กรุงเทพฯ 6 พ.ค. – พพ.รุดสอบข้อเท็จจริงโครงการติดตั้งโคมไฟโซลาร์เซลล์บนถนนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ยืนยันสภาพการใช้งานได้จริง
มีเพียงร้อยละ 4 สภาพหลอดไฟเสียหาย ถูกทำลายและถูกขโมยทาง
ศอ.บต.กำลังเร่งแก้ไข ระบุความเข้มของแสงอาทิตย์ภาคใต้เหมาะสมติดตั้ง
นายประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยว่า จากกรณีมีประชาชนร้องเรียนผ่านสื่อ เกี่ยวกับปัญหาการติดตั้งโคมไฟส่องสว่างด้วยพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อความมั่นคงในพื้นที่
3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.)ได้รับงบสนับสนุนจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
มีปัญหาไฟส่องสว่างติดๆดับๆ มีสภาพการใช้งานจริงเพียงร้อยละ 20 ล่าสุดได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง
พบว่าโครงการดังกล่าวมีการติดตั้งโคมไฟและใช้งานจำนวนทั้งสิ้น 14,318 ชุด
สถานะปัจุบันทางศอ.บต.ได้ดำเนินการตรวจสอบแล้วมีโคมไฟส่องสว่างเสียหายอันเนื่องมาจากหลอดถูกทำลายหรือหลอดถูกขโมย
จำนวน 531 ชุด คิดเป็นร้อยละ
4 ทาง ศอ.บต. พร้อมเร่งดำเนินการแก้ไข
ส่วนการตั้งข้อสังเกตว่าโครงการดังกล่าว ไม่เหมาะสมกับพื้นที่ชายแดนภาคใต้
เนื่องจากมีฝนตกชุก แสงแดดน้อยนั้น
จากข้อมูลแผนที่ศักยภาพพลังงานแสงอาทิตย์ของประเทศไทย ปี 2552
พบว่าพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เช่น จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส
มีศักยภาพความเข้มแสงอาทิตย์รายวันเฉลี่ยประมาณ 17.43, 18.09
และ 17.66 เมกะจูล/ตารางเมตร/วัน MJ/m2.day ตามลำดับ
ขณะที่ค่าความเข้มแสงอาทิตย์รายวันเฉลี่ยของประเทศไทยประมาณ 18.0 MJ/m2.dayและในพื้นที่ที่มีค่าความเข้มแสงอาทิตย์สูงเช่นพื้นที่เขตภาคตะวันเฉียงเหนือ
เช่น จังหวัดศรีสะเกษ ประมาณ 18.25 MJ/m2.day จากข้อมูลดังกล่าว พื้นที่ชายแดนภาคใต้มีค่าความเข้มแสงอาทิตย์ที่อยู่ในเกณฑ์สูงเหมาะสมกับการประยุกต์ใช้ระบบเซลล์แสงอาทิตย์ผลิตไฟฟ้า
ถึงแม้จะมีค่าต่ำกว่าพื้นที่ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือเล็กน้อยแต่ก็มิได้แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ
และหากเทียบกับต่างประเทศที่มีการส่งเสริมการใช้เซลล์แสงอาทิตย์
ค่าความเข้มแสงอาทิตย์เฉลี่ยในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ยังมีค่าสูงกว่าหลายประเทศ
ทั้งนี้โครงการติดตั้งโคมไฟส่องสว่างแบบโซลาร์เซลล์นี้
เป็นของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ
ศอ.บต.ได้รับงบสนับสนุนจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน
เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปลายปี 2557 วัตถุประสงค์ของโครงการนี้
เน้นไปที่การสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน โดยติดตั้งโคมไฟส่องสว่างในจุดที่ล่อแหลม
สองข้างทางมีแสงสว่างไม่เพียงพอ
ซึ่งนอกจากจะเพิ่มความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนที่สัญจรไปมาแล้ว
ยังช่วยในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งการลาดตระเวน
และเดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆ ด้วย.-สำนักข่าวไทย

