อุบลราชธานี 4 พ.ย.- “บู๊เฮี้ยง” เถ้าแก่โรงสีอุบลฯ-อดีตอุปนายกสมาคมฯ เชื่อกลุ่มการเมืองไม่สามารถสั่งบิดเบือนกลไกตลาดข้าวได้ ชี้ราคาตกต่ำเพราะไม่มีออเดอร์ต่างประเทศและเดือน พ.ย.โรงสีส่วนใหญ่ยังไม่เปิดรับซื้อ พร้อมเห็นด้วยราคารัฐรับจำนำเหมาะสมไม่บิดเบือนตลาดโลก
นายบู๊เฮี้ยง รุ่งรัชกานนท์ อดีตอุปนายกสมาคมโรงสีข้าวไทย และเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงสีข้าวเอกไพบูลย์อุบลราชธานี เปิดเผยถึงกรณีข่าวโรงสีข้าวร่วมกับกลุ่มการเมืองสร้างกระแสให้ราคาตกต่ำว่า เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนมากกว่า แม้จะมีผู้ประกอบการโรงสีบางรายรู้จักนักการเมือง แต่ไม่สามารถบิดเบือนกลไกทางการตลาดในการรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาได้ สำหรับสาเหตุที่ทำให้ข้าวตกต่ำในช่วงเดือนก่อน เพราะปัจจุบันผู้ส่งออกข้าวสารไปยังต่างประเทศ ยังไม่มีคำสั่งซื้อเข้ามา และโรงสีหลายแห่งยังไม่เปิดรับซื้อข้าว แต่มีข้าวออกมาจำนวนมาก และข้าวส่วนใหญ่ชาวนาเกี่ยวสดแล้วนำมาขายทันที ทำให้มีความชื้นและสิ่งเจือปนสูง ก็ถูกหักค่าความชื้นและสิ่งเจือปน ซึ่งเรื่องนี้ชาวนาเข้าใจดี จึงมั่นใจว่ากลุ่มการเมืองไม่สามารถเข้ามาแทรกแซงโรงสีได้ แต่เกิดจากอุปทานและอุปสงค์ ซึ่งเป็นไปตามกลไกของราคาข้าวในประเทศ ที่ผู้ค้าข้าวยังไม่ต้องการซื้อข้าวในช่วงนี้ แต่เมื่อเปิดฤดูในต้นเดือนตุลาคม วันนี้ ราคาข้าวหอมมะลิความชื้นไม่เกิน 15% ได้ปรับราคาขึ้นไปเป็นตันละ 9,000 บาทแล้ว
นายบู๊เฮี้ยง ยังกล่าวถึงแนวทางการรับจำนำข้าวของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาว่า ทำถูกต้องที่สุด เพราะชาวนาภาคอีสานและชาวนารายย่อยทั่วประเทศได้รับประโยชน์จากโครงการนี้มาก เนื่องจากชาวนาส่วนใหญ่มีพื้นที่เพาะปลูก 10-15 ไร่ อยู่ราว 70-80% ที่เหลือมีรายละ 3-10 ไร่ ส่วนที่มีพื้นที่เพาะปลูกมาก ๆ เหมือนภาคกลางมีแค่เปอร์เซ็นต์เดียว ทำให้เงินช่วยเหลือถึงมือชาวนาจริง ๆ รวมทั้งราคารับจำนำไม่สูงเกินความจริง จึงไม่เป็นการบิดเบือนกลไกการตลาด เมื่อราคารับจำนำข้าวปีนี้ไม่สูงเกินความจริง จะทำให้พ่อค้าข้าวไทยสามารถขายแข่งขันด้านราคากับประเทศเพื่อนบ้านได้ และทำให้ข้าวไทยกลับมาส่งออกได้อีกครั้ง ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นในปีหน้าแน่นอน เพราะไม่กลายเป็นภาระให้กับรัฐบาล ต้องใช้เงินภาษีมาอุ้มข้าวจากการจำนำที่ไม่เป็นไปตามกลไกราคาตลาดค้าข้าวของโลก.-สำนักข่าวไทย