุ่มจังหวัดที่เหลือจ่ายจากโครงการอื่น ๆ หรืองบประมาณแก้ไขปัญหาจังหวัด หรือแจ้งอปท.ให้พิจารณาใช้งบประมาณการแก้ไขปัญหาสาธารณภัยของอปท.ที่ได้ตั้งไว้ตามข้อบัญญัติจังหวัดหรือเทศบัญญัติด้วยก็ได้ โดยจะต้องกำกับดูแลการใช้จ่ายงบประมาณทุกส่วนราชการให้เป็นไปตามระเบียบแบบแผนของทางราชการโดยเคร่งครัด ห้ามมิให้เกิดการทุจริตจากโครงการแก้ไขปัญหาในครั้งนี้อย่างเด็ดขาด

ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวอีกว่า สำหรับในกรณีที่ไม่มีพื้นที่สาธารณะ หรือแหล่งน้ำธรรมชาติ แต่มีพื้นที่ของประชาชนที่มีความเหมาะสมในการทำเป็นที่พักน้ำหรือแหล่งกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งได้ ให้หาวิธีการเจรจาเพื่อขอใช้พื้นที่ดังกล่าวจากเจ้าของพื้นที่ โดยอาจใช้วิธีการแลกเปลี่ยนกันโดยให้เจ้าของพื้นที่ได้ประกอบอาชีพเลี้ยงปลาหรือสัตว์น้ำอื่น โดยทางราชการจัดทำเป็นโครงการส่งเสริมอาชีพเพื่อให้ส่วนราชการด้านการประมงหรือการเกษตรนำพันธุ์ปลาหรือสัตว์น้ำไปแจกจ่ายให้ประชาชนเจ้าของพื้นที่เพื่อเป็นการเเลกเปลี่ยนในการสละพื้นที่เพื่อใช้เป็นที่พักน้ำ

นายกฤษฎา กล่าวว่า ในฤดูฝนซึ่งที่ผ่านมามีบางจังหวัด เช่น จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ใช้วิธีการนี้ดำเนินการแล้ว จึงให้จังหวัดอื่น ๆ ได้นำแนวทางนี้มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับพื้นที่ตนเอง หรือใช้วิธีการขอเช่าที่ดินจากเจ้าของ โดยให้จัดส่งรายละเอียดเกี่ยวกับพื้นที่และค่าเช่าไปที่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เพื่อพิจารณาหาแนวทางสนับสนุนงบประมาณตามระเบียบกฎหมายต่อไป 


ขณะเดียวกันให้จังหวัดและอำเภอสำรวจคูคลองทั้งหมดในทางกายภาพ พร้อมทั้งจัดหารวบรวมแผนที่แสดงระดับความสูง-ต่ำของพื้นที่ในแต่ละแห่ง รวมทั้งเส้นทางการไหลของน้ำ และเส้นทางการระบายน้ำ พร้อมทำการขุดลอกคลองหรือเส้นทางน้ำสายหลัก ตลอดจนอาจจัดหาโดรนเพื่อใช้ประกอบการทำแผนที่ วางแผนและเตรียมเส้นทางการทำงานเพื่อช่วยเหลือประชาชนและกำหนดตำแหน่งศูนย์อพยพในแต่ละพื้นที่ รวมถึงเส้นทางการเข้าถึงศูนย์อพยพนั้นทุกทางด้วย 

ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวอีกว่า การบริหารจัดการตามวิธีการที่ระบุมานั้น จังหวัดอาจแต่งตั้งรองผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหัวหน้าคณะทำงานดำเนินการ โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำและการเกษตร รวมทั้งหน่วยงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งผู้แทนอปท.ในพื้นที่ และหน่วยงานทางวิชาการองค์กรวิชาชีพเข้าร่วมเป็นคณะทำงานด้วย ทั้งนี้จังหวัดอาจติดต่อประสานงานกับวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ฯ เพื่อขอคำแนะนำหรือเชิญมาร่วมในการกำหนด จัดทำยุทธศาสตร์รับมือภัยพิบัติจากน้ำท่วมหรือภัยแล้ง ด้วยก็ได้ 

“ขอเน้นย้ำว่าให้จังหวัดกำหนดเรื่องดังกล่าวเป็นนโยบายสำคัญในการดูแลแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งอย่างรวดเร็ว ทันเวลา และครอบคลุมทุกมิติรอบด้านอย่างยั่งยืน เพื่อป้องกันการเกิดผลกระทบเชิงลูกโซ่ตามมาเมื่อปัญหาใดปัญหาหนึ่งสิ้นสุดลง” นายกฤษฎา กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ทุ่นระเบิดใหม่ตอกย้ำกัมพูชาละเมิดกติกาสากล

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – วันนี้ รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูตภาคีอนุสัญญาออตตาวา ลงพื้นที่ดูปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด บนภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมเรียกร้องให้ตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ผู้บริจาค ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ยืนยันเป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่เพิ่งพบช่วงเหตุปะทะล่าสุด.-สำนักข่าวไทย

ผลถก RBC กัมพูชาเมินกู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์

ตราด 16 ส.ค. – กัมพูชายังไม่ให้ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด หลังฝ่ายไทยผลักดันในเวที “RBC ไทย-กัมพูชา” พื้นที่ชายแดนจันทบุรี-ตราด พร้อมการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ แขวนไว้หารือในการประชุมครั้งต่อไป พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า วันนี้ (16 สิงหาคม 2568) พลเรือโท อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และพลตรี อุย เฮียง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา ตลอดจนคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคของทั้งสองฝ่าย จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ (Regional Border Committee) หรือ RBC ณ ประเทศไทย ที่บ้านทะเลภูรีสอร์ท อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เพื่อร่วมกันหารือในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และการดำเนินชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศด้วยสันติวิธี โดยได้ลงนามใน “บันทึกความตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ราชอาณาจักรไทย กับภูมิภาคที่ 3 […]

วัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะแจงดำเนินคดีอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท

กทม. 16 ส.ค.-ไวยาวัจกรฝ่ายกฎหมายวัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะชี้แจงการดำเนินคดีกับอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท ตรวจสอบประวัติย้อนหลัง 10 ปี พบปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาส 240 ครั้ง ด้านเจ้าอาวาสยอมรับเสียใจ ผิดหวังที่ไว้ใจคนใกล้ตัว ไวยาวัจกรวัดฝ่ายกฎหมาย ตั้งโต๊ะชี้แจง กรณีที่มีบุคคลภายในวัดปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์วรวิหาร ไปถอนเงินออกจากบัญชีวัดกว่า 240 ครั้ง ยักยอกเงินกว่า 56 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน ปี 67 ที่ผ่านมา ในส่วนการดำเนินการขณะนี้แบ่งเป็น 3 คดี คดีแรก พบการกระทำความผิดคือเมื่อเดือนเมษายน 2567 ทางวัดได้รับบริจาคจากกองทัพเรือเป็นแคชเชียร์เช็ค 1.5 ล้านบาท ลงวันที่ 10 เมษายน 2567 โดยในแคชเชียร์เช็คระบุว่ามอบให้ทางวัด จึงต้องเอาเข้าบัญชีวัด ทางเจ้าอาวาสจึงมีการมอบให้นายกฤษณ์ ที่เป็นไวยาวัจกรวัดในตอนนั้น เอาแคชเชียร์เช็คดังกล่าวไปขึ้นเงินและเอาเข้ายังบัญชีของวัด ต่อมาทางเจ้าอาวาสได้ทวงถามไปยังนายกฤษณ์ เพราะในขณะนั้นจำเป็นจะต้องบูรณะศาสนสถาน แต่นายกฤษณ์ อ้างว่าไม่ว่าง และได้มอบหมายให้นายชัยณรงค์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยไวยาวัจกรในตอนนั้นนำเงินไปเข้าธนาคาร ทางเจ้าอาวาสเลยมีการติดต่อไปยังนายชัยณรงค์ เพื่อทวงถามเรื่องเงิน แต่ก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด […]

“มาริษ” นำคณะทูตดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูต 33 ประเทศ ดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ เตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง ให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ หลังจากฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในภาพรวมที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา และตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ รวม 33 ประเทศ ขึ้นไปสำรวจพื้นที่และดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ ที่อยู่ใกล้แนวปราสาทพระวิหาร เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่ขึ้นภูมะเขือ งดถ่ายภาพติดพื้นที่ทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ระหว่างทางขึ้น ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ถูกสะเก็ดเสียหายอีก 2 หลัง โดยจุดนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายด้วย เพื่อให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ.-สำนักข่าวไทย