คาซัคสถาน 22 เม.ย.- “เจ้าทีม” นุชิต รักญาติ คว้าเหรียญทองแดงปิดท้ายทีมจอมเตะไทยในศึกเทควันโดเยาวชนชิงแชมป์เอเชียที่คาซัคสถาน
เทควันโดเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศคาซัคสถาน เมื่อวานลงทำการแข่งขันวันสุดท้ายในประเภทต่อสู้ 4 รุ่น รุ่น 63 กิโลกรัมชาย “เจ้าทีม” นุชิต รักญาติ จอมเตะหนุ่มไทย อดีตเหรียญทองแดงยุวชนโลกที่เกาหลีใต้ เมื่อปี 2015 เอาชนะนักกีฬาจากจีนในรอบแรก และเอาชนะนักกีฬาจากอิหร่าน ในรอบที่สอง ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ
โดย “เจ้าทีม” ขวัญใจคนจังหวัดภูเก็ต เข้ารอบตัดเชือกไปพบกับ คิม ซึง วัน จากเกาหลีใต้ โดยคะแนนผลัดกันนำผลัดกันตาม จนยกสุดท้าย จอมเตะชาวไทยเปิดหน้าแลก เดินบุกหวังทำคะแนนด้วยลูกเตะศีรษะ แต่โดนคู่ต่อสู้สวนคืน ก่อนแพ้ไป 21-24 คะแนนคว้าเหรียญทองแดง และเป็นนักกีฬาไทยคนสุดท้ายที่ได้เหรียญ ในศึกเทควันโดเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย หลังจบแมตช์ “เจ้าทีม” ยอมรับว่าเสียดายที่พลาดเสียแต้มให้คู่ต่อสู้ในช่วงท้าย อย่างไรก็ตามจะเก็บไว้เป็นประสบการณ์ เป้าหมายต่อไปคือหวังไปเล่นซีเกมส์ที่ประเทศมาเลเซียในเดือนสิงหาคม
ส่วนนักกีฬาอีก 3 คนที่ลงแข่งขันเมื่อวานเช่นกัน ทั้ง “เจ้าแมน” จีรวัฒน์ นาดทอง รุ่น 59 กิโลกรัมชาย, “น้องไนท์” ฐานิดา ดาราสูรย์ รุ่น 55 กิโลกรัมหญิง และ “น้องเก็ท” กานธิดา แสงสิน รุ่น 59 กิโลกรัมหญิง แพ้คู่ต่อสู้ตกรอบแรก
สรุปทีมเทควันโดเยาวชนไทย เฉพาะประเภทต่อสู้ ทำได้ 2 เหรียญทอง, 2 เหรียญเงิน, 2 เหรียญทองแดง และเมื่อรวมกับประเภทพุมเซ่ และพุมเซ่ฟรีสไตล์ ไทยทำได้ 4 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน และ 4 เหรียญทองแดง ซึ่งนอกจากเหรียญรางวัลแล้ว ยังมีรางวัลพิเศษคือทีมเทควันโดยอดเยี่ยมแห่งทัวร์นาเมนต์ ซึ่งทีมไทยคว้าอันดับ 2 โดย “โค้ชเช” เช ยอง ซอก เป็นตัวแทนขึ้นไปรับรางวัล
หลังจบการแข่งขัน “โค้ชเช” เช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอน พอใจกับจำนวนเหรียญที่ได้ ยอมรับว่ามีนักกีฬาที่มีฝีไม้ลายมือ แต่ต้องปรับปรุงจุดด้อยเพื่อพัฒนาต่อไป ส่วนการต่อยอดไปสู่ ซีเกมส์ที่มาเลเซียเดือนสิงหาคม รวมทั้งเอเชียนเกมส์ที่อินโดนีเซียปี 2018 และ โอลิมปิกเกมส์ที่ญี่ปุ่นในปี 2020 คงต้องดูพัฒนาการของน้องๆ
“โค้ชเช” กล่าวต่อว่า รายการต่อไปที่รออยู่ของสมาคมกีฬาเทควันโดคือศึกชิงแชมป์โลกที่ประเทศเกาหลีใต้ ในเดือนมิถุนายน ส่วนนักกีฬาที่เลือกไว้น่าจะเป็นสามจอมเตะจากโอลิมปิก ริโอ เกมส์ เมื่อปีที่แล้ว ทั้ง “น้องนก” พรรณนภา หาญสุจินต์, “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ และ “เจ้าเทม” เทวินทร์ หาญปราบ. -สำนักข่าวไทย