อุบลราชธานี 29 ต.ค.-รองเลขาธิการ ป.ป.ท.บินด่วน แจ้งความดำเนินคดีกับอดีตข้าราชการครูที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.ก่อเหตุตบทรัพย์นักการเมืองท้องถิ่น อ้างช่วยเหลือให้หลุดจากคำสั่ง ม.44 ได้ พร้อมขอให้ตำรวจอุบลฯขยายผลจับผู้ร่วมขบวนการ เพราะเชื่อไม่ได้ทำคนเดียว เผยประวัติเคยก่อคดีต้มตุ๋นยาวเป็นหางว่าว
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้(29 ต.ค.) พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ชาติตระการ พรมพิมพ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี ให้ดำเนินคดีกับนายปกรณ์ สูนานนท์ หรือในชื่อปลอมว่า นายเอกทัศน์ รุจิโยธิน อายุ 43 ปี ในข้อหาแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ท.โดยไม่มีสิทธิ หลังใช้เอกสารราชการปลอม เข้าพบอดีตนายกเทศมนตรีตำบลอุบล เมื่อวานนี้(28 ต.ค.)เพื่อหลอกเรียกเงิน โดยอ้างว่าสามารถช่วยเหลือให้หลุดพ้นจากการถูกคำสั่ง มาตรา 44 ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ระหว่างถูกสอบสวนได้
พ.ท.กรทิพย์ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่า น่าจะมีการทำกันเป็นขบวนการ ไม่น่าจะมีนายปกรณ์เพียงคนเดียว เพราะพบมีเงินหมุนเวียนในบัญชีของผู้ต้องหากว่าล้านบาท และจากการตรวจสอบเอกสารที่พบในรถยนต์ รวมทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ยึดได้จากผู้ต้องหา พบมีการทำหนังสือปลอมส่งไปยังหน่วยงาน สถานศึกษาของรัฐอีกหลายแห่งในหลายจังหวัดภาคอิสาน ในทำนองจะขอเข้าตรวจสอบความผิดปกติในการทำโครงการต่างๆ จึงขอให้พนักงานสอบสวนสืบสวนขยายผลไปถึงผู้ร่วมขบวนการรายอื่นด้วย
รองเลขาธิการ ป.ป.ท.กล่าวอีกว่า ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุบลราชธานี ที่จับกุมนายปกรณ์ไว้ได้ หลังพยายามก่อเหตุเมื่อวานนี้ ทำให้ทราบถึงพฤติกรรมและวิธีการแอบอ้างหากินของผู้ต้องหากลุ่มนี้ และวันจันทร์ที่ 31 ต.ค.นี้ สำนักงาน ป.ป.ท.ในส่วนกลาง จะได้ทำหนังสือแจ้งเตือนไปยังสำนักงาน ป.ป.ท.ทั้ง 9 เขต ให้เพิ่มความระมัดระวังการถูกแอบอ้างในลักษณะนี้
“ขอแจ้งไปถึงหน่วยงานรัฐต่างๆ หากมีหนังสืออ้างเป็น ป.ป.ท.ส่งไปถึงท่าน หรือมีผู้ไปแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ท. โดยมีพฤติกรรมอันน่าสงสัย ให้ติดต่อสอบถามมายังสำนักงาน ป.ป.ท.ในส่วนกลาง หรือสำนักงาน ป.ป.ท.เขตทั้ง 9 เขต เพื่อสอบถามความชัดเจนของบุคคล และขอเตือนว่า หากเจ้าหน้าที่รัฐคนใดได้กระทำผิดจริง ก็ไม่มีเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.รายใดสามารถช่วยเหลือให้พ้นผิดได้” รองเลขาธิการ ป.ป.ท.กล่าว
ขณะที่นายปกรณ์ สูนานนท์ หรือชื่อปลอมว่านายเอกทัศน์ รุจิโยธิน เปิดเผยถึงวิธีการนำข้อมูลไปแอบอ้างเป็น ป.ป.ท.ว่า ได้สืบค้นข้อมูลจากเวบไซต์สำนักข่าวอิสรา ซึ่งมีการเปิดโปงเรื่องการทุจริต หรือเรื่องร้องเรียนของหน่วยงานต่างๆ จากนั้นจึงปริ้นท์เอกสารข้อมูลออกมา ก่อนทำทีเข้าขอข้อมูลกับหน่วยงานที่ถูกเปิดโปง และเสนอให้ความช่วยเหลือไม่ให้มีการสอบสวนแลกกับเงินค่าใช้จ่าย
จากการตรวจสอบประวัติของเจ้าหน้าที่ พบว่านายปกรณ์ เคยเป็นทหารชั้นประทวน ยศสิบเอกสังกัดกองทัพภาคที่ 2 ก่อนโอนย้ายมารับราชการเป็นครูโรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง สังกัดสำนักงาน สพป.อุบลราชธานี เขต 4 อ.วารินชำราบ และมีพฤติกรรมต้มตุ๋นหลอกลวง โดยเมื่อ 2 ปีก่อนถูกจับดำเนินคดีฐานแอบอ้างชื่อคณะผู้บริหารในกระทรวงศึกษาธิการเรียกรับเงิน 1.8 ล้านบาท จากร้านจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์การเรียน แลกกับการได้เป็นผู้จัดซื้อจัดจ้างวัสดุครุภัณฑ์ในจังหวัดอุบลราชธานี จึงถูกปลดออกจากราชการ
หลังจากนั้น ได้ก่อคดียักยอกรถยนต์คนรู้จักไปจำนำ คดีหมิ่นประมาท และพฤติกรรมแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.ในพื้นที่หลายจังหวัด เช่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี ซึ่งหลังสอบสวนปากคำผู้ต้องหาในวันนี้ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้นำตัวนายปกรณ์ไปขอฝากขังต่อศาลจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมยื่นคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากหลังเป็นข่าวถูกจับกุม มีผู้เสียหายจากหลายจังหวัดโทรศัพท์ประสานขออายัดตัวไว้ดำเนินคดีต่ออีกหลายคดี.-สำนักข่าวไทย