ปตท.สผ.ยังไม่ได้เอกสารพิสูจน์ความเสียหายจากรัฐบาลอินโดฯ กรณีน้ำมันรั่วแหล่งมอนทาราปี 52

ปตท.สผ.ยังไม่ได้เอกสารพิสูจน์ความเสียหายจากรัฐบาลอินโดฯ กรณีน้ำมันรั่วแหล่งมอนทาราปี 52

กทม. 6 พ.ค.- ปตท.สผ. ยังไม่ได้เอกสารพิสูจน์ความเสียหายจากรัฐบาลอินโดนีเซีย กรณีเหตุน้ำมันรั่วไหลของแหล่งมอนทารา ในทะเลติมอร์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อปี 2552  


ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อว่า The Coordinating Ministry for Maritime Affairs อินโดนีเซีย ยื่นฟ้อง บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด ( มหาชน ) หรือ ปตท.สผ. และ PTTEP Australasia (Ashmore Cartier) หรือ PTTEP AA ต่อศาลในกรุงจาการ์ตา เรียกร้องค่าเสียหายจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลของแหล่งมอนทารา ในทะเลติมอร์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อปี 2552 นั้น


ปตท.สผ. ขอชี้แจงว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลขึ้นในปี 2552 PTTEP AA บริษัทย่อยของ ปตท.สผ. ในฐานะผู้รับสัมปทานและผู้ดำเนินการโครงการมอนทารา ได้ประสานงานกับรัฐบาลออสเตรเลียทำการจัดจ้างผู้เชี่ยวชาญที่เป็นอิสระด้านสิ่งแวดล้อมทำการศึกษา วิจัย ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นจากการรั่วไหลของน้ำมัน ผลการศึกษาสรุปได้ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ และความหลากหลายทางชีวภาพทั้งในน่านน้ำออสเตรเลีย และบริเวณใกล้เคียงน่านน้ำอินโดนีเซียแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังได้ทำการศึกษาภาพถ่ายดาวเทียม ภาพถ่ายทางอากาศ รวมถึงการสร้างแบบจำลองการเคลื่อนที่ของคราบน้ำมัน (Trajectory Modelling) พบว่าคราบน้ำมันส่วนใหญ่อยู่ในน่านน้ำออสเตรเลีย ที่สำคัญคือคราบน้ำมันไม่ได้ลอยเข้าสู่แนวชายฝั่งทั้งออสเตรเลีย และอินโดนีเซีย

เมื่อปี 2553 ปตท.สผ. และ PTTEP AA ได้รับทราบว่ารัฐบาลอินโดนีเซีย ยื่นข้อเรียกร้องค่าเสียหายว่าน้ำมันที่รั่วไหล ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และมีผลต่อการประมง ปตท.สผ. และ PTTEP AA ได้ประสานงานกับรัฐบาลอินโดนีเซีย เพื่อแจ้งให้ทราบว่า ปตท.สผ. และPTTEP AA ยินดีที่จะเจรจาอย่างสุจริตใจ และร่วมกับรัฐบาลอินโดนีเซียในการพิสูจน์ความเสียหาย รวมถึงจัดส่งผลการศึกษาให้กับรัฐบาลอินโดนีเซีย นอกจากนี้ยังได้มีการเก็บตัวอย่างน้ำทะเลบริเวณแนวปะการังบริเวณใกล้เคียงกับน่านน้ำอินโดนีเซีย เพื่อตรวจสอบว่ามีคราบปิโตรเลียมหรือไม่ ผลการทดสอบพบว่าไม่พบคราบปิโตรเลียม ซึ่งมาจากการรั่วไหลของแหล่งมอนทารา และไม่พบการเปลี่ยนแปลงใดๆ ต่อสภาพปะการังในบริเวณดังกล่าว 


PTTEP AA ได้เจรจากับรัฐบาลอินโดนีเซียเป็นเวลาพอสมควร และพยายามที่จะประสานงานเพื่อลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ระหว่าง PTTEP AA กับรัฐบาลอินโดนีเซีย เพื่อหาข้อยุติ และพิสูจน์ความเสียหาย (หากมี) ร่วมกัน เริ่มด้วยการให้ทั้งสองฝ่ายจัดส่งเอกสารหลักฐานในส่วนของตน โดย PTTEP AA ได้ดำเนินการจัดส่งผลการศึกษา แต่ทางรัฐบาลอินโดนีเซียยังไม่ได้จัดส่งเอกสารเพื่อพิสูจน์ความเสียหาย รวมถึงยังไม่อนุญาตให้ PTTEP AA เข้าพื้นที่ด้วย นอกจากนี้ MOU ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดตั้งคณะกรรมการกลางร่วมกัน เพื่อให้ความเห็นจากผลการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม 

ปตท.สผ. และ PTTEP AA ขอเรียนว่า ปตท.สผ. และ PTTEP AA ยินดีที่จะรับฟังหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความเสียหายที่เกิดขึ้น และพร้อมจะรับผิดชอบหากมีความเสียหายที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเกิดขึ้นจริง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทำบุญครบรอบแตงโมเสียชีวิต

เพื่อนสนิททำบุญครบรอบ 3 ปี “แตงโม” เสียชีวิต

กลุ่มเพื่อนสนิทของ “แตงโม ภัทรธิดา” นักแสดงสาวผู้ล่วงลับ จัดพิธีทำบุญครบรอบ 3 ปี การเสียชีวิตของนางเอกคนดัง ที่วัดปากน้ำ ซ.พิบูลสงคราม 1 อ.เมือง จ.นนทบุรี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง