ทำเนียบรัฐบาล 12 ก.ย. – ครม.เห็นชอบ กฟผ.สร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนผาจุก วงเงินลงทุน 1,881 ล้านบาท ไฟเขียวแผนพัฒนาตลาดทุนฉบับที่ 3 และยุทธศาสตร์พัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี
พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกรัฐบาล กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบยุทธศาสตร์พัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (2560-2579) ดำเนิน 5 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1.พัฒนาและสนับสนุนมีที่อยู่อาศัยได้มาตรฐาน โดยจะตั้งศูนย์ข้อมูลที่อยู่อาศัยแห่งชาติบูรณาการข้อมูลให้เป็นฐานเดียวกันทั้งประเทศ 2.เสริมสร้างระบบการเงินและสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงระบบการเงิน โดยมีจะมีการจัดตั้งกองทุนที่อยู่อาศัยแห่งชาติหักภาษีที่ดินสิ่งปลูกสร้างมาสนับสนุนกองทุนดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้งกองทุนสนับสนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อของกลุ่มเป้าหมาย 3.ยกระดับการบูรณาการด้านบริหารจัดการที่อยู่อาศัย ให้ทุกภาคส่วนมีส่วนขับเคลื่อนงานที่อยู่อาศัย 4.ส่งเสริมให้ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืนสามารถพึ่งพาตนเองได้ และ 5.การจัดการสิ่งแวดล้อมเพื่อคุณภาพชีวิต โดยตามแผนตั้งเป้าพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยดำเนินโครงการโดยการเคหะแห่งชาติ 2.2 ล้านหน่วย พัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยในเขตเมืองและชนบท 1.05 ล้านครัวเรือน และมีแผนปรับปรุงที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ 440,000 หลัง ปรับปรุงสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยสำหรับคนพิการ 132,000 หลัง
นอกจากนี้ ครม.เห็นชอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนผาจุก วงเงินลงทุนรวม 1,881 ล้านบาท พร้อมอนุมัติการเบิกจ่ายงบประมาณลงทุนประจำปี 2560 สำหรับโครงการดังกล่าว 251 ล้านบาท โครงการดังกล่าวจะเป็นการพัฒนาผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนตามแผน AEDP 2015 เพื่อลดสัดส่วนการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ ซึ่งโครงการนี้จะตั้งบริเวณฝั่งซ้ายของเขื่อนทดน้ำผาจุกห่างจากท้ายเขื่อนสิริกิติ์ 43 กิโลเมตร อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยประโยชน์ที่จะได้รับจะช่วยลบดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ปีละ 45,833 ตัน เพิ่มความมั่นคงให้ระบบไฟฟ้าโดยเฉพาะกรณีโรงไฟฟ้าเขื่อนสิริกิติ์ไม่สามารถเดินเครื่องได้จากเหตุสุดวิสัยและลดภาระจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับพื้นที่ในอนาคต
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้านข้าราชการ (ฉบับที่…) พ.ศ…. ปรับโครงสร้างบัญชีอัตราค่าเช่าบ้านข้าราชการใหม่เป็น 5 ประเภท จากเดิมสนับสนุน 800-4,000 บาท เป็น 2,500-6,000 บาท เนื่องจากไม่ได้ขึ้นค่าเช่าบ้านตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งกระทรวงการคลังสนับสนุนงบประมาณ 4,500 ล้านบาทต่อปี จากเดิม 3,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะมีผู้ได้รับประโยชน์ประมาณ 2 ล้านคน
นอกจากนี้ ครม.เห็นชอบร่างแผนพัฒนาตลาดทุนไทยฉบับที่ 3 (ปี 2560-2564) มุ่งเน้นให้เข้าถึงแข่งขันได้เชื่อมโยงตลาดการเงินระดับกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และกลุ่มประเทศ CLMV พร้อมสนับสนุนให้สามารถเข้าสู่สังคมสูงอายุและบุคลากรตลาดการเงินไทยที่มีคุณภาพในจำนวนที่เหมาะสม พร้อมส่งเสริมให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับตลาดการเงินไทยมีความรู้การเงินขั้นพื้นฐานอย่างเหมาะสม โดยจะดำเนินการผ่าน 5 มาตรการ ประกอบด้วย 1.แหล่งเงินทุนเอสเอ็มอีและนวัตกรรม 2.แหล่งสนับสนุนการลงทุนสำหรับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ 3.เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของตลาดทุนไทย 4.พัฒนาตลาดทุนไทยเป็นจุดเชื่อมภูมิภาค และ 5.มีแผนรองรับสังคมผู้สูงอายุ เนื่องจากปัจจุบันระบบการออมเพื่อการเกษียณของคนไทยยังมีข้อจำกัด เช่น ไม่ครอบคลุมการออมของแรงงาน รายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพหลังเกษียณอายุ คาด 5 ปีข้างหน้าตลาดทุนไทยจะเป็นแหล่งระดมทุนสำคัญของภาครัฐและธุรกิจโดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถเข้าถึงตลาดทุนไทยสะดวกมากขึ้น เป็นแหล่งระดมทุนสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมตั้งเป้าหมายมูลค่าหลักทรัพย์ใน ตลท. 1.5 เท่าของจีดีพีประเทศ และมีมูลค่าตลาดตราสารหนี้ 0.25 เท่าของจีดีพี .-สำนักข่าวไทย