หมอชิต 11 เม.ย. – การบังคับใช้กฎหมายจับปรับรถตู้โดยสารเกิน 13 ที่นั่ง วันแรกยังไม่พบผู้กระทำผิด ขณะที่พนักงานขับรถยอมรับรายได้ลด-สับสนข้อปฏิบัติ แนะเร่งประชาสัมพันธ์
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (หมอชิต) ซึ่งวันนี้ (11 เม.ย.) เป็นวันแรกที่กรมการขนส่งทางบกเริ่มใช้มาตรการจับปรับรถตู้โดยสารสาธารณะ ที่บรรทุกผู้โดยสารเกิน 13 ที่นั่ง ว่ามีเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกและองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ตรวจสอบรถตู้โดยสารสาธารณะอย่างเข้มงวด
นายสุกรี จารุภูมิ ผู้อำนวยการกองตรวจการขนส่ง กรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบรถตู้โดยสารสาธารณะที่วิ่งให้บริการในพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและหมอชิตตั้งแต่เช้าวันนี้ยังไม่พบผู้กระทำผิดหรือฝ่าฝืนแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกจะตรวจสอบตลอด 24 ชั่วโมง หากมีผู้ฝ่าฝืนพร้อมดำเนินการเปรียบเทียบปรับผู้ประกอบการหรือเจ้าของรถ หรือคนขับ อัตราเบื้องต้น 500 บาท และกรณีจงใจเจตนาบรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่นั่งที่จดทะเบียนไว้ให้ดำเนินการลงโทษขั้นสูงสุดทุกกรณี
นายศักดา พัสกุล พนักงานขับรถตู้โดยสารสาธารณะเส้นทางกรุงเทพฯ – ปราจีนบุรี กล่าวว่า ได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว เนื่องจากสามารถรับผู้โดยสารได้น้อยลงรายได้ลดลงอย่างน้อยวันละ 800 บาท ขณะที่มองว่าการตรวจสอบสภาพรถภายหลังการถอดเบาะที่นั่งยังไม่ได้มาตรฐาน เพราะไม่มีการกำหนดข้อควรปฏิบัติที่ชัดเจนและเจ้าหน้าที่ขาดความเข้าใจในคำสั่งข้อควรปฏิบัติ เพราะชี้แจงรายละเอียดไม่เหมือนกัน เช่น จำนวนค้อนทุบรถที่ต้องติด ตำแหน่งเบาะที่นั่ง ข้อความฉุกเฉินต้องติดบริเวณใด เป็นต้น พร้อมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขและประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะด้วย.-สำนักข่าวไทย
