กรุงเทพ ฯ 13 ส.ค.-สุริยะใสไม่ห่วงระบบแยกเบอร์รายเขต เข้าใจเหตุผลกรธ. เชื่อไพรมารีโหวตถ่วงดุลคนกับพรรค
นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) เตรียมกำหนดให้บัตรเลือกตั้งเป็นระบบแยกเบอร์รายเขต ว่า เห็นด้วยกับเรื่องนี้ และมองว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่กรธ.จะทำแบบนี้ เพราะหมดยุคผู้สมัครกับพรรคเบอร์เดียวกันทั้งประเทศแล้ว เนื่องจากระบบเลือกตั้งในรัฐธรรมนูญใหม่ปี 2560 เป็นระบบจัดสรรปันส่วนผสมเป็นระบบที่บัตรเลือกตั้งใบเดียว แต่ถูกนำเป็นนับคะแนนทั้งของผู้สมัครและของพรรค
นายสุริยะใส กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับระบบเลือกตั้งใบเดียวตั้งแต่ต้น แต่เมื่อผ่านประชามติบัญญัติในรัฐธรรมนูญแล้วก็ต้องยอมรับและอาจทดลองใช้ไปสักระยะ และเมื่อมีปัญหาต้องทบทวนแก้ไขในอนาคต การกำหนดให้แยกเบอร์ผู้สมัครตามรายเขตแม้อยู่พรรคเดียวกัน อาจทำให้ประชาชนสับสนบ้าง แต่เป็นเรื่องท้าทายทั้งผู้สมัครและผู้สนับสนุนต้องแข่งกันหาเสียงแนะนำตัวแนะนำชื่อ สร้างผลงานให้ประชาชนประทับใจและจำชื่อได้
“บางคนมองว่าระบบเบอร์ผู้สมัครต่างกันตามแต่ละเขตจะทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอ คนจะอยู่เหนือพรรค และทำให้พรรคพัฒนาเป็นสถาบันไม่ได้ ไม่แน่เสมอไปเพราะระบบไพรมารีโหวตหรือการสรรหาผู้สมัครชั้นต้นของพรรคจะเข้ามาถ่วงดุลความนิยมของคนมากกว่าของพรรคหมายความว่ามีกลไกถ่วงดุลกำกับกันระหว่างพรรคกับบุคคลไปในตัว ขึ้นอยู่กับว่าระบบไพรมารีโหวตจะมีประสิทธิภาพแค่ไหนด้วย ไหน ๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ผมเห็นด้วยกับข้อเสนอนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีที่เสนอให้พิมพ์ชื่อผู้สมัครและโลโก้พรรคลงในบัตรเลือกตั้ง เพราะที่ผ่านมาบางครั้งผู้สมัครเกาะกระแสพรรค แต่ไม่มีผลงานในเขตพื้นที่เลย ทำให้ประชาชนจำใจเลือกก็มีในอดีต ที่มีการเปรียบเปรยว่าภาคใต้พรรคประชาธิปัตย์ส่งเสาไฟฟ้าลงก็ชนะ หรือในภาคอีสานแค่ถ่ายรูปกับนายทักษิณ ชินวัตร ติดป้ายหาเสียงก็ชนะในบางเขตก็มี” นายสุริยะใส กล่าว.-สำนักข่าวไทย
