คนขับยาริสพบตำรวจแล้วกรณีเฉี่ยวชนรถกระบะ

กทม. 28 มิ.ย.- คนขับรถยาริสเลือดร้อนเข้าให้การแล้ว กรณีเฉี่ยวชนกับรถกระบะ จนบานปลายถึงขั้นใช้ไม้เบสบอลฟาดกระจกท้ายรถกระบะ เตรียมแจ้งเอาผิดคนขับรถกระบะเช่นกัน


ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบร่องรอยเฉี่ยวชนระหว่างรถกระบะกับรถยนต์โตโยต้ายาริส เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงกรณีสังคมออนไลน์แชร์คลิปเหตุการณ์จากกล้องหน้ารถ ขณะชายขับรถโตโยต้ายาริสลงจากรถพร้อมไม้เบสบอล เดินเข้ามาฟาดกระจกท้ายรถกระบะ คนขับรถกระบะจึงพยายามขับหนี ก่อนจะเกิดการขับไล่ตามชนจนรถกระบะไถลไปชนรถที่จอดข้างทาง เหตุเกิดบนถนนเลียบคลองสอง แขวงบางชัน เขตคลองสามวา เมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา

โดยวันนี้ (28 มิ.ย.) พนักงานสอบสวนเรียกชายขับรถโตโยต้า ยาริส วัย 34 ปี เข้าให้ปากคำพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา โดยชายคนดังกล่าวยืนยันว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถมาตามเส้นทางเลียบคลองสอง และหยุดให้รถกระบะเลี้ยวกลับรถ จากนั้นได้ขับต่อไปตามปกติ แต่รถกระบะที่อยู่ช่องทางซ้ายสุดขับเปลี่ยนมาเลน 2 ก่อนเบียดมาเฉี่ยวชนกระจกรถของตน โดยไม่หยุดรถหรือชะลอแต่อย่างใด จึงตัดสินใจขับแซงไปดักรถคันดังกล่าว ก่อนจะลงจากรถและหยิบไม้เบสบอลลงมาเพื่อป้องกันตัว ขณะนั้นสังเกตเห็นรถกระบะติดสติกเกอร์สีดำทึบ ประกอบกับตนใส่แว่นกันแดด จึงไม่เห็นว่าในรถมีใครอยู่บ้าง ตนถือไม้เบสบอลด้วยมือซ้าย ซึ่งเป็นข้างที่ไม่ถนัด ก่อนไปเคาะกระจกเรียกให้คู่กรณีลงมาคุย แต่คู่กรณีไม่ยอม กลับเบี่ยงรถขับออกไป ด้วยความโมโหจึงฟาดไม้เบสบอลใส่รถ โดยไม่คิดว่าจะโดนกระจกรถ หลังจากนั้นก็ขับไล่ตามรถกระบะไปประมาณ 1 กิโลเมตร เห็นว่ารถกระบะลดความเร็วลง จึงคิดแซงไปดักข้างหน้าอีกครั้ง ไม่มีเจตนาชนให้อีกฝ่ายได้รับความเสียหาย หลังเหตุการณ์ก็ได้ไปไกล่เกลี่ยลงบันทึกประจำวันที่ สน. คันนายาว เข้าใจว่าเรื่องจะจบ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะนำคลิปวิดีโอเฉพาะช่วงที่ตนถือไม้เบสบอลลงจากรถไปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ครอบครัวได้รับความเดือดร้อน รวมถึงคลับแต่งรถที่ปรากฏเป็นสติกเกอร์ติดอยู่ท้ายรถด้วย สำหรับข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ตนพร้อมยอมรับผิดในส่วนที่ได้ทำความเสียหาย และพร้อมชดใช้ตามสมควรแก่เหตุ แต่กรณีรถกระบะเฉี่ยวชนรถของตน ก็จะแจ้งความดำเนินคดีด้วย


ด้าน พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผู้กำกับการ สน.คันนายาว เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเหตุการณ์ทั้ง 3 ยืนยันได้ว่า ก่อนเกิดภาพตามคลิปวิดีโอ รถกระบะได้เฉี่ยวชนรถโตโยต้ายาริสจริง ในส่วนนี้คงต้องดำเนินคดีกับเจ้าของรถกระบะ ฐานขับรถโดยประมาท เฉี่ยวชนรถคันอื่นได้รับความเสียหาย และทำให้เสียทรัพย์ แต่ในส่วนของคนขับรถโตโยต้ายาริส จำเป็นต้องดำเนินคดีฐานขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย, ทำให้เสียทรัพย์และทำร้ายร่างกายให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตำรวจพิจารณาไปตามพยานหลักฐานจากภาพรวมของคดี ส่วนที่คนขับโตโยต้ายาริสจะแจ้งความดำเนินคดีกับคนขับรถกระบะนั้น ก็เป็นสิทธิที่สามารถดำเนินการได้ หลังจากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐาน และประสานให้ สน.นิมิตใหม่ รับไปดำเนินการ

ด้าน พ.ต.ท.สุรพล เดชรัตนวิไชย ผู้เชี่ยวชาญของศาลในการตรวจพิสูจน์เครื่องยนต์และอุปกรณ์ส่วนควบของรถยนต์ ระบุว่า พิจารณาลักษณะการชนและภาพจากกล้องวงจรปิดขณะเกิดเหตุแล้ว เป็นไปได้ว่ารถโตโยต้ายาริสเบี่ยงเข้าไปหารถกระบะ ก่อนเกิดการชนขึ้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทหารทำร้าย

ทบ.ตั้ง กก.สอบปมกรมยุทธศึกษาทหารบก ทำร้ายผู้ใต้บังคับบัญชา

“ธนเดช” เผย กมธ.ทหาร รับเรื่องร้องเรียนเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา ขณะ ทบ. ตั้งกรรมการสอบแล้ว หวังเป็นตัวอย่างการลงโทษผู้บังคับบัญชาระดับสูงหากพบผิดจริง

“บิ๊กแจ๊ส” ลั่นพร้อมดูแลสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ ให้เป็นปอดประชาชน

“บิ๊กแจ๊ส” ลั่นหากได้รับถ่ายโอน อบจ.ปทุมฯ พร้อมจัดงบดูแลสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ ให้เป็นปอดประชาชน หลังขาดพื้นที่ออกกำลังกาย แต่จะกระทบความมั่นคงหรือไม่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนต้องคุยกันต่อ

ข่าวแนะนำ

กฎหมายเปิดช่อง ริบรถพวกหัวร้อนบนถนนได้

จากคลิปรถเทสล่า ขับปาดหน้าบนทางด่วน ศาลสั่งจำคุก 1 เดือนคนขับ โทษจำรอลงอาญา 1 ปี แต่ที่สังคมต้องตระหนัก คือ ศาลยังสั่งริบรถเทสล่า มูลค่าเกือบ 2 ล้านคันนี้ด้วย วันนี้คนขับออกมาเปิดใจ พร้อมขอโทษคู่กรณี ขณะที่อัยการระบุ กฎหมายเปิดช่องให้ริบรถได้ เตือนผู้ขับขี่ใช้สติมากกว่าอารมณ์

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

นายกฯ ถก ก.ตร. จับตาแต่งตั้งนายพลสีกากี 25 ตำแหน่ง

นายกฯ นั่งประธานประชุม ก.ตร. จับตาแต่งตั้งนายพล ระดับ “รอง ผบ.ตร.-ผู้ช่วย ผบ.ตร.-ผู้บัญชาการ” รวม 25 ตำแหน่ง กำชับพิจารณาให้รอบคอบ-ตรงกรอบกฎหมาย