กรุงเทพฯ 25 ส.ค. – ก.ล.ต.ลงโทษ
2
ผู้บริหารกรณีอาศัยข้อมูลภายในซื้อหุ้น BIG ห้ามดำรงตำแหน่งบริหาร
พร้อมปรับ 6.25 ลบ.
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับกรรมการและผู้บริหารของ บมจ.บิ๊ก
คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น (BIG) รวม 2 ราย ได้แก่ นายธนสิทธิ์ เธียรกาญจนวงศ์
และนายชิตชัย เธียรกาญจนวงศ์ กรณีซื้อหุ้น BIG โดยอาศัยข้อมูลภายใน
โดยเรียกชำระค่าปรับทางแพ่งและส่งคืนผลประโยชน์รวม 6.25 ล้านบาท
ทั้งนี้ ก.ล.ต.ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)
จึงตรวจสอบเพิ่มพบว่า นายธนสิทธิ์ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการ
และนายชิตชัย ขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการและผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของ BIG ได้ทราบข้อมูลยอดขายสินค้าเพิ่มขึ้นปี
2558 และเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญช่วงปลายปีดังกล่าว
ทำให้สามารถคาดการณ์แนวโน้มผลกำไรของ BIG ปี 2558 ได้ว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และนายธนสิทธิ์ และนายชิตชัย
ได้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลดังกล่าว โดยซื้อหุ้น BIG ในบัญชีของตนเอง
จำนวน 2,620,000 หุ้น และ 3,858,100 หุ้น
ตามลำดับ ก่อนที่ BIG จะมีการเปิดเผยงบการเงินประจำปี 2558
ที่แสดงผลกำไรสุทธิ 459.52 ล้านบาท
ต่อประชาชนเป็นการทั่วไปผ่านระบบของตลท.วันที่ 23 กุมภาพันธ์
2559
นอกจากนี้ การกระทำของนายธนสิทธิ์
และนายชิตชัย
เป็นการซื้อหลักทรัพย์โดยอาศัยข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงราคาของหลักทรัพย์ที่ยังไม่ได้เปิดเผยต่อประชาชนเข้าข่ายเป็นการเอาเปรียบบุคคลภายนอก
เป็นความผิดตามมาตรา 241 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535
ซึ่งมีระวางโทษอาญาตามมาตรา 296 และมาตรา 296/2
และมาตรการลงโทษทางแพ่งตามมาตรา 317/1 มาตรา 317/4
และมาตรา 317/5 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2559 คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง
(ค.ม.พ.) นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาบังคับใช้กับผู้กระทำผิด และผู้กระทำผิดทั้ง 2
ราย
ได้ทำบันทึกยินยอมรับมาตรการลงโทษทางแพ่งและปฏิบัติตามบันทึกยินยอมดังกล่าวครบถ้วนแล้ว
โดยนายธนสิทธิ์ ชำระค่าปรับทางแพ่ง 1.3
ล้านบาท และส่งคืนผลประโยชน์ 1.1 ล้านบาท และนายชิตชัยชำระค่าปรับทางแพ่ง
1.9 ล้านบาทและส่งคืนผลประโยชน์ 1.7 ล้านบาท
ซึ่งเงินค่าปรับทางแพ่งและเงินค่าชดใช้คืนผลประโยชน์ที่ได้รับจากการกระทำผิด
เป็นรายได้แผ่นดินที่ ก.ล.ต.จะนำส่งกระทรวงการคลังต่อไป นอกจากการถูกลงโทษด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งดังกล่าว
ก.ล.ต.
สั่งห้ามมิให้นายธนสิทธิ์และนายชิตชัยเป็นกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน
เป็นเวลา 1 ปี ด้วย.-สำนักข่าวไทย