นายกฯ ย้ำให้ผลิตคนตามความต้องการแรงงาน

ม.ขอนแก่น 21 มิ.ย.- นายกฯ ปาฐกถาพิเศษ การขับเคลื่อน Thailand 4.0  ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ขอบคุณที่ผลิตคนมีคุณภาพ ย้ำให้ผลิตคนตามความต้องการแรงงาน พร้อมขอบคุณคนขอนแก่นตอบ 4 คำถามนายกรัฐมนตรีมากที่สุด ยืนยันไม่เลิก 30 บาทรักษาทุกโรค 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 มิ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจ ที่ จ.ขอนแก่น โดยช่วงเช้า นายกรัฐมนตรีได้ปาฐกถาพิเศษเรื่อง “การขับเคลื่อน Thailand 4.0  ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ”  ที่หอประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยเข้ม  โดยเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจได้ตรวจค้นนักเรียน นักศึกษา และบุคคลทั่วไปที่เข้าร่วมงานอย่างละเอียด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่มีกลุ่มนักศึกษามาแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านรัฐประหาร เหมือนเมื่อครั้งที่นายกรัฐมนตรีมาตรวจเยี่ยมช่วยภัยแล้งเมื่อปี 2557 


โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้พบกับ น.ส.กิตติรัตน์ ชุมแก้ว นักเรียนโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน ที่สอบได้คะแนนแอดมิชชั่น อันดับ 1 ของ คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และยังได้พบกับนักเรียนที่สอบโอเน็ต คะแนนเต็ม 100 วิชาคณิตศาสตร์ พร้อมมอบทุนการศึกษา เพื่อใช้เป็นทุนในการเล่าเรียน 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมเด็กนักเรียน ในการปาฐกถาพิเศษตอนหนึ่งว่า ได้สร้างชื่อเสียงและความภาคภูมิใจให้กับจังหวัด พร้อมขอบคุณมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่ผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพให้กับประเทศ และต้องการให้ทุกมหาวิทยาลัยผลิตแรงงานให้ตรงตามความต้องการประเทศ โดยอาจจะคิดหลักสูตรระยะสั้น ในการเข้ามาแก้ปัญหา และมีทางเลือกในการศึกษา  

นายกรัฐมนตรียังต้องการให้นำงานวิจัยไปต่อยอด เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และเห็นว่าควรนำงานวิจัยที่อยู่ในกลุ่มงานเดียวกันมารวมกลุ่มกัน เพื่อที่รัฐบาลจะได้จัดสรรงบประมาณได้ตรงเป้าหมาย เพื่อขับเคลื่อนประเทศไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลเข้ามาเพื่อจะแก้ไขปัญหาทุกอย่างแบบตัดเสื้อให้พอดีตัว คือ การแก้ไขปัญหาให้เหมาะกับประเทศไทย โดยเฉพาะการแก้ปัญหาความยากจน ที่มีผู้มีรายได้น้อยมาลงทะเบียน 14.9 ล้านคน ทำให้รัฐบาล ต้องนำปัญหามาพิจารณาถึงเหตุที่ยังมีรายได้น้อยอยู่เป็นจำนวนมาก เพื่อแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด ไม่ติดกับดักเหมือนเดิม 

“อยากให้ทำสิ่งใหม่ เพื่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคต สอดรับกับโลกศตวรรษที่ 21 ซึ่งก้าวจากการเปลี่ยนจากสังคมเกษตรไปสู่อุตสาหกรรม หรือ ยุค 1.0 ถึง 3.0 เป็นการนำงานวิจัยและพัฒนาไปเพิ่มมูลค่าโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งเป็นยุค 4.0 โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ใช้ชีวิตแบบมีสติ มีภูมิคุ้มกันที่ดี เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อคนที่มาหลอกลวงว่าจะมีเงิน ชิตังเมโป้งรวย เพราะไม่มีใครที่จะรวยได้ง่าย ๆ” นายกรัฐมนตรี กล่าว 

นายกรัฐมนตรียังขอบคุณคนขอนแก่น ที่ตอบ 4 คำถามนายกรัฐมนตรีมากที่สุดกว่าหมื่นคน และชี้แจงว่าการตั้งคำถามเพื่อต้องการรับรู้ปัญหาของประชาชนว่ามีความคิดเห็นอย่างไรต่อการเปลี่ยนแปลงประชาธิปไตย และต้องการให้ทุกคนช่วยกันตอบ เพื่อไม่ให้ถูกนำไปบิดเบือนว่านายกรัฐมนตรีตั้งคำถามแล้วไม่มีคนตอบ เช่นเดียวกับเรื่องร่าง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่ถูกบิดเบือนว่าจะเป็นการยกเลิกโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค ซึ่งไม่เป็นความจริง ขออย่าไปสนใจเรื่องข่าวที่ไร้สาระ

นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่า การจับกุมมือระเบิดใช้กำลังพลหลักหมื่นในทุกกระบวนการ โดยรัฐบาลทำทุกคดีที่มีปัญหา และไม่ได้ละเลยที่จะไม่จับกุมพระ ซึ่งพยายามดำเนินการจับกุมอยู่ และนับจากนี้จะมีคดีความที่ทยอยออกมาเรื่อยๆ ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ไม่ได้เป็นการไล่ล่าใคร รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่ดีที่สุดในโลก จะทำสิ่งใดนึกถึงความรู้สึกของทุกคน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ไม่ใช่ไม่พอใจ แล้วทำเรื่องไม่ดีให้ประเทศเสียหาย เช่นเดียวกับพวกที่หลบนี้ไปอยู่ต่างประเทศ ดังนั้น ขอให้กลุ่มคนเหล่านี้กลับเข้ามาต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม แต่ก็ไม่กลับ ยังคงพูดจาให้ร้ายประเทศ ซึ่งยอมไม่ได้ เพราะมีความรู้สึกเหมือนกัน 

ช่วงท้ายสุด นายกรัฐมนตรีได้เปิดโอกาสให้ประชาชนและนักศึกษาที่ร่วมฟังปาฐกถาถามคำถาม ที่จะให้รัฐบาลเข้ามาแก้ไข พร้อมขออย่ารังเกียจทหารและรัฐบาลชุดนี้ ขอเป็นนายกรัฐมนตรีของทุกคน และขอให้ทุกคนอย่าสร้างความขัดแย้งกัน และว่า “ขอให้รักผมน้อยๆ แต่รักนานๆ และรักประเทศชาติ”  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีได้ทักทายและพูดคุยกับนักศึกษาที่มาร่วมงานอย่างเป็นกันเอง โดยมีนักศึกษาที่ใส่หน้ากากอนามัยรวมอยู่ด้วย นายกรัฐมนตรีได้พูดหยอกล้อว่า “ใส่หน้ากากเหมือนกับนายวัฒนา ภุมเรศ ผู้ก่อเหตุวางระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า” และถามนักศึกษาว่า “รู้จักหรือไม่ แต่ไม่รู้จักก็ดีแล้ว อย่าไปรู้จักเลย”

นอกจากนี้ มีผู้สอบถามนายกรัฐมนตรีถึงเรื่องเงินแป๊ะเจี๊ยของโรงเรียน นายกรัฐมนตรีตอบว่า ถ้าได้เข้ามาเรียน แล้วจ่ายเงินค่าบำรุงการศึกษา ก็ไม่มีปัญหา แต่หากจ่ายเงินก่อนเข้ามาเรียนนั้นไม่ได้ เพราะถือเป็นการเปิดช่องให้มีการทุจริต

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินลงไปใต้หอประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก เพื่อพบกับเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายกว่า 2,000 คนจากจังหวัดต่างๆ ทั่วภาคอีสาน ที่มารอให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรีได้พูดคุยอย่างเป็นกันเอง และถ่ายรูปร่วมกันด้วยบรรยากาศที่คึกคัก  พร้อมบอกว่า ขอให้ทุกคนตั้งใจเรียน มองเป้าหมายในชีวิต และทำให้ได้ตามความฝัน 

นายกรัฐมนตรียังสอบถามเด็กนักเรียนแต่ละคนว่า เมื่อโตขึ้นอยากเป็นอะไร ซึ่งมีนักเรียนบางคนตอบว่า อยากเป็นทหาร นายกรัฐมนตรี บอกว่า อยากเป็นทหาร เพราะอยากเป็นนายกฯ แบบตนหรือ เป็นนายกฯ ไม่ได้เป็นกันง่ายๆ และเมื่อเข้ามาทำงานแล้วยิ่งยาก ขอทุกคนอย่าเกลียดทหาร ยอมรับแม้จะมีทหารบางคนที่ไม่ดี แต่คนที่ไม่ดีก็มีในทุกอาชีพ เพียงแต่คนดีมีมากกว่า 

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินชมงานนิทรรศการผลงานวิจัยและพัฒนาของมหาวิทยาลัยขอนแก่น และขอให้เร่งปรับปรุงงานวิจัย เพื่อให้ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม การจดทะเบียน มอก. พัฒนาไปสู่เชิงพาณิชย์ นำผลวิจัยไปสู่การปฏิบัติได้จริง สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้และเป็นประโยชน์กับประชาชน.- สำนักข่าวไทย        

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์แนวทางดำเนินคดีกัมพูชา

10 ส.ค. – ฟังการวิเคราะห์ปมดำเนินคดีกัมพูชา กับ รศ.ดร. ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำสาขาวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากหลักฐานที่มีชัดเจน กระสุนกัมพูชายิงตกฝั่งไทย เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินพลเรือน และมีกระสุนที่ต้องเก็บกู้มากกว่า 800 นัด ขณะที่หลังการเจรจา GBC ผ่านไป พบกัมพูชายังเสริมกำลังทหารต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย

ชาวบ้านศรีสะเกษสุดช้ำ บ้านเรือนถูกกัมพูชายิงถล่มเหลือแต่ซาก

ศรีสะเกษ 10 ส.ค. – ชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กลับจากศูนย์อพยพเจอสภาพบ้านเหลือแต่ซาก หลังถูกลูกปืนใหญ่กัมพูชายิงถล่ม ขณะที่พบหัวจรวด BM-21 กลางทุ่งนา อีก 2 จุด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายเรียบร้อย ปลัดอำเภอน้ำยืน เน้นย้ำหากชาวบ้านพบหลุมลึก-ปากหลุมแคบ ให้รีบแจ้งทันที ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นนาทีกระสุนโจมตีของกัมพูชายิงตกใส่บ้านเรือนประชาชนอย่างรุนแรงจนฝุ่นฟุ้งกระจาย จากภาพจะเห็นว่ามีรถอีแต๋นคันหนึ่งวิ่งผ่านจุดที่กระสุนพุ่งตกลงมาเพียงเสี้ยววินาที เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ วันนี้ นายกุลนที อายุ 45 ปี เดินทางกลับมาบ้าน หลังอพยพออกจากพื้นที่ไปกว่า 2 สัปดาห์ ในช่วงเหตุปะทะแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทันทีที่เห็นบ้าน นายกุลนทีถึงกับน้ำตาคลอ เพราะบ้านเสียหายอย่างหนัก ทั้งโครงสร้างไม้และปูนได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ประตู หน้าต่าง กระจก และหลังคาถูกกระสุนถล่มจนแทบไม่เหลือสภาพเดิม […]

มทภ.2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด

10 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ จากการตรวจสอบพบเป็นทุ่นใหม่ ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภายหลังการรับมอบสิ่งของช่วยเหลือทหารและเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน จากภาครัฐและเอกชน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไป ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตักในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้มาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านซึ่งอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา ไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด หากประชาชนพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ อานม้า ซำแปร และตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ […]

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]