ปณิธานเชื่อเหตุป่วนใต้หนัก หวังยกระดับการก่อเหตุให้เป็นสากล ย้ำฝ่ายมั่นคงเฝ้าระวัง

ทำเนียบ 28 เม.ย.-นายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ จ.นราธิวาส ที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ลอบวางระเบิด และจุดไฟเผา ทหารพรานเสียชีวิต6ราย ว่าเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นทหารที่มาจากพื้นที่อื่น และเข้าไปปฎิบัติงานในพื้นที่เกิดเหตุ  ทั้งนี้หากมองภาพรวมสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีทิศทางที่ดีขึ้น แต่ยังมีกลุ่มคนที่พยามสร้างเงื่อนไขจุดกระแสช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ หรือช่วงที่มีการประชุมระหว่างประเทศสำคัญ  เช่นการประชุมองค์การความร่วมมืออิสลาม(OI) ที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบหวังให้มีการ หยิบยกสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้มาหารือ ส่วนจะเกี่ยวกับการที่นายกรัฐมนตรีไปร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนที่ฟิลิปินส์ด้วยหรือไม่ นั้น เชื่อว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน 


ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี มองว่า  ความรุนแรงที่เกิดขึ้นมีสาเหตุจากหลายปัจจัย  ทั้งการพยามสร้างศักยภาพของกลุ่มใหม่ๆต้องการยกระดับตัวเองขึ้นมาหวังผลให้เป็นประเด็นสากล   ทั้งการจัดกิจกรรมที่องค์กรนานานชาติกำลังจัดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาความรุนแรงในหลายประเทศ และข้อจำกัด ของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติในพื้นที่  อาจเป็นตัวสนับสนุนให้กลุ่มดังกล่าวยิ่งออกมาเคลื่อนไหว  สำหรับการเฝ้าระวังเหตุความรุนแรงในอนาคต ต้องเน้นย้ำเฝ้าระวัง การโจมตีด้านสาธารณูปโภค อาทิ เสาไฟฟ้า เสาสัญญาณโทรศัพท์  อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารโทรคมนาคม ที่สามารถโจมตีได้ง่าย และวิธีที่ผู้ก่อเหตุได้เรียนรู้การโจมตี กับสิ่งเหล่านี้ยิ่งทำให้เจ้าหน้าที่ต้องยิ่งเพิ่มการป้องกันระบบสาธารณูปโภคให้มากขึ้น ไม่เช่นนั้นจะสร้างผลกระทบต่อประชาชน 

ส่วนการขยายพื้นที่ก่อความไม่สงบ มาในหลายอำเภอของ จ.สงขลา นั้น นายปณิธาน มองว่า กลุ่มคนเหล่านี้ มุ่งแสวงหาโอกาส ช่องว่าง ที่สามารถสร้างสถานการณ์รุนแรงได้ บางครั้งพื้นที่สงบ  เจ้าหน้าที่ก็จะจัดกำลังไปเฝ้าระวังพื้นที่ ที่รุนแรงจึงทำให้เกิดช่องว่างขึ้น  เจ้าหน้าที่ก็ยังจับตามองเรื่องการใช้ระเบิด ในรูปแบบต่างๆ


เมื่อถามว่าการเคลื่อนไหวก่อแหตุของกลุ่มคนเหล่านี้ มีนักการเมืองท้องถิ่น หรือผู้นำท้องถิ่นเคลื่อนไหวอยู่เบื้องหลังหรือไม่  นายปณิธาน ยอมรับว่า เป็นปัจจัยที่รัฐบาลเฝ้าระวังอยู่ เพราะบางกรณีมีความเชื่อมโยงกับสิ่งผิดกฏหมาย แต่เชื่อว่า หากมี ก็ค่อนข้างคลายตัว เพราะในพื้นที่มีภาคเอกชนลงไปมาก องค์กรสตรี องค์กรท้องถิ่น ก็ลงไปเยอะขึ้นและทำหน้าที่ได้ดี   ทั้งนี้ยืนยันว่าแม้ข่าวของการก่อเหตุจะดูรุนแรง แต่ภาพรวมในพื้นที่สถานการณ์ดีขึ้น ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ  การศึกษาพัฒนาไปมาก.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก