กรมกิจการเด็กฯ เดินหน้าแก้ปัญหาสัญชาติเด็ก

มักกะสัน 2มิ.ย.-กรมกิจการเด็กฯ จัดประชุมแก้ปัญหาสถานะทางบุคคลแก่เด็กและเยาวชนในสถานสงเคราะห์ กว่า 500 คน หลัง ครม.มีมติให้สัญชาติไทยแก่เด็กกลุ่มชาติพันธุ์ จบปริญาตรีและอยู่ไทยมากกว่า10 ปี


นายวิทัศน์ เตชะบุญ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.)กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) เปิดเผยหลังเป็นประธานในการประชุมคณะทำงานแก้ไขปัญหาสถานะบุคคลแก่เด็กและเยาวชนในความอุปการะของสถานรองรับ ว่า การประชุมครั้งนี้ เป็นการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และซักซ้อมเจ้าหน้าที่ในสถานรองรับของ ดย. เพื่อให้ทราบถึงหลักการปฏิบัติในการออกหนังสือรับรองคนไร้รากเหง้า ซึ่งมี 2แบบทั้งแบบคนที่เกิดและอาศัยอยู่ในไทย แต่ถูกพ่อแม่ทอดทิ้งและกลุ่มคนที่ไม่ได้เกิดในไทยแต่อาศัยอยู่ในไทย และแนวทางการดำเนินการยื่นขอสัญชาติไทยให้แก่เด็กไร้รากเหง้า ไร้สถานะในสถานรองรับ เพื่อให้เด็กกลุ่มนี้สามารถเข้าถึงการได้สัญชาติมากขึ้น จะได้สิทธิขั้นพื้นฐานบริการสวัสดิการสังคม ได้รับการคุ้มครอง พิทักษ์สิทธิเกิดความมั่นคงในชีวิต และเพื่อให้การแก้ปัญหาบุคคลไร้สถานะมีผลเป็นรูปธรรมมากที่สุด 


ทั้งนี้ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7ธ.ค.2559กำหนดการให้สัญชาติไทยสำหรับเด็กนักเรียน นักศึกษาและคนไร้สัญชาติที่อาศัยอยู่ในไทยแก่คนใน 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มที่เกิดจากพ่อแม่ชนกลุ่มน้อยมาอยู่ไทยก่อนวันที่ 30 กย.2542 หรือไม่น้อยกว่า15ปี,2.กลุ่มที่พ่อแม่ไม่ใช่คนกลุ่มน้อย แต่เกิดในไทย  อยู่ต่อเนื่อง เรียนที่ไทยจนจบปริญาตรี และ 3.กลุ่มคนที่มีหนังสือรับรองความเป็นคนไร้รากเหง้า จาก พม.และมีหลักฐานว่าอยู่อาศัยในไทยตั้งแต่เกิดต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 10 ปี


นายวิทัศน์ กล่าวต่อว่า จากการสำรวจข้อมูลเด็กไร้รากเหง้า ไร้สถานะที่อยู่ในความดูแลของสถานรองรับของ ดย.ทั้ง 29 แห่งทั่วประเทศ ในประเภทกลุ่มต่างๆ  ทั้งกลุ่มไม่มีเอกสารแสดงตัวตน กลุ่มที่ขึ้นต้นด้วยเลข                        0,00,7,6  เป็นต้น พบมีทั้งหมด 371 คน และเด็กที่ถูกจำหน่ายออกจากสถานรองรับ หรือเด็กที่อายุเกิน 18 ปี อีกกว่า 180 คน รวม 551 คน  ที่ยังไม่ได้รับสัญชาติ ซึ่งจำนวนนี้ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบดูว่าเด็กในจำนวนนี้เข้าข่ายตามเงื่อนไข 3 กลุ่มข้างต้นที่ ครม.กำหนดหรือไม่ เบื้องต้นคาดว่ามีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ที่เข้าข่ายได้รับสัญชาติไทย

อย่างไรก็ตามจากการสำรวจขอมูลคนไร้รากเหง้าของไทย  เมื่อปี 2552 พบมีคนไร้รากเหง้าอาศัยอยู่ในไทยประมาณ 7,900 คน  ซึ่งนอกจากเด็กในความดูแลของ ดย.แล้ว ในจำนวนนี้ในส่วนของกรมอื่น ที่สังกัด พม.ด้วย เช่นกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.)กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ(พก.) อาจมีเด็กที่อยู่ในความดูแลเข้าข่ายได้รับสัญชาติไทยด้วย ดังนั้นเพื่อให้เด็กเหล่านี้ เข้าถึงการได้รับสัญชาติอย่างทั่วถึง จึงเตรียมหาร่วมกับกรมดังกล่าวและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องอีกครั้งประมาณปลายเดือนมิ.ย.นี้ .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย