ญี่ปุ่น 16 ธ.ค.- นักเตะราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ไม่พอใจกับการใช้ภาพช้าช่วยตัดสินจังหวะสำคัญในการแข่งขันที่ฟีฟ่านำมาใช้ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก
หลังจาก “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาลล่าสุด เอาชนะ คลับ อเมริกา ทีมแชมป์จากโซนคอนคาเคฟไป 2-0 ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกรอบรองชนะเลิศ และผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับคาชิม่า แอนท์เลอร์ส จากญี่ปุ่น ในวันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม แม้ว่า ทีมดังจากสเปนจะคว้าชัยชนะได้ แต่พวกเขาก็ไม่พอใจกับวิธีการตัดสินแบบใหม่ ที่ทางสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า นำมาใช้ในรายการนี้ คือการให้ผู้ตัดสิน มาดูภาพช้าในจังหวะที่ไม่แน่ใจ เพื่อช่วยในการตัดสิน โดยเกมเมื่อค่ำวานนี้ มีจังหวะปัญหาที่ ฮาเมส โรดริเกซ จ่ายบอลทะลุช่องให้ คริสเตียโน โรนัลโด หลุดเข้าไปยิงประตูที่สอง ซึ่งนักเตะคลับ อเมริกา พยายามจะประท้วงว่าเป็นลูกล้ำหน้า
แต่หลังจากผู้ตัดสินไปตรวจสอบภาพช้าแสดงให้เห็นชัดเจนว่า สมควรเป็นประตู ซึ่งแม้การตัดสินดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อ เรอัล มาดริด แต่ผู้เล่น “ราชันชุดขาว” ก็ไม่เห็นด้วยกับการใช้ภาพช้านำมาตัดสิน โดย โรนัลโด้ ผู้ทำประตูปิดท้าย เดินมาพูดกับเพื่อนร่วมทีมหลังจบเกมว่า “การใช้ภาพช้าตัดสินเป็นเรื่องไม่ค่อยเหมาะสม”
ขณะที่ ลูกา โมดริช มองว่า จะทำให้เกิดการสับสนมากขึ้นในเกมฟุตบอล ส่วน คาเซมิโร มิดฟิลด์อีกราย เชื่อว่าฟีฟ่า ไม่ควรนำวิธีนี้มาทดลองในรายการที่สำคัญ อย่างเช่นศึกชิงแชมป์สโมสรโลก ขณะที่ ซีเนอดีน ซีดาน กุนซือ “ราชันชุดขาว” ยอมรับว่าเขาไม่ค่อยคุ้นชินกับการตัดสินวิธีนี้ แต่หากทำให้ทุกอย่างในเกมโปร่งใสขึ้น เขาก็ยอมรับได้
สำหรับการใช้ภาพช้าตัดสินลักษณะนี้เกิดขึ้นแล้ว ในเกมรอบรองชนะเลิศอีกคู่ ระหว่างคาชิมา แอนท์เลอร์ส กับ แอตเลติโก นาซิอองนาล เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยผู้ตัดสิน หยุดดูภาพช้าเพื่อให้จุดโทษกับ แอนท์เลอร์ส ก่อนที่ทีมจากญี่ปุ่นจะเอาชนะไปในที่สุด 3-0. -สำนักข่าวไทย