กทม. 14 ก.ย.-ตำรวจบุกค้นบ้านโมเดลลิ่งจัดหาโคโยตี้ หลังเพจดังเผยแพร่คลิปตบเด็กในสังกัดอ้างลงโทษเพราะผิดกฎของบ้าน เจอปรับ 500 บาท
จากกรณีเพจ Social Hunter แชร์เรื่องราวจากสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นแฟนกันและหยุดงานไปเที่ยว แต่เมื่อกลับมากลับถูกนายจ้างลงโทษโดยการให้นั่งเก้าอี้แล้วให้คนในร้านมาตบหน้าอย่างแรง พร้อมตั้งคำถามว่า นายจ้างมีสิทธิอะไรในการลงโทษลูกจ้างด้วยวิธีดังกล่าว ซึ่งต่อมามีคลิปนายจ้างของเด็กคนดังกล่าวออกมาอธิบายว่า ได้ตั้งกฎไม่ให้เด็กขายยา หากพบจะลงโทษ จากนั้นพบว่าบ้านหลังดังกล่าวอ้างว่าเป็นโมเดลลิ่งจัดหาโคโยตี้ มีเด็กในสังกัด 15-20 คน โดยมีเด็กที่เป็นทอม คอยชักชวนผู้หญิงเข้ามาในบ้าน เพื่อจะส่งเด็กไปตามร้านต่างๆ โดยโมเดลลิ่งจะหักรายได้และตั้งกฎว่าห้ามคบกัน ห้ามหยุดพร้อมกัน ห้ามนอนด้วยกัน หากผิดกฎจะให้เวียนกันตบ ซึ่งพบว่าเด็กมีทั้งอายุต่ำกว่า 18 ปีด้วย อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากการทำโทษด้วยวิธีสุดโหด ยังมีข้อกังขาว่า ธุรกิจดังกล่าวเข้าข่ายการค้ามนุษย์ด้วยหรือไม่
พ.ต.อ.เอกรัตน์ เปาอินทร์ ผกก.สน.บางขุนนนท์ เข้าทำการตรวจสอบการกรณีคลิปลงโทษ โดยเดินทางไปที่บ้านพักหลังที่ปรากฏในคลิป ซึ่งตั้งอยู่ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 35 แขวงบางขุนศรี เขตบางขุนนนท์ กรุงเทพฯ พบนางพรรณวรท อายุ 34 ปี เป็นผู้ครอบครองบ้านและเป็นผู้นำตรวจค้น ซึ่งผลการตรวจค้นพบผู้ชาย 1 คน ผู้หญิง 15 คน ซึ่งมีทั้งผู้หญิงและทอม ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย จึงนำตัวมาที่ สน.บางขุนนนท์ เพื่อตรวจสอบปัสสาวะแต่ไม่พบสารเสพติด จากการสอบสวนทราบว่า คลิปที่เผยแพร่ออกไปเป็นการทำโทษ เนื่องจากผู้หญิงในคลิปมีพฤติการณ์เกี่ยวกับยาเสพติด ส่วนทอมมีพฤติการณ์คบกับผู้หญิงภายในบ้านจึงทำการลงโทษด้วยการตบหน้า ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นประมาณ 2 เดือนที่แล้ว จากนั้นหญิงที่ถูกตบหน้าได้ขอออกจากบ้านไปก่อนมีคลิปเผยแพร่ออกมา พนักงานสอบสวนจึงได้ทำการเปรียบเทียบปรับนางพรรณวรท ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น คู่กรณียินยอมให้ทำการเปรียบเทียบปรับ จึงปรับเป็นเงิน 500 บาท ส่วนการมาพักรวมกันนั้นทั้งหมดที่เป็นผู้หญิงจะรับจ้างเป็นโคโยตี้ไปเต้นที่ร้านแห่งหนึ่งใน ซ.สุขุมวิท 23 (ซอยคาวบอย) ส่วนทอมจะทำหน้าที่รับจ้างเสิร์ฟอาหาร โดยมีนางพรรณวรทและสามี คอยรับส่ง อยู่รวมกันโดยแชร์ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำไฟ ค่าอาหารกันด้วยความเต็มใจ.-สำนักข่าวไทย