จัดระเบียบรถตู้วันแรกประชาชนบางส่วนยังสับสน

หมอชิต  25 ต.ค. –  กรมการขนส่งทางบกเผยการจัดระเบียบรถตู้สาธารณะวันแรก ทั้ง 3 สถานี เป็นไปอย่างเรียบร้อยและได้รับความมือจากผู้ประกอบการอย่างดี ขณะที่ประชาชนบางส่วนยังสับสน  ด้าน บขส.เตรียมปรับเวลาการเดินรถให้เป็นรูปแบบเดียวกัน


นายณันทพงษ์ เชิดชู รองอธิบดี ฝ่ายปฏิบัติการ กรมการขนส่งทางบก กล่าวภายหลังการจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะการเข้าใช้สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพในวันแรก ว่า การเข้าใช้สถานีทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ สถานีขนส่งผู้โดยสารจตุจักร หรือหมอชิต 2 สถานีขนส่งผู้โดยสารสายใต้ใหม่-ปิ่นเกล้า และสถานีขนส่งผู้โดยสารเอกมัยเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งบริเวณสถานีขนส่งหมอชิตมีวินรถตู้ทั้งหมด 111 วิน จำนวน 2,500 คัน มีประชาชนที่มาใช้บริการในสถานีขนส่งจตุจักรประมาณ 30,000 คน สถานีขนส่งสายใต้ใหม่-ปิ่นเกล้าประมาณ 20,000 คน สถานีขนเอกมัยประมาณ 10,000 คน ด้านผู้ประกอบการให้ความร่วมมืออย่างดีและในอนาคตจะมีการจัดระเบียบเส้นทางที่ทับซ้อนกัน โดยใช้เวลาศึกษาเพื่อประเมินผลระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุป

อย่างไรก็ตาม  การจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะวันแรกยังมีประชาชนบางส่วนที่ยังสับสนกับพื้นที่จอดรถ ซึ่งจะต้องมีการทำความเข้าใจและประชาสัมพันธ์เรื่องจุดจำหน่ายตั๋วและชานชาลา รวมถึงจุดจอดรถ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่ได้ทับซ้อนจากจุดเดิม นอกจากนี้  จะต้องมีการเพิ่มจำนวนเก้าอี้สำหรับที่นั่งในการพักคอยของผู้โดยสาร  ส่วนการจัดการจราจรโดยรอบจะมีเจ้าหน้าที่ให้ความสะดวกทั้งทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่จากบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เป็นผู้ดูแลประชาชนที่จะมาใช้บริการ


ทั้งนี้ หากมีการจราจรหนาแน่นจะเปิดประตู 1 , ประตู 2 และประตูด้านข้าง เป็นทางออกฉุกเฉิน  ซึ่งอยู่บริเวณด้านหลังสถานีขนส่ง ส่วนการดำเนินการกับวินและผู้ประกอบการที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะมีบทลงโทษ สำหรับพนักงานขับรถ ปรับ 5,000 – 20,000 ผู้ประกอบการ 50,000 บาท ซึ่งขณะนี้พบว่าสถานีขนส่งสายใต้ยังมีผู้ประกอบการที่ไม่ปฏิบัติตามประมาณ 10 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเข้าดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบ

นายนพรัตน์  การุณยะวนิช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบริหารการเดินรถ บขส. กล่าวว่า การดำเนินงานจัดระเบียบรถตู้ ตามนโยบาย คสช.ในการให้รถตู้ประจำทาง หมวด 2 วิ่งเส้นทางระหว่างกรุงเทพฯ ไปยังต่างจังหวัด ระยะทางไม่เกิน 300 กิโลเมตร เข้าใช้พื้นที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพทั้ง 3 แห่ง ตั้งแต่วันนี้ (25 ต.ค.) เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ผู้ประกอบการให้ความร่วมมืออย่างดีในการนำรถตู้เข้าใช้สถานีขนส่งฯ ขณะที่ผู้โดยสารที่เดินทางโดยรถตู้เป็นประจำ ก็เดินทางมาขึ้นรถที่สถานีขนส่งผู้โดยสารฯ จึงมั่นใจว่าการประชาสัมพันธ์ที่ผ่านมาได้ผล ประชาชนรับรู้ข่าวสาร อย่างไรก็ตาม บขส.จะทำการปรับปรุงป้ายประชาสัมพันธ์ภายในสถานีขนส่งฯ ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่เข้ามาใช้บริการ

ส่วนการจัดรถชัตเตอร์บัสอำนวยความสะดวกประชาชนเดินทางไปยังสถานีขนส่งผู้โดยสารทั้ง 3 แห่ง องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้จัดรถชัตเตอร์บัสวิ่งให้บริการรับ-ส่งเส้นทางอนุสาวรีย์ชัยฯ – หมอชิต 2 , รถไฟฟ้าบีทีเอสจตุจักร – หมอชิต 2 , เส้นทางอนุสาวรีย์ชัยฯ – เอกมัย และเส้นทางอนุสาวรีย์ชัยฯ – ปิ่นเกล้า โดยจะเดินรถตั้งแต่เวลา 05.00 -10.00 น. และเวลา 16.00 -20.00 น. ซึ่งจากการเดินรถเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พบว่าผู้ใช้บริการมีความต้องการเดินทางไปยังสถานีขนส่งผู้โดยสารฯ สายใต้ (ปิ่นเกล้า) จำนวนมาก ขสมก.จึงได้จัดรถชัตเตอร์เส้นทางดังกล่าวเพิ่มขึ้น จากปกติอีก  5 คัน เพื่อให้บริการประชาชน


นายนพรัตน์  กล่าวด้วยว่า ในระยะเวลา 6 เดือนหลังนี้ บขส.จะพิจารณาปรับเวลาการเดินรถ จำนวนเที่ยววิ่ง, เส้นทาง ให้เป็นไปในรูปแบบเดียวกัน เช่น กำหนดให้มีผู้ประกอบการรายเดียวเดินรถ  1 เส้นทาง เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและ บขส.สามารถเข้าควบคุมดูแล เรื่องความปลอดภัยทั้งตัวรถโดยสารและพนักงานขับรถ ได้

ทั้งนี้  เมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา  บขส.จัดรถรองรับผู้โดยสารจากกรุงเทพฯ ไปต่างจังหวัดประมาณ 7,200 เที่ยว รองรับผู้โดยสารเดินทางประมาณ 120,000 คน และเที่ยวกลับจากต่างจังหวัดเข้ากรุงเทพฯ .จัดรถประมาณ  7,400 เที่ยว  รองรับผู้โดยสารเดินทางประมาณ 130,000  คน รวมไป-กลับ ประมาณ 250,000 คน จำนวนผู้ใช้บริการต่ำกว่าประมาณที่ตั้งไว้ ทำให้การจัดรถรองรับเพียงพอ  สรุปยอดผู้โดยสารที่ใช้บริการรถ บขส.-รถร่วม ระหว่างวันที่ 21 – 24 ตุลาคมที่ผ่านมา เดินทางไป -กลับ 1,010,000 คน อย่างไรก็ตาม บขส.ได้เตรียมการรองรับประชาชนที่จะเดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มเที่ยววิ่งจากเที่ยวปกติร้อยละ  25  รวมประมาณ 7,500 เที่ยว สามารถรองรับผู้ใช้บริการได้ประมาณกว่า 150,000 คน

จัดระเบียบรถตู้3

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการจัดระเบียบรถตู้ประจำทาง หมวด 2 วิ่งเส้นทางระหว่างกรุงเทพฯ ไปยังต่างจังหวัด ระยะทางไม่เกิน 300 กิโลเมตร บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิวันแรกเป็นไปอย่างเรียบร้อย ผู้ประกอบการรถตู้โดยสารประจำทางรถร่วม (บขส.) ย้ายไปให้บริการในสถานีขนส่งผู้โดยสารทั้ง 3 แห่งตามที่กำหนดไว้  เหลือเพียงเส้นทางที่วิ่งภายในกรุงเทพฯ เป็นหลัก โดยมีการติดป้ายประชาสัมพันธ์บริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน  ทั้งนี้  ยังมีประชาชนบางส่วนที่ยังไม่ทราบข้อมูลและไม่ทราบว่าเส้นทางที่ต้องการเดินทางจะต้องไปขึ้นรถที่สถานีใด  สำหรับการเดินทางจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปสถานีขนส่งผู้โดยสาร 3 แห่ง จะมีรถชัตเตอร์บัสไว้คอยบริการ ผู้ที่ต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 1490 ตลอด 24 ชั่วโมง ขณะที่การจราจรโดยรอบอนุสาวรีย์คล่องตัว.-สำนักข่าวไทย

 

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยกหารือเวที UN พรุ่งนี้

สวีเดน 26 ส.ค.-“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ยั่วยุในพื้นที่ต่อเนื่อง เตรียมยกเรื่องนี้หารือเวที UN ที่เจนีวา พรุ่งนี้ ยันยังไม่ส่งทูตกลับ จนกว่าเขมรแสดงให้เห็นว่าจริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังการหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด (Maria Malmer Stenergard) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่มีการยั่วยุโดยใช้พลเรือนเป็นเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่หน่วยงานในพื้นที่ต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะเมื่อมีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการทำงานของทางทหารก็จะยากลำบาก อาจจะนำไปสู่การสร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นพลเรือนในพื้นที่ก็จำเป็นจะต้องเข้ามาดูแลและแก้ไขสถานการณ์ตรงนี้ นายมาริษ กล่าวว่า ในการพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ตนได้อธิบายให้เข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กัมพูชาพยายามใช้ ซึ่งขัดต่อความตกลงในกฎบัตรสหประชาชาติเป็นอย่างมาก เหมือนกับใช้ประชาชนและพลเรือนเป็นโล่มนุษย์ เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศสวีเดนก็เข้าใจ และพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ตนจะมีโอกาสได้ชี้แจงกับที่ประชุม UN ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ตนจะยกประเด็นนี้ขึ้นแสดงความห่วงกังวลว่า การใช้วิธีเอาพลเรือนมาเป็นตัวกดดัน หรือมาสร้างความตึงเครียด หรือขยายความตึงเครียดบริเวณชายแดนมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ […]

พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์ถล่มหลายจังหวัดภาคเหนือ น่านยกระดับรับมือ

26 ส.ค. – พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์แล้ว หลายจังหวัดทางภาคเหนือมีฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนมีน้ำท่วมหลายพื้นที่ และต้องจับตาไปที่จังหวัดน่าน ซึ่งพายุคาจิกิเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่และเริ่มส่งผลกระทบตั้งแต่ช่วงค่ำวันนี้ ทำให้จังหวัดน่านยกรระดับมาตรการป้องกันและเตรียมรับมือกับน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม.-สำนักข่าวไทย

Gripen ที่จัดซื้อใหม่ประสิทธิภาพดีกว่าลำเดิมที่มีอยู่

สวีเดน 26 ส.ค. – แม้รัฐบาลไทยและสวีเดนได้ลงนามความร่วมมือซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีกริพเพน E และ F ไปแล้ว แต่กว่าจะได้รับเครื่อง จะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 4 ปี ระหว่างนี้จะมีการวางกรอบพัฒนาร่วมกัน แน่นอนว่ารุ่นใหม่สเปกใหม่ดีกว่ารุ่นเก่าที่เรามี แตกต่างอย่างไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันการเผชิญหน้า “เจ๊เอ๋” ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ เจ้าหนี้คนดัง บอกว่า วันนี้ประชาชนคนไทยต้องมาเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชาด้วยตัวเอง เพราะผู้มีหน้าที่โดยตรงนิ่งเฉย ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง […]