พม.ย้ำทุกหน่วยงานเข้มความปลอดภัย

พม.23 พ.ค.-รมว.พัฒนาสังคมฯ ย้ำทุกหน่วยงานในสังกัด เข้มมาตรการการรักษาความปลอดภัย พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือเด็กหญิงวัย 14 ปี ถูกกลุ่มวัยรุ่นชายล่วงละเมิดทางเพศ ที่ จ.หนองคาย 


พล.ต.อ.อดุลย์  แสงสิงแก้ว  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.)ครั้งที่ 634/2557-2560 เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาและการป้องกันปัญหาดังกล่าว  โดยมีผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม  


พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า จากกรณีเกิดเหตุระเบิดที่บริเวณชั้น 1อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 ปี รพ.พระมงกุฎเกล้า ซึ่งมีผู้บาดเจ็บ 21 คนนั้น ตนมีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บในเบื้องต้นตามภารกิจของกระทรวงฯ ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยที่กระทรวงฯ สะพานขาว ได้กำหนดพื้นที่รักษาความปลอดภัย มาตรการควบคุมบุคคล มาตรการควบคุมยานพาหนะ กำหนดเวลาเปิด-ปิดประตู และการวางกำลังรักษาความปลอดภัย  ซึ่งมาตรการรักษาความปลอดภัยดังกล่าวพม.ได้ปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ เพิ่มมาตรการในการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดมากขึ้น


พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวด้วยว่า จากกรณีเด็กหญิงวัย 14 ปีถูกวัยรุ่นชาย6 คน ข่มขืนกระทำชำเราจนหมดสติภายในกระท่อมนาท้ายหมู่บ้าน ที่ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคายนั้น ได้กำชับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดหนองคาย (พมจ.หนองคาย)พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและประเมินทางสังคมของครอบครัวดังกล่าวพร้อมให้การช่วยเหลือตามภารกิจด้านเด็กของกระทรวง โดยเฉพาะเร่งเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจเด็กหญิงดังกล่าว เพื่อให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติต่อไป 

สำหรับกรณีหญิงชราวัย 60 ปี ป่วยเป็นโรครูมาตอยด์ และมะเร็ง ที่เต้านม จนมีแผลขนาดใหญ่สร้างความเจ็บปวดไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้  ซึ่งถูกลูก 2 คน ทอดทิ้งไม่เคยมาดูแล หญิงชราดังกล่าวอาศัยอยู่กับน้องสาวและหลานที่สติไม่สมประกอบ ครอบครัวมีฐานะยากจน ต้องขอ ข้าววัดกินเพื่อประทังชีวิตที่อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรีนั้น กำชับให้ พมจ.สุพรรณบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เร่งลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และประเมินทางสังคมของครอบครัว พร้อมให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น อีกทั้งมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน 

นอกจากนี้ ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ให้การช่วยเหลือดูแลในเรื่องการรักษาพยาบาลอาการป่วยอย่างต่อเนื่อง และให้คำแนะนำปรึกษาเรื่องสิทธิประโยชน์ของคนพิการที่จดทะเบียนคนพิการตามพ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพคนพิการ พ.ศ.2550 และการส่งเสริมอาชีพ เพื่อสร้างรายได้ที่เพียงพอและมั่นคงในระยะยาวต่อไป .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย