มีชัยยืนยันเซ็ตซีโร่ไม่เลื่อนเลือกตั้ง


รัฐสภา 7 มิ.ย.-มีชัยยอมรับ กรธ.เปลี่ยนใจจากที่ให้ กกต.ที่มีคุณสมบัติครบอยู่ต่อ มาหนุนให้เซ็ตซีโร่ ชี้เป็นแนวทางที่ดีที่สุดที่ทำให้การเลือกตั้งเที่ยงธรรม ยืนยันไม่เลื่อนเลือกตั้ง ทุกอย่างมีกรอบเวลา

นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงที่มาของการเซ็ตซีโร่กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า กรธ.ส่งตัวแทนไปร่วมเป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และตามร่างเดิมได้เสนอให้ดูตามคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ แต่มีสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แปรญัตติเสนอให้ กกต.ชุดเดิมอยู่ต่อ ทาง กมธ.ฯ จึงขอให้ กรธ.หาทางออก ซึ่งมี 3 ทางคือ เซ็ตซีโร่ ดูตามคุณสมบัติ และให้อยู่ทั้งหมด จึงพูดคุยกันใน กมธ. ในที่สุดตกลงว่าให้เซ็ตซีโร่ ซึ่ง กรธ.เห็นด้วยด้วยความเต็มใจ และมีเหตุผลที่จะทำเช่นนี้ได้ โดยไม่กระทบองค์กรอื่นที่มีเหตุผลแตกต่างกันไป 


ประธาน กรธ. กล่าวว่า การเซ็ตซีโร่ กกต.เป็นแนวทางที่ดีที่สุด เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและยุติธรรม เพราะในรัฐธรรมนูญ กกต.เป็นองค์กรอิสระองค์กรเดียวที่เปลี่ยนแปลงมากที่สุดตั้งแต่เรื่องจำนวนที่เพิ่มจาก 5 เป็น 7 คน  กกต.เดิมไม่เคยกำหนดคุณวุฒิ ที่มา-ที่ไป ขอให้เป็นกลาง สุจริตและให้กรรมการสรรหาเลือก 3 คน ศาลฎีกาเลือกมา 2 คน ซึ่งจะมาจากไหนก็ได้ ต่างจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)และศาลรัฐธรรมนูญ แต่รัฐธรรมนูญล่าสุดกำหนดคุณสมบัติใหม่ที่แตกต่างจากองค์ประกอบเดิมที่มีอยู่โดยสิ้นเชิง เพิ่มอำนาจให้ กกต.คนเดียวสามารถสั่งการอะไรได้ คุณสมบัติจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะให้ กกต.ไปทำงานได้ตามวัตถุประสงค์ อีกทั้งวิธีการทำงานของ กกต.จะเปลี่ยนบทบาทจากเชิงรับเป็นเชิงรุก ไม่ได้หวังให้ กกต.รอให้คนมาร้องเรียนอย่างเดียว และกลไก กกต.จังหวัดเปลี่ยนเป็นผู้ตรวจการเลือกตั้งที่จะมาทำงานรองรับ กกต. 

“เราเห็นว่าข้อเสนอที่ให้เซ็ตซีโร่ เป็นข้อเสนอที่ดีที่สุด และไม่ขัดข้อง เห็นดีเห็นงามด้วย ถ้าจะโทษว่า กรธ.เปลี่ยนใจก็ว่าได้ แต่การร่างกฎหมายสุดท้ายอยู่ที่ สนช.ที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอ และถ้าการเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นประโยชน์ เราก็ไม่ขัดข้อง เพราะเราไม่ได้เป็นคนสุดท้าย เมื่อไหร่ที่เขาว่าอย่างไร เราก็ไม่ขัดข้อง เราเชื่อว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด ขจัดความยุ่งยากในการจัดการเลือกตั้งให้น้อยที่สุด เพราะเราไม่ทราบว่าจะเลือกตั้งปีไหน ซึ่ง กกต.จะทยอยพ้นจากตำแหน่ง จากใช้แบบวิธีที่เสนอไปตอนแรก จะต้องทยอยตั้ง กกต.ใหม่ ทำให้การทำงานสะดุดไป” นายมีชัย กล่าว 

นายมีชัย กล่าวว่าการรีเซ็ตไม่ได้ลากยาวเรื่องการเลือกตั้งและเป็นไปไม่ได้ เพราะไม่ว่าจะใช้ระบบใดก็ต้องสรรหา กกต.และต้องใช้ระยะเวลาหนึ่งในการสรรหา และเมื่อเปลี่ยนไปเป็นเซ็ตซีโร่ กระบวนการสรรหายังมีเวลาเท่าเดิม ดังนั้น กลไกตรงนี้ไม่มีผลกระทบต่อการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น และข้อสำคัญคือในรัฐธรรมนูญกำหนดวันไว้ค่อนข้างชัดเจนว่าทั้งหมดจะต้องใช้เวลาเท่าใด ซึ่งไม่มีใครเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ และไม่ได้ให้ กกต.พ้นจากตำแหน่งทันทีที่กฎหมายบังคับ แต่ให้ทำหน้าที่ดูแลงานไม่ให้ชะงัก และได้วางไว้แล้วว่าหากมี กกต.ลาออกจะต้องตั้งใหม่ ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อระยะเวลาเปลี่ยนแปลง 


สำหรับกรณีที่ฝ่ายการเมืองมองว่าการเซ็ตซีโร่ กกต.อาจทำให้การวางแนวทางสืบทอดอำนาจ ประธาน กรธ. กล่าวว่า ไม่ว่าจะสรรหาเมื่อใด กลไกการสรรหาจะหลุดพ้นจากฝ่ายบริหารชัดเจน และในการเลือกจะต้องใช้เสียง 2ใน 3 ดังนั้นไม่มีใครมาเลือกคนของตัวเองมาได้ 

ส่วนกรณีที่คุณสมบัติของ กกต.ผูกกับ.ป.ป.ช.จะเซ็ตซีโร่ ป.ป.ช.หรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่า องค์กรอิสระแต่ละองค์กรมีปัญหาแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับแต่ละองค์กร ซึ่งในส่วนของกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ที่ตั้งใจจะเซ็ตซีโร่ เพื่อให้สอดคล้องกับกติกาปารีส ส่วนของผู้ตรวจการแผ่นดินไม่ได้เซ็ตซีโร่ เพราะไม่มีปัญหา ส่วนคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ให้อยู่หมด เพราะเพิ่งสรรหา แต่ทั้งหมดแล้วในที่สุดต้องขึ้นอยู่กับ สนช. หากเห็นว่าควรเป็นอย่างไร ก็ไม่ขัดข้อง 

นายมีชัย กล่าวถึงกรณีของ กกต.เดิมที่คุณสมบัติครบ แต่ถูกเซ็ตซีโร่และไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองโดยสมัครกลับเข้ารับการสรรหาอีก ว่าเมื่อจะปฏิรูปก็ต้องยอมเจ็บกันบ้าง ส่วน กกต.ที่เสียประโยชน์จะไปร้องศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นสิทธิ แต่กฎหมายลูกออกตามรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้แล้วว่าใครจะอยู่หรือไม่ ก็ต้องเป็นไปตามกฎหมายลูก ซึ่งดูแล้วอยู่ในวิสัยที่จะทำได้ ไม่น่าจะขัดกับรัฐธรรมนูญ

“หากจะมองว่าเป็นการงัดข้อกัน ผมเห็นว่าไม่เป็นธรรมกับคนที่ทำหน้าที่ตามขอบเขตอำนาจ หากดำเนินการโดยสุจริตใจ ส่วนที่ สนช.หรือสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) บางคนที่ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการที่ กรธ.สนับสนุนการเซ็ตซีโร่ ถือว่าเป็นเรื่องที่ต่างคนต่างทำหน้าที่ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมให้เกิดการเมืองที่เข้มแข็ง แต่ยอมรับว่าบางครั้งอาจจะกระทบกับคนอื่น” ประธาน กรธ.กล่าว.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วมือเผารถ “ศิริโชค” ญาติเผยจิตไม่ปกติ

6 ก.ค. – จับได้แล้ว มือวางเพลิงรถยนต์ “ศิริโชค” ตำรวจเค้นสอบ ยอมรับก่อเหตุจริง ญาติเผยจิตไม่ปกติ พูดคนเดียวมาหลายเดือน ด้าน “ศิริโชค” ไม่เชื่อลงมือเองจากอาการทางจิต น่าจะมีคนสั่งการอยู่เบื้องหลัง กล้องวงจรปิดจับภาพนายเบียร์ อายุ 29 ปี ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในซอยบ้านพักของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.เขต 7 สงขลา 4 สมัย พรรคประชาธิปัตย์ ช่วงตี 3 คืนวานนี้ (5 ก.ค.) ต.ฉาง อ.นาทวี จ.สงขลา และไปคุยกับคนเฝ้าบ้านนายศิริโชค ที่ประตูหน้าบ้าน ก่อนขี่รถออกไป จากนั้นช่วงเวลา 03.45 น. นายเบียร์ขี่รถย้อนกลับเข้าไปในซอยบ้านของนายศิริโชคอีกครั้ง ก่อนจะมีข่าวรถยนต์ GWM HAVAL H6 PHEV หรือปลั๊กอิน-ไฮบริด กึ่งไฟฟ้ากึ่งน้ำมัน เกิดเพลิงไหม้เสียหายหมดทั้งคัน ซึ่งขณะนั้น ยังไม่มั่นใจว่าเกิดจาะระบบรถยนต์ขัดข้อง หรือสาเหตุอย่างอื่น จนเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเป็นที่แน่ชัดว่า นายเบียร์เป็นคนก่อเหตุวางเพลิงรถยนต์ของนายศิริโชค […]

“โรม” ควง “เท้ง” ลงพื้นที่สระแก้ว ดูชายแดนไทย-กัมพูชา

สระแก้ว 6 ก.ค. – “โรม” ควง “เท้ง” ลงพื้นที่สระแก้ว ดูชายแดนไทย-กัมพูชา “สอบสวนกลาง-ดีเอสไอ-หน่วยงานปกครอง” ลงด้วยเพียบ สงสัยฝั่งตรงข้ามเป็นฐานสแกมเมอร์-คอลเซ็นเตอร์ หรือไม่ แย้มมีข้อมูลทุนใหญ่เป็นหลังบ้านผู้มีอำนาจกัมพูชา เจอแน่ปิดห้องคุยพรุ่งนี้ แนะสร้างเสาเซ็นเซอร์ตรวจจับชายแดน หมาแมวตรวจได้หมด หากลักลอบเข้า ด้าน “ชุติพงศ์” โวย เขมรไม่ทำรั้ว-รับผิดชอบ ปล่อยผ่านคนลักลอบเข้าออก นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร​ ลงพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว​ ร่วมกับคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ​ สภาผู้แทนราษฎร​ เพื่อดูการแก้ไขปัญหาความมั่นคงและการบริหารกิจการชายแดนไทย-กัมพูชา​ โดยมีหน่วยงานความมั่นคง​ นายอำเภอ​ กรมการปกครอง รวมถึงเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ลงพื้นที่ด้วย จุดแรกมาที่บริเวณด้านหลังห้างสรรพสินค้า​อรัญประเทศ​ โดย พ.อ.เมธี คำเต็ม ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา รายงาน​ว่า​ จุดนี้​เป็นพื้นที่​ที่การข่าวแจ้งว่า​ใช้เป็นช่องทางลักลอบข้ามไปฝั่งกัมพูชา​ เป้าหมายไปทำงานหรือเล่นการพนัน​ ปัจจุบันได้ซีลพื้นที่ตรงนี้แล้ว แต่ก็มีการลักลอบเข้าออกตลอด แม้จะมีสถานการณ์ไทย-กัมพูชา […]

“บิ๊กเต่า” ขอเวลาตรวจสอบให้ชัด คลี่ปมพัวพันสีกา ก.

6 ก.ค.- “บิ๊กเต่า” เผยคำให้การสีกา ก. เป็นประโยชน์ อาจโยงไปถึงการทุจริต แต่ขอเวลาตรวจสอบให้ชัด เตรียมประชุมคณะทำงานสัปดาห์หน้า เรียกผู้เกี่ยวข้องสอบเพิ่มเติม ยืนยันหากพบใครเอี่ยวพร้อมดำเนินคดี 12.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยถึงกรณีการเรียกตัวสีกาอักษรย่อ ก. มาสอบปากคำ ว่า หลังจากนำตัวสีกา ก. มาสอบ ก็ได้ข้อมูลในแนวทางที่ดีและมีประโยชน์ อาจนำไปสู่เรื่องที่อาจเอี่ยวกับการทุจริต แต่ก็จะต้องมีการตรวจสอบให้ละเอียด เพราะทุกอย่างต้องชัดเจน เนื่องจากคำให้การอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีหลักฐานอื่นประกอบด้วย จากคำให้การของสีกา ก. ว่า มีการเล่นพนันออนไลน์ แล้วเงินที่ใช้เล่นเป็นเงินส่วนไหน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ตอบว่า “ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ แต่เขามีการเล่นพนันจริง” ตอนนี้มีการตั้งคณะทำงานตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว โดยมี ปปป. เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบ เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวพันหลายพื้นที่ ส่วนเรื่องบัญชีวัด ทางบก.ปปป. ก็มีอำนาจสามารถตรวจสอบได้เลย ประมาณวันจันทร์-อังคารที่จะถึงนี้ จะมีการประชุมถึงเรื่องนี้อีกครั้ง ผู้สื่อข่าวถามว่า สีกา ก. เคยทำให้พระสึกมาแล้วถึง 2 รูป จริงหรือไม่ […]

รวบ “สังข์” ผู้ต้องหาแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร

6 ก.ค.- ตำรวจบุกรวบ “สังข์” ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด หลังก่อเหตุแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร จนมุมบนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB จับกุมนายเกียรติศักดิ์ หรือ สังข์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด ได้บนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาลงบันทึกการจับกุมที่ สน.เตาปูน และอยู่ระหว่างการควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสกลนคร นายเกียรติศักดิ์ ก่อเหตุหลบหนีจากห้องควบคุม สภ.เมืองสกลนคร เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 มิถุนายน เจ้าหน้าที่พบเบาะแสหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาภูพาน ขณะเดียวกันโซเชียลพากันแชร์ภาพนายเกียรติศักดิ์ พบว่า เป็นบุคคลอันตรายที่อาจมีอาวุธ หากใครพบเห็นห้ามเข้าใกล้ ทั้งนี้ สภ.เมืองสกลนคร ได้ปูพรมค้นหาตามล่าตัวและตั้งรางวัลนำจับ เป็นเงิน 3 หมื่นบาทให้กับผู้แจ้งเบาะแส .-สำนักข่าวไทย