นครราชสีมา 28 มิ.ย.-ประชาทัณฑ์หนุ่มเดนคุกหื่นข่มขืนนักเรียน ม.2 ขณะปั่นจักรยานกลับจากทำงานเสิร์ฟร้านเนื้อย่างหารายได้พิเศษ สารภาพเคยก่อคดีข่มขืนนับสิบราย มีหมายจับค้างเก่า 5 คดี
บ่ายวันที่ 28 มิ.ย.60 พ.ต.อ.ชลาสินธุ์ ชลาลัย รองผู้บังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมตำรวจทีมสืบสวนภูธร จ.นครราชสีมา และ สภ.ครบุรี ควบคุมตัวนายวัฒนากรณ์ หรือเบิ้ม ชุ่มกระโทก อายุ 31 ปี อดีตนักโทษคดีข่มขืน เพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำ เมื่อกรกฎาคม 2559 หรือเกือบ 1 ปี ชาว อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังถูกจับกุมในคดีข่มขืนเด็กหญิงวัย 13 ปี เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีญาติผู้เสียหายรุมประชาทัณฑ์ ตำรวจต้องรีบห้ามปรามไม่ให้เหตุบานปลาย
พฤติกรรมของนายเบิ้ม ได้ขี่รถจักรยานยนต์เจอเด็กหญิงเป้ (นามสมมติ) ขณะขี่จักรยานปั่นกลับบ้านคนเดียวตอนกลางคืนของวันที่ 26 มิถุนายน หลังจากเลิกงานเป็นเด็กเสิร์ฟร้านเนื้อย่างใน ต.จระเข้หิน ซึ่ง ด.ญ.เป้ ยังเรียนหนังสืออยู่ชั้น ม.2 หลังเลิกเรียนมาทำงานหารายได้พิเศษร้านเนื้อย่าง วันเกิดเหตุใกล้จะถึงบ้านอยู่แล้ว ถูกนายเบิ้มข่มขู่ให้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ พาไปบังคับข่มขืนในกระท่อมกลางไร่มันสำปะหลัง จนเด็กหญิงร่างกายบอบช้ำอวัยวะเพศฉีกขาดต้องเย็บ 7 เข็ม ก่อนแจ้งผู้ปกครองพาเข้าแจ้งความ
ตำรวจรวบรวมหลักฐานจนระบุตัวคนร้ายได้ และจับกุมนายเบิ้ม ได้ขณะร้องเพลงในร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง เบื้องต้นรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุข่มขืนเด็กหญิงจริง เนื่องจากเมาสุราแล้วมีอารมณ์ทางเพศ นอกจากนี้ยังรับสารภาพอีกว่า ได้ก่อเหตุข่มขืนเด็กหญิงวัย 17 ปีอีก 1 ราย เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมาอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ตำรวจสืบค้นประวัติผู้ต้องหารายนี้ เคยมีหมายจับในคดีข่มขืนกระทำชำเรา คดีพรากผู้เยาว์ และคดีลักทรัพย์รวม 5 คดี และสันนิษฐานว่าคนร้ายเคยก่อเหตุข่มขืนหญิงสาวอีกรวมๆ แล้วนับ 10 ราย มีทั้งเป็นคดี 5 ราย และผู้เสียหายไม่กล้าแจ้งความอีกหลายราย ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลเอาผิดให้ครบทุกคดี.-สำนักข่าวไทย