เตรียมออกหมายจับวิศวกรและผู้เกี่ยวข้องเหตุคานเหล็กรถไฟฟ้าถล่ม

กรุงเทพฯ 30 เม.ย.- ตำรวจเร่งสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องและหน่วยงานรับผิดชอบกับเหตุคานเหล็กก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงถล่มทับคนงาน เพื่อออกหมายจับเบื้องต้นมีวิศวกรคุมงานที่ละเลย ข้อมุลพบตั้งแต่ก่อสร้างเกิดอุบัติเหตุแล้วถึง 6 ครั้งมีผู้เสียชีวิต 8 ราย   


พลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุอุปกรณ์ยึดคานเหล็กก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง (หมอชิต – รังสิต) ถล่มทับคนงาน เสียชีวิต 3 คน ว่า ได้เร่งรัดให้พนักงานสอบสวนดำเนินการออกหมายจับแล้ว แต่ยังต้องรอความชัดเจนจากผู้ชำนาญการ เช่น วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมป์ , การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือสำนักโยธาธิการกรุงเทพมหานคร เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดีให้รัดกุมชัดเจน โดยจะขอหน่วยงานดังกล่าวช่วยดำเนินการเร็วขึ้น เพื่อให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตเกิดความสบายใจ ส่วนการออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ เบื้องต้นมีไม่ต่ำกว่า 2 คน ในจำนวนนี้มีวิศวกรควบคุมงาน ที่พบว่าในขณะเกิดเหตุไม่ได้ควบคุมงานอย่างใกล้ชิด 

ส่วนการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง ขณะนี้ได้สอบปากคำไปแล้ว 12 ปาก เป็นคนงานที่กำลังปฏิบัติงาน รวม 9 ปาก และพยานแวดล้อมอีก 3 ปาก ทำให้พอทราบข้อเท็จจริงทั้งก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ และยังได้สั่งให้สอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมอีก เพื่อให้เกิดความกระจ่าง ส่วนข้อเท็จจริงในเหตุการณ์นี้ทราบว่า ผู้ที่มาขับเครน จบวุฒิการศึกษาชั้น ป.6 ขณะเกิดเหตุกำลังขับเลื่อนเครน แต่เครนฝืดจึงสไลด์ดึงคันโยกเพื่อถอยกลับ ทำให้เกิดแรงดึง ที่จุดยึดโยงทั้ง 6 จุด จนทำให้ขาดหล่นลงมาทับคนงานทั้ง 3 คน เสียชีวิต


ทั้งนี้ อยู่ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมในหลายประเด็น เช่น คนงานที่ขับเครน เป็นพนักงานโดยตรงของบริษัทที่ควบคุมงานก่อสร้าง หรือมาจากบริษัทย่อยที่รับเหมาช่วงเข้ามารับงาน , มีประสบการณ์ หรือมีใบประกอบวิชาชีพหรือไม่ 

นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องรายอื่น หลังพบข้อมูลว่านับตั้งแต่ เริ่มก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงเดือนกุมภาพันธ์ 2556 จนถึงปัจจุบัน มีอุบัติเหตุระหว่างการก่อสร้างมาแล้ว 6 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตแล้ว รวม 8 คน

อย่างไรก็ตามสำหรับการเคลื่อนย้ายเครนที่หล่นลงมาบนถนน ได้สั่งการให้มีการเคลื่อนย้ายให้แล้วเสร็จไม่เกินวันพรุ่งนี้ เพื่อลดผลกระทบด้านการจราจรในวันทำงานวันแรกของสัปดาห์ .-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าควักหัวใจ

รวบชายชาวจีนฆ่าโหดคู่ขา กรีดหน้าอก ควักหัวใจ-ปอด

ตำรวจรวบชายชาวจีน ก่อเหตุสะเทือนขวัญฆ่าขู่ขาหมกห้องน้ำอพาร์ตเมนต์ กลางเมืองพัทยา พบร่องรอยถูกกรีดหน้าอก ควักหัวใจ ปอดหายไปข้างหนึ่ง

อุทาหรณ์! จอดรถยนต์ติดเครื่องไว้ เจอขโมยขับหนีหาย

อากาศร้อนเป็นเหตุ หนุ่มสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์รถยนต์จอดไว้ ก่อนลงไปซื้อของ เดินออกมาอีกที เจอคนขโมยรถ ขับหนีหายไปแล้ว

ดับแล้ว 8 ราย รถชนบนมอเตอร์เวย์ อัดก๊อปปี้พังยับ

เกิดอุบัติเหตุใหญ่ช่วงกลางดึก บนมอเตอร์เวย์ สาย 7 มุ่งหน้าชลบุรี รถเทรลเลอร์ 2 คัน กับเอสยูวีอีก 1 คัน คนในรถเอสยูวี เสียชีวิต 8 ราย

ข่าวแนะนำ

ญาติเศร้ารับร่าง ตร.เสียชีวิตจากเครื่องบินเล็กตกทะเลชะอำ

ตั้งแถวรับร่างอย่างสมเกียรติ 2 ตำรวจเสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินเล็กตกทะเลชะอำ ตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จ.ลำปาง และราชบุรี ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว ด้านพ่อของ “ร.ต.อ.จตุรงค์” เผยลางบอกเหตุก่อนเครื่องบินตก ลูกมาขอนอนค้างที่บ้าน รู้ข่าวแทบช็อก

“กล้าธรรม” ขอบคุณคะแนนเสียงชาวนครฯ ลั่นพร้อมพัฒนาแก้ปัญหาให้คนใต้

หัวหน้าพรรคกล้าธรรม ขอบคุณทุกคะแนนเสียงของชาวนครฯ เขต 8 ที่ให้โอกาสพรรคกล้าธรรม เข้ามารับใช้ ลั่นพร้อมช่วย “บิ๊กโอ” พัฒนาแก้ปัญหาให้คนใต้ เพราะเราคือครอบครัวเดียวกัน

“บิ๊กโอ” กล้าธรรม นำโด่งเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีฯ เขต 8

“บิ๊กโอ” ผู้สมัครจากพรรคกล้าธรรม นำโด่งทิ้งห่าง “ไสว” จากภูมิใจไทย แล้วกว่าหมื่นคะแนน ในการเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช เขต 8

ตำรวจได้เบาะแสสำคัญโจรชิงทอง กลางห้างฯ อุดรธานี

วงจรปิดเผยคนร้ายใช้เวลาไม่ถึง 30 วินาที ก่อเหตุชิงทองมูลค่ากว่าล้านบาท กลางห้างฯ จ.อุดรธานี ล่าสุดตำรวจได้เบาะแสสำคัญ ทั้งเส้นทางหลบหนี รวมถึงพาหนะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุแล้ว