พบข้อมูล ด.ญ. 14 ปี ถูกบังคับให้เสพยาบ้าก่อนข่มขืน-มีเหยื่ออีก 2 คน

พังงา 4 ก.ย.-ประเด็นข่าวใหญ่ที่ตามต่อเนื่องข้ามสัปดาห์ กับกรณีของแม่เด็กหญิงวัย 14 ปี ที่ จ.พังงา เข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่าลูกสาวถูกล่วงละเมิดทางเพศกระทำชำเราโดยชายในหมู่บ้านตัวเองและใกล้เคียงร่วม 40 คน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 59 ต่อเนื่องถึงเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน ล่าสุด พบข้อมูลน่าตกใจว่าทุกครั้งที่ลูกสาวโดนกระทำมีการบังคับให้เสพยาบ้าและไอซ์ และยังมีเด็กสาวตกเป็นเหยื่อแบบเดียวกันอีก 2 คน


แม่ของเด็กหญิงให้ข้อมูลเพิ่มอีกว่า เริ่มจับสังเกตพิรุธของญาติสามีที่ทำทีเข้ามาสนิทกับครอบครัว และสังเกตพฤติกรรมของลูกสาวที่พบความผิดปกติไปจากเดิม รวมถึงยังเคยพบคลิปวิดีโอในมือถือของลูกสาวที่ถูกถ่ายเอาไว้แต่ถูกลบออกไปแล้ว โดยได้มอบมือถือเครื่องดังกล่าวให้ตำรวจ แต่ตำรวจบอกว่า ไม่สามารถกู้คืนคลิปดังกล่าวได้

ส่วนประเด็นที่ชาวบ้านมองว่า สามีของตนเอง ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของเด็กหญิงผู้เสียหาย มีภาวะจิตไม่ปกติ และอาจเป็นผู้ก่อเหตุเองนั้น แม่ของเด็กยอมรับว่า สามีเป็นผู้ป่วยโรคจิตเวชจริง แต่เชื่อมั่นว่าไม่ได้เป็นหนึ่งในผู้กระทำลูกสาว ตามที่ชาวบ้านกล่าวหา


ด้านนายชานนท์ อับดุลล่าห์ ประธานมูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติ สาขาภูเก็ต ให้ข้อมูลว่า จากการสอบถามเด็กหญิงผู้เสียหาย ให้การว่าผู้ต้องหา 3 คนแรกเป็นผู้นำพาเด็กไปให้ผู้อื่นกระทำ ดังนั้น จึงอยากให้ผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยว่า จะเข้าข่ายการค้ามนุษย์ด้วยหรือไม่ แต่ยังไม่สามารถฟันธงได้ว่า  การนำพาเด็กหญิงไปร่วมกระทำการข่มขืนนั้น เพื่อแลกกับยาเสพติด หรือแลกกับตัวเงิน

ประเด็นนี้กลายเป็นคดีใหญ่อีกครั้ง เมื่อแม่ของเด็กหญิงวัย 14 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรโคกกลอย จ.พังงา  เมื่อวันศุกร์ที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา โดยระบุว่า บุตรสาวถูกชายในหมู่บ้านเกาะแรด หมู่ที่ 6 ต.หล่อยูง อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา และชายในหมู่บ้านที่มีอาณาเขตติดกันร่วม 40 คน ร่วมกันล่วงละเมิดทางเพศ ข่มขืน กระทำชำเราบุตรสาวตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2559 ต่อเนื่องกันจนถึงเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน


โดยคดีนี้แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งให้พนักงานอัยการตรวจสอบ ต่อมาพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องเมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยขณะนั้นปรากฏผู้ต้องหาที่ศาลจังหวัดพังงาอนุมัติออกหมายจับ 3 คน ซึ่งมีศักดิ์เป็นญาติของพ่อเลี้ยงของเด็กหญิงผู้เสียหาย และศาลจังหวัดพังงาได้อนุญาตปล่อยตัวทั้ง 3 รายชั่วคราวในระหว่างการต่อสู้คดี โดยนัดให้มีการสืบพยานทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยเพิ่มเติมในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้

ในส่วนที่ 2 แม่ของเด็กหญิงได้ร่วมกับมูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติ สาขาภูเก็ต และบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพังงา ร่วมกันซักถามเด็กหญิงผู้เสียหายเพิ่มเติม จนกระทั่งเด็กหญิงให้ข้อมูลเพิ่ม โดยฝ่ายผู้เสียหายได้มอบข้อมูลในการซักถามเด็กหญิงให้สำนักข่าวไทย ซึ่งมีเนื้อหาความยาว 7 หน้ากระดาษ โดยเป็นหนังสือรายงานข้อเท็จจริงกรณีเด็กหญิงวัย 14 ปี ถูกละเมิดทางเพศ เพื่อจะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดเพิ่มเติม โดยหนังสือฉบับนี้มีตราของมูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติ สาขาภูเก็ต อยู่ด้านบน และระบุว่าในการสัมภาษณ์เด็กหญิงผู้เสียหายทั้ง 2 ครั้ง มีผู้ปกครองและเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว รวมถึงเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิฯ ร่วมอยู่ด้วย โดยมีใจความว่า เด็กหญิงถูกผู้ชายในหมู่บ้านเดียวกันและต่างหมู่บ้านกระทำการข่มขืนมากกว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ที่กำลังเป็นคดีความ โดยระบุผู้ต้องหามีราว 40 คน ในจำนวนนี้มีทั้งที่จดจำชื่อได้และไม่ได้ รวมถึงยังจำได้ว่ามีแรงงานชาวพม่าที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านใกล้เคียงด้วย จนทำให้มีการแจ้งความเพิ่มเติมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ล่าสุด วันนี้ เด็กหญิงผู้เสียหายถูกนำตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลพังงาแล้ว โดยคาดว่าจะทราบผลภายใน 1-2 วันนี้

มีความเคลื่อนไหวอีกด้าน นายเอกรัฐ หลีเส็น รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เรียกประชุมด่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และหาแนวทางไม่ให้เกิดเหตุความขัดแย้งที่อาจบานปลายไปสู่ความรุนแรง หลังจากมีกระแสข่าวว่า ชาวบ้านเกาะแรดจะรวมตัวยื่นหนังสือเรียกร้องความเป็นธรรมให้คนในหมู่บ้าน หลังถูกพาดพิงในคดีดังกล่าว ขณะเดียวกันได้จัดทีมงานเข้าไปให้คำปรึกษาและให้กำลังใจชาวบ้าน ซึ่งยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ในส่วนของผู้เสียหายได้นำตัวไปอยู่ในที่ปลอดภัย ตามกฎหมายคุ้มครองพยาน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

น่านยังอ่วม บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

น่าน 25 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 3 น้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ของเมืองน่าน แม้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ในตัวเมือง-เขตเศรษฐกิจยังท่วมสูง บางจุดระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมกู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

มีผลทันที! ประกาศกฎอัยการศึก 8 อำเภอ “จันทบุรี-ตราด”

25 ก.ค.- กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศใช้กฎอัยการศึกบางพื้นที่ มีผลทันที กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด “ประกาศใช้กฎอัยการศึก” บางพื้นที่ ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 21.05 นาฬิกา ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น โดยที่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาได้ใช้กำลังและอาวุธรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตลอดแนวชายแดน จึงมีความจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อป้องกันประเทศให้พ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักรดังกล่าว เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 176 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี […]

จรวด BM-21 ตกในพื้นที่สุรินทร์ 6 ลูก เร่งอพยพคนเพิ่ม

สุรินทร์ 25 ก.ค. – กระสุนของฝั่งกัมพูชามาตกไกลกว่าเหตุปะทะปี 2554 ตามที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ ล่าสุดมีจรวด BM-21 จำนวน 6 ลูก ตกในพื้นที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เตรียมอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัยกว่า .-สำนักข่าวไทย

สดุดี 3 ทหารกล้า สมรภูมิปราสาทตาควาย

25 ก.ค.- กองทัพภาคที่ 2 สดุดี 3 ทหารกล้า สละชีพ สมรภูมิปราสาทตาควาย หลังกัมพูชายิงจรวด BM-21 หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ยืนยันมีทหารไทยเสียชีวิต 3 นาย จากการปฏิบัติหน้าที่เมื่อช่วงเช้าวันนี้ที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ หลังกัมพูชายิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ซึ่งกัมพูชานำไปจอดไว้ในพื้นที่ชุมชน โรงเรียน และวัด เพื่อเป็นโล่กำบัง โดยทหารที่เสียสละเพื่อประเทศชาติ ได้แก่ 1.สิบเอกนพดล บุญเลิศ 2.สิบเอก กฤษฎา น้อยโคตร 3.สิบเอก จิรายุ สิงห์อ้น กองร้อยลาดตระเวนระยะไกล ที่ 6 กองพลทหารราบที่ 6 ร้อย.ลว.ไกล 6 และมีสิบเอกสุทธิชัย เรื่อเรือง ได้รับบาดเจ็บ -สำนักข่าวไทย