หญิงบุรีรัมย์โร่แจ้งความ ค่าทำผม-เล็บ กว่า 7 พันบาท

บุรีรัมย์ 6 ก.ค.-หญิงวัย 50 เข้าแจ้งความ ร้านเสริมสวยคิดค่าทำผม-ทำเล็บ 7,200 บาท ขณะเจ้าของร้านโต้ลูกค้าผมเสียมาก ยืนยันคิดราคาทั่วไป เตรียมแจ้งความกลับ


จากกรณีที่นางบี (นามสมมุติ) อายุ 50 ปี ภรรยาชาวต่างชาติที่เดินทางกลับจากนอร์เวย์กับสามี มาเยี่ยมบ้านเกิดที่ จ.บุรีรัมย์ ได้ไปใช้บริการทำสีผม ยืดผม และทำเล็บที่ร้านเสริมสวยแห่งหนึ่งใน อ.ลำปลายมาศ พอทำเสร็จถูกเรียกเก็บเงินสูงถึง 7,200 บาท ซึ่งนางบี มองว่าแพงเกินเป็นความเป็นจริง เพราะเป็นร้านธรรมดาไม่มีเครื่องปรับอากาศ ที่ผ่านมาเคยทำกับร้านเสริมสวยตามห้างเต็มที่ก็ไม่เกิน 4,000 บาท จึงลงบันทึกประจำวันที่ สภ.ลำปลายมาศ  


โดยนางบี เล่าว่า ก่อนจะทำผมทำเล็บ ได้สอบถามราคากับเจ้าของร้านแล้วว่ายืดผมราคาเท่าไร แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบที่ระบุราคาชัดเจน บอกเพียงว่าคิดเป็นเซทๆ ละประมาณ 500 บาทและช่างก็บอกว่าผมของตนเองน่าจะทำประมาณ 3 เซท คิดว่าหากรวมทำสีผมและเล็บด้วยเต็มที่ก็น่าจะประมาณ 3,000 บาท  จึงตัดสินใจทำ พอทำเสร็จกลับถูกเรียกเก็บเงินจำนวน 7,250 บาท รู้สึกตกใจมาก แต่ก็จำเป็นต้องจ่ายเพราะทำไปแล้ว ตนเองมีเงินติดตัวอยู่เพียง 7,200 บาท ช่างจึงบอกว่าลดให้ 50 บาท เหลือ 7,200 บาท พอกลับถึงบ้านได้เล่าเรื่องให้ครอบครัวฟัง ทุกคนบอกว่าราคาแพงเกินไป จึงเข้าแจ้งความ แต่ตำรวจแจ้งว่าไม่สามารถรับแจ้งความ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสิทธิผู้บริโภค แนะนำให้ไปร้องเรียนที่ สคบ. เบื้องต้นก็ให้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน


ด้านนางสาวมด อายุ 44 ปี เจ้าของร้านเสริมสวยคู่กรณี ชี้แจงว่า นางบีได้เข้ามาสอบถามว่าจะยืดผม ตนตรวจสอบเส้นผมดูแล้ว พบว่ามีปัญหาหนักมาก ผมเสีย แข็งเป็นก้อน ลูกค้าถามมาว่าราคาเท่าไร ตนบอกไปว่าบอกราคาไม่ได้ เพราะผมเสียมาก ไม่รู้ว่าจะต้องใช้น้ำยากี่เซต ลูกค้าก็ตัดสินใจทำเองแต่ไม่ได้ตกลงราคากัน เพราะการทำผมครั้งนี้ต้องทำการยืดถึง 3 ครั้ง ใช้น้ำยา 3 เซต โดยค่าน้ำยาต่อเซต ๆ ละ 1,500 บาท รวมเป็น 4,500 บาท ค่าทำสีอีก 2,500 บาท และค่าทำเล็บ 250 บาท รวมเป็น 7,250 บาท แต่ลูกค้ามีเงินมาไม่พอจึงลดให้ 50 บาท เหลือ 7,200  บาท ซึ่งยืนยันว่าเป็นเรทปกติ ที่ผ่านมาทำให้ลูกค้าก็ไม่เคยมีปัญหาอะไร พร้อมระบุว่า จะแจ้งความกลับเอาผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และหมิ่นประมาท เพราะลูกค้ามาแอบถ่ายคลิปแล้วเอาไปโพสต์ในเฟซบุ๊ก ทำให้ร้านได้รับความเสียหาย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการ ปชช.เดินทางช่วงปีใหม่

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยไม่แจ้งล่วงหน้า กำชับ บขส. อำนวยความสะดวกเตรียมพร้อมรถ สั่งเข้มตรวจแอลกอฮอล์-ยาเสพติดพนักงานขับรถ ป้องกันอุบัติเหตุ

เดินทางปีใหม่สายเอเชีย

ถนนสายเอเชียมุ่งสู่ภาคเหนือรถเริ่มมาก

ประชาชน เริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา และไปท่องเที่ยวช่วงส่งท้ายปี 2567 รับปีใหม่ 2568 การจราจรถนนสายเอเชีย ฝั่งขาขึ้นภาคเหนือ ช่วงชัยนาท รถเริ่มมาก

ฉายาตำรวจปี67

เปิด 10 ฉายาตำรวจ ปี 67

สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมฯ เปิด 10 ฉายา ตำรวจ “บิ๊กต่าย” ฉายา “กัปตันเรือกู้” จากภารกิจร้อนในการกอบกู้วิกฤติศรัทธา-ภาพลักษณ์องศ์กร “สารวัตรแจ๊ะ” ได้ฉายา “อย่าเล่นกับระบบ แจ๊ะ”