ครม.สั่งคลังศึกษาเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ

ทำเนียบรัฐบาล  23 พ.ค. – ครม.เห็นชอบหลักการเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ สั่งคลังศึกษาเพิ่ม พร้อมเปิดทางคนรวยสละสิทธิ์ช่วยคนจนโดยสมัครใจ 


พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักการเบื้องต้นตามที่กระทรวงการคลังเสนอเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันและเห็นชอบเบื้องต้นสำหรับผู้สละสิทธิ์รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ โดยการสละสิทธิ์เมื่อทำไปแล้ว สามารถกลับมาขอรับสิทธิ์ตามเดิมได้ ซึ่งขณะนี้กระทรวงการคลังนำเรื่องที่เสนอกลับไปจัดทำรายละเอียดต่อไปแล้วนำกลับมาเสนออีกครั้ง 

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า เบี้ยผู้สูงอายุที่ประชาชนได้รับขณะนี้ไม่เพียงพอกับสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน  รัฐบาลจึงมีแนวคิดที่จะเพิ่มรายได้หรือเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ โดยนายกรัฐมนตรีให้แนวทางสรรหาแหล่งเงินต้องไม่กระทบวินัยการเงินการคลังของประเทศ ซึ่งกระทรวงการคลังเสนอว่าจากการรับฟังข้อมูลหลายทางพบว่าผู้สูงอายุจำนวนมากที่มีรายได้เกินขีดการเป็นผู้มีรายได้น้อยและมีความรู้สึกว่าพร้อมที่จะเสียสละเงินที่ได้รับจากรัฐบาลให้กับผู้ที่มีรายได้น้อย ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะเปิดโอกาสให้ผู้มีรายได้เกินกว่าผู้มีรายได้น้อยและเป็นผู้สูงอายุสามารถสละสิทธิ์รับเงินโดยความสมัครใจ โดยเงินจะโอนเข้าสู่กองทุนผู้ชราภาพและนำเงินดังกล่าวเพิ่มให้ผู้ที่มีรายได้น้อยจริง ๆ ต่อไป หากมีผู้สมัครใจร้อยละ 10 ของจำนวนผู้ที่มีรายได้เกินกว่าผู้มีรายได้น้อยก็จะได้เงินเข้ากองทุนถึง 4,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งนายกรัฐมนตรีจึงให้กระทรวงการคลังกลับไปจัดทำรายละเอียดหรือมีมาตรการอย่างอื่นเพิ่ม  เช่น การสนับสนุนการมีลูก เพราะอัตราการเกิดของประเทศไทยต่ำ เป็นต้น แต่เรื่องทั้งหมดต้องพิจารณารายละเอียดให้ชัดเจนก่อน ส่วนการจะเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้มากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับการได้เงินเข้ามาเสริมกองทุน 


ปัจจุบันไทยมีผู้สูงอายุรวม 10.3 ล้านคน อายุเกิน 60 ปีขึ้นไปคิดเป็นร้อยละ 16 ของประชากรทั้งหมด คาดว่าภายในปี 2568 จะมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด ในจำนวน 3.5 ล้านคนของผู้สูงอายุในปัจจุบัน 10.3 ล้านคนนี้เป็นผู้ที่มีรายได้น้อยประมาณ 3.5 ล้านคน ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย โดยอายุ 60 – 70 ปี เบี้ยผู้สูงอายุ 600 บาทต่อเดือน อายุ 71-80 ปี เพิ่มเป็นขั้นบันได 700 บาทต่อเดือน ถ้า 81-90 ปี เบี้ยผู้สูงอายุเดือนละ 800 บาท หากอายุ 91-100 ปี เบี้ยผู้สูงอายุจะได้รับเดือนละ 1,000 บาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง