ครม.เห็นชอบ กฟผ.สร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนผาจุก

ทำเนียบรัฐบาล  12 ก.ย. – ครม.เห็นชอบ กฟผ.สร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนผาจุก วงเงินลงทุน 1,881 ล้านบาท ไฟเขียวแผนพัฒนาตลาดทุนฉบับที่ 3 และยุทธศาสตร์พัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี 


พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกรัฐบาล กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบยุทธศาสตร์พัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (2560-2579) ดำเนิน 5 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1.พัฒนาและสนับสนุนมีที่อยู่อาศัยได้มาตรฐาน โดยจะตั้งศูนย์ข้อมูลที่อยู่อาศัยแห่งชาติบูรณาการข้อมูลให้เป็นฐานเดียวกันทั้งประเทศ 2.เสริมสร้างระบบการเงินและสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงระบบการเงิน โดยมีจะมีการจัดตั้งกองทุนที่อยู่อาศัยแห่งชาติหักภาษีที่ดินสิ่งปลูกสร้างมาสนับสนุนกองทุนดังกล่าว นอกจากนี้  ยังมีการจัดตั้งกองทุนสนับสนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อของกลุ่มเป้าหมาย 3.ยกระดับการบูรณาการด้านบริหารจัดการที่อยู่อาศัย ให้ทุกภาคส่วนมีส่วนขับเคลื่อนงานที่อยู่อาศัย 4.ส่งเสริมให้ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืนสามารถพึ่งพาตนเองได้ และ 5.การจัดการสิ่งแวดล้อมเพื่อคุณภาพชีวิต โดยตามแผนตั้งเป้าพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยดำเนินโครงการโดยการเคหะแห่งชาติ 2.2 ล้านหน่วย  พัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยในเขตเมืองและชนบท 1.05 ล้านครัวเรือน และมีแผนปรับปรุงที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ 440,000 หลัง ปรับปรุงสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยสำหรับคนพิการ 132,000 หลัง 

นอกจากนี้ ครม.เห็นชอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนผาจุก วงเงินลงทุนรวม 1,881 ล้านบาท พร้อมอนุมัติการเบิกจ่ายงบประมาณลงทุนประจำปี 2560 สำหรับโครงการดังกล่าว 251 ล้านบาท โครงการดังกล่าวจะเป็นการพัฒนาผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนตามแผน AEDP 2015 เพื่อลดสัดส่วนการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ ซึ่งโครงการนี้จะตั้งบริเวณฝั่งซ้ายของเขื่อนทดน้ำผาจุกห่างจากท้ายเขื่อนสิริกิติ์ 43 กิโลเมตร อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยประโยชน์ที่จะได้รับจะช่วยลบดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ปีละ 45,833 ตัน เพิ่มความมั่นคงให้ระบบไฟฟ้าโดยเฉพาะกรณีโรงไฟฟ้าเขื่อนสิริกิติ์ไม่สามารถเดินเครื่องได้จากเหตุสุดวิสัยและลดภาระจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับพื้นที่ในอนาคต 


นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า  ที่ประชุม ครม.อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้านข้าราชการ (ฉบับที่…) พ.ศ…. ปรับโครงสร้างบัญชีอัตราค่าเช่าบ้านข้าราชการใหม่เป็น 5 ประเภท จากเดิมสนับสนุน 800-4,000 บาท เป็น 2,500-6,000 บาท เนื่องจากไม่ได้ขึ้นค่าเช่าบ้านตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งกระทรวงการคลังสนับสนุนงบประมาณ 4,500 ล้านบาทต่อปี จากเดิม 3,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะมีผู้ได้รับประโยชน์ประมาณ 2 ล้านคน

นอกจากนี้ ครม.เห็นชอบร่างแผนพัฒนาตลาดทุนไทยฉบับที่ 3 (ปี 2560-2564) มุ่งเน้นให้เข้าถึงแข่งขันได้เชื่อมโยงตลาดการเงินระดับกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และกลุ่มประเทศ CLMV พร้อมสนับสนุนให้สามารถเข้าสู่สังคมสูงอายุและบุคลากรตลาดการเงินไทยที่มีคุณภาพในจำนวนที่เหมาะสม พร้อมส่งเสริมให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับตลาดการเงินไทยมีความรู้การเงินขั้นพื้นฐานอย่างเหมาะสม โดยจะดำเนินการผ่าน 5 มาตรการ ประกอบด้วย 1.แหล่งเงินทุนเอสเอ็มอีและนวัตกรรม 2.แหล่งสนับสนุนการลงทุนสำหรับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ  3.เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของตลาดทุนไทย 4.พัฒนาตลาดทุนไทยเป็นจุดเชื่อมภูมิภาค และ 5.มีแผนรองรับสังคมผู้สูงอายุ เนื่องจากปัจจุบันระบบการออมเพื่อการเกษียณของคนไทยยังมีข้อจำกัด  เช่น ไม่ครอบคลุมการออมของแรงงาน รายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพหลังเกษียณอายุ  คาด 5 ปีข้างหน้าตลาดทุนไทยจะเป็นแหล่งระดมทุนสำคัญของภาครัฐและธุรกิจโดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถเข้าถึงตลาดทุนไทยสะดวกมากขึ้น เป็นแหล่งระดมทุนสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน  พร้อมตั้งเป้าหมายมูลค่าหลักทรัพย์ใน ตลท. 1.5 เท่าของจีดีพีประเทศ และมีมูลค่าตลาดตราสารหนี้ 0.25 เท่าของจีดีพี .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทหารกัมพูชาขุด “คูเลต” ลากยาว 650 เมตร

อุบลราชธานี 28 พ.ค.- เปิดภาพ! “คูเลต” ทหารกัมพูชาขุดลากยาว 650 เมตร จากต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาว จุดปะทะทหารไทย เมื่อวันที่ 28 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ภายหลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี หลังพบขุดคูเลต จากจุดต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาว ระยะทาง 650 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา เพราะเป็นการละเมิด MOU 2543 เป็นครั้งที่ 2 แต่ทางทหารกัมพูชากับยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน โดยช่วงนี้อยู่ระหว่างการเจรจาของผู้นำในพื้นที่ทั้งสองฝ่าย โดยฝ่ายทหารไทยยืนยันว่าให้ทหารกัมพูชา ออกจากพื้นที่อ้างสิทธิพร้อมกัน-313 .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ

อุบลราชธานี 28 พ.ค.- มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ ทหารไทยเข้าเจรจากลับยิงสวน ลั่นปกป้องอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 เต็มที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึง เหตุปะทะระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา กำลังพลของกองกำลังสุรนารีได้ลาดตระเวนและพบว่า ทหารกัมพูชาขุดคูเลต เช่นเดียวกับเนิน 745 ช่องบก ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา แต่ทางกัมพูชา ยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน อย่างที่เป็นข่าว สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อจากนี้ ผู้บังคับบัญชาในระดับพื้นที่กำลังพูดคุยเจรจา “ยืนยันว่าทหารไทยทำหน้าที่รักษาอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 ซึ่งในพื้นที่ทับซ้อนของทั้ง 2 ประเทศ จะมีการออกลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายล้ำเข้ามา ซึ่งทุกฝ่ายต้องยึดตาม MOU 2543”.-313.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารกัมพูชา

ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณช่องบก คลี่คลายแล้ว

กองทัพบก 28 พ.ค.-ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว อยู่ระหว่างรอการเจรจา พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา โดยระบุว่าได้รับรายงานจาก กองกำลังสุรนารีเกี่ยวกับเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 05.30 น. โดย หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี ได้รับการรายงานว่ามีทหารกัมพูชาเข้ามาวางกำลังในพื้นที่อ้างสิทธิ์ ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลง ฝ่ายไทยจึงจัดชุดประสานงานเพื่อเข้าพูดคุยเจรจาตามแนวทางการปฏิบัติที่เคยกระทำมา เมื่อถึงบริเวณดังกล่าว กำลังส่วนระวังเหตุของทหารกัมพูชา ได้เข้าใจผิด และเริ่มใช้อาวุธ ฝ่ายไทยจึงใช้อาวุธตอบโต้กลับไป โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ต่อมาเวลา 05.55 น. พลตรี ทล โซะวัน รองผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ฝ่ายกัมพูชา ได้โทรศัพท์ประสานงานกับ พันเอก บุญเสริม บุญบำรุง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายยุติ โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงหยุดยิงและตรึงกำลังบริเวณจุดปะทะ ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการเจรจาผ่านกลไกทวิภาคี เพื่อจัดการกรณีอ้างสิทธิในพื้นที่ และกำหนดแนวทางร่วมกันในการปฏิบัติอย่างสันติ ตามข้อตกลงที่มีอยู่ […]

มติเอกฉันท์ สภาอนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล”

รัฐสภา 28 พ.ค.- สภาเอกฉันท์อนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล” ให้ธนาคารร่วมชดใช้ค่าเสียหายจาก “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” เร่งคืนเงินผู้เสียหาย ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ วาระการพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 และ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ซึ่งแบ่งเวลาในการอภิปรายฝ่ายละ 2 ชั่วโมง รวม 4 ชั่วโมง และจะเป็นการรวมพิจารณา และแยกลงมติทีละฉบับ โดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เสนอหลักการว่า เนื่องจากปัจจุบัน มี พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญกรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ยังมีมาตรการบังคับทางกฎหมายที่ยังไม่เพียงพอ กับรูปแบบอาชญากรรม กลุ่มมิจฉาชีพ จึงต้องแก้ไขปรับปรุงให้ทันสมัย เช่น การเร่งคืนเงินให้ผู้เสียหาย, การอาญัติบัญชีม้า, การกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของสถาบันการเงิน ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ และมาตรการการโอนเงินผิดกฎหมาย ผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล จากนั้น ได้เปิดโอกาสให้ สส.อภิปรายอย่างกว้างขวาง โดยนายจุติ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดเส้นทางงดให้ชาวบ้านขึ้น “ช่องบก” หลังเหตุปะทะไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 29 พ.ค. – บรรยากาศภายในจุดเฝ้าระวัง ภจ12 (ฐานมรกต) อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ในหมู่บ้านโนนสูง หมู่ 3 ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นทางขึ้นสู่ช่องบก ยังคงตึงเครียดต่อเนื่อง หลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.68) เช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้ปิดเส้นทางไม่ให้ชาวบ้านขึ้นไปยังพื้นที่ด้านบน พร้อมมีการตรึงกำลังทหารเพื่อดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกัน มีรถพยาบาลทยอยขึ้นไปยังพื้นที่เกิดเหตุอย่างต่อเนื่อง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้มีการบันทึกภาพบริเวณที่ตั้งกำลังของทหารไทย นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งจุดอำนวยการฉุกเฉิน โดยขนย้ายเต็นท์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ขึ้นไปเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ ชาวบ้านในพื้นที่แสดงความกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายสิทธิ์ อายุ 73 ปี กล่าวว่า ปกติจะขึ้นป่าเป็นประจำ แต่ตอนนี้เจ้าหน้าที่ห้ามเข้าพื้นที่ ทำให้ขาดรายได้ ขณะที่นางพวย อายุ 61 ปี เล่าว่า นี่เป็นครั้งที่ 3 ที่พบเหตุการณ์ในลักษณะนี้ ก่อนหน้านี้เคยมีกระสุนตกลงมาในหมู่บ้าน แม้รู้สึกกลัว แต่ก็พอทำใจได้ เพราะเคยผ่านเหตุการณ์คล้ายกันมาแล้ว ในช่วงบ่ายวันนี้ นายอำเภอน้ำยืนเตรียมเรียกประชุมหน่วยงานราชการในพื้นที่ เพื่อวางแนวทางรับมือและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะที่เวลา […]

นายกฯ ยันศาลฯ เบรกภาษี “ทรัมป์” ไม่กระทบแผนเจรจาไทย

กรุงเทพฯ 29 พ.ค. – นายกฯ ยันศาลการค้ารัฐบาลกลางเบรกภาษี “ทรัมป์” ไม่ส่งผลกระทบแผนเจรจาไทย ทีมงานยังเดินหน้าต่อ จนถึงวันนี้ยังไม่ได้วันนัดชัดเจน รู้สึกสบายใจหลายประเทศอาเซียนก็อยู่ระดับเดียวกับไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ มีคำวินิจฉัยว่า ทรัมป์ ไม่สามารถใช้อำนาจฉุกเฉินในการกำหนดภาษีศุลกากรทั่วโลกได้ เรื่องนี้จะส่งผลกับประเทศไทยที่กำลังรอเจรจาเรื่องภาษีสหรัฐอเมริกาอยู่หรือไม่ ว่า ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการไปตกลงจะมีผลอย่างไร ซึ่งตนเองก็ไม่แน่ใจแต่เราก็ต้องทำต่อ เตรียมความพร้อมต่อไป จะหยุดชะงักเลยก็คงไม่ได้และไม่แน่ใจว่ารับฟังหรือยัง เพราะระหว่างที่ไปประชุมที่มาเลเซียได้มีโอกาสได้คุยกับทุกประเทศ ได้คุยกันเรื่องของภาษีสหรัฐอเมริกา ทุกคนพูดเหมือนกันว่าหลายประเทศอยู่ในระดับเดียวกับประเทศไทย คือส่งรายงานเข้าไปและรอวันที่จะตอบกลับมาว่าจะได้ไปคุยวันไหน ยืนยันว่าเราไม่ได้ช้าและอยู่ในขั้นตอนของการรอวันที่จะไปคุยเช่นกันตามกรอบ 90 วัน จึงขอให้สบายใจได้ และจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้วันชัดเจนว่าจะได้คุยวันไหนต้องรอให้ทางสหรัฐอเมริกานัดมา แต่ในทีมทำงานไม่เป็นทางการยังติดต่อกันได้ ยังได้คุยและอัพเดทสถานการณ์กันอยู่ และก็เป็นสัญญาณบวก และย้ำอีกครั้งว่า ตนเองไม่ได้ถูกแบนวีซ่าสหรัฐอเมริกาขอให้สบายใจได้. -420-สำนักข่าวไทย

หุ้นบวก-บาทอ่อน-ทองลง รับข่าวที่ศาลฯ ระงับมาตรการภาษีตอบโต้ของ “ทรัมป์”

กรุงเทพฯ 29 พ.ค. – หุ้นไทยบวก-บาทอ่อนค่า-ทองลง รับข่าวที่ศาลฯ ระงับมาตรการภาษีตอบโต้ของ “ทรัมป์” ขณะ บล.กรุงศรี คาด SET จะกลับเหนือ 1,200-1,210 จุด ใน 1-3 วัน เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 32.84-32.86 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (เวลา 09.56 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 32.62 บาทต่อดอลลาร์ฯ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุเงินบาทอ่อนค่าลงสอดคล้องกับสกุลเงินเอเชียอื่นๆ เงินเยน และเงินฟรังก์ สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่แข็งค่าขึ้น รับข่าวที่ศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ในนิวยอร์กระงับการใช้มาตรการภาษีศุลกากรของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ออกมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขต ในการเก็บภาษีแบบครอบคลุมจากประเทศที่ส่งออกสินค้ามายังสหรัฐฯ มากกว่าที่นำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ด้านทำเนียบขาวได้ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าว และอาจยื่นเรื่องต่อไปจนถึงศาลสูงหากจำเป็น แต่ในระหว่างนี้ ตลาดมองว่าเป็นสัญญาณบวกว่าทรัมป์อาจยอมถอยจากการกำหนดภาษีในระดับสูงสุดที่เคยขู่ไว้ นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทยังสอดคล้องกับการปรับตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก และสัญญาณสะท้อนสถานะ outflows ของนักลงทุนต่างชาติออกจากตลาดพันธบัตรไทยในวันนี้ด้วยเช่นกัน สมาคมค้าทองคำ […]

“วันนอร์” ชมการอภิปรายงบฯ 69 วันแรก ไม่น่าเบื่อ ประเด็นไม่ซ้ำ

รัฐสภา 29 พ.ค.-“วันนอร์” ชมการอภิปรายงบฯ 69 วันแรก ทุกคนเตรียมตัวมาดี ข้อมูลเป็นประโยชน์ ไม่น่าเบื่อ ประเด็นไม่ซ้ำ ระบุแม้ สส. – รมต. – นายกฯ ไม่อยู่ห้องประชุม แต่รับฟังจากทีวี – วิทยุ ด้านนอกได้ บอก “กุสุมาลวตี” ยื่นสอบจริยธรรม “อนุทิน” ทำได้ โยนฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงภาพรวมการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 วันแรก ว่า ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีได้เสนอรายละเอียดในทุกแง่มุม ซึ่งสภา และประชาชนที่ได้รับฟัง น่าจะเข้าใจว่ารัฐบาลมีความตั้งใจในการใช้งบประมาณในปีนี้ ส่วนผู้นำฝ่ายค้าน ก็อยากให้รัฐบาล และผู้ใช้งบประมาณปรับปรุงแนวทางในการทำงาน เพื่อให้งบประมาณเกิดประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด ซึ่งทุกคนไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน อภิปรายอย่างมีคุณค่าสำหรับประชาชน และผู้ที่จะใช้งบประมาณทุกภาคส่วน ก็จะนำข้อคิดเห็นนี้ไปดูแลงบประมาณ โดยหลังจากวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 จะมีการตั้งกรรมาธิการวิสามัญ 72 คน […]