“สุวัจน์” นำทีมชาติพัฒนากล้า ปราศรัยใหญ่โคราช

นครราชสีมา 28 เม.ย.-“สุวัจน์” นำทีม ชพก. ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่โคราช ชูนโยบายเศรษฐกิจ 12 ด้าน และโคราชโนมิกส์ คนแห่ฟังแน่น ประกาศจุดยืนหนุนพักอันดับ 1 เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

วันที่ 28 เมษายน 2566 เวลา 17.00 น. นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรค, พร้อมผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา ทุกเขต อาทิ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ผู้สมัคร ส.ส. เขต1​ เบอร์ 5 นายวัชรพล​ โตมรศักดิ์​ ผู้สมัคร​ ส.ส.​ เขต​ 2​ เบอร์ 6 นายสมศักดิ์ กาญจนวัฒนา ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 เบอร์ 1 นายสมบัติ กาญจนวัฒนา ผู้สมัครส.ส. เขต 4 เบอร์ 4 และวิว” เยาวภา บุรพลชัย รองโฆษกพรรคฯ ผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ เปิดเวที่ปราศรัยใหญ่ หน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา มีพี่น้องประชาชนชาวโคราชมารับฟังการปราศรัยใหญ่กว่า 20,000 คน


โดยก่อนการปราศรัย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า ได้พาคณะมากราบสักการะคุณย่าโม พระชัยเมือง และพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 หน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เพื่อความเป็นศิริมงคล และก่อนขึ้นเวที่ปราศรัย นายสุวัจน์ พร้อมผู้สมัครทั้ง 16 เขต ได้กล่าวทักทายพบปะพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด

โดยนายสุวัจน์ นำเสนอนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า”งานดี มีเงิน ของไม่แพง” โดยเฉพาะของจังหวัดนครราชสีมา มีนโยบาย”โคราชโนมิกส์”ซึ่งเป็นนโยบายเฉพาะในการพัฒนาโคราชและภาคอีสาน เอาเศรษฐกิจยุคทองกลับมา ประกอบด้วยนโยบาย 5 ด้าน คือ 1.นโยบายการสร้างภาคอีสานให้เป็นระเบียงเศรษฐกิจใหม่ของโคราช 2.นโยบายการสร้างระบบคมนาคมที่เข้มแข็งและทันสมัย 3.นโยบายการสร้างให้โคราชอีสานเป็นดินแดนแห่งเมืองท่องเที่ยวที่เป็นอินเตอร์ 4.นโยบายโคราชอีสานเป็นเมืองผลิตอาหารให้กับโลก และ สุดท้าย 5.นโยบายการแก้ไขปัญหาที่พี่น้องประชาชนประสบมากๆ คือ น้ำท่วม น้ำแล้ง และน้ำประปาไม่เพียงพอ หรือนโยบายโคราชเมืองน้ำไม่ท่วม น้ำไม่แล้ง ประปาเพียงพอ รวมทั้งเรื่องกัญชาเสรีไม่ 100% ต้องมีการควบคุมดูแล


ส่วนนโยบายภาพรวม”งานดี มีเงิน ของไม่แพง” สร้างแพลตฟอร์มเศรษฐกิจใหม่ โดยเปิดนโยบายทั้งหมด 12 เรื่อง อันดับแรก คือ ปรับโครงสร้างราคาน้ำมัน เพื่อจะทำให้แก๊ส ค่าไฟ ถูกลง น้ํามันแพงมาจากปัจจัย 3 อย่าง คือ 1.การกําหนดราคาน้ํามันดิบ คือ น้ํามันดิบ เราไปซื้อจากต่างประเทศอันนี้เราควบคุมไม่ได้ 2.ค่าการตลาด คือ ปั๊มน้ํามัน จะมีค่าเด็กปั้ม มีค่าใช้จ่าย 3.ที่เราสามารถควบคุมได้คือ ค่าการกลั้น หมายความว่าโรงกลั่นในประเทศไทย มีอยู่ 6 โรงทั่วประเทศ สมัยก่อนโรงกลั่นน้ํามันในประเทศ กำไรปีประมาณ 3,000 ล้าน แต่ช่วงที่น้ำมันแพงๆ ไม่ใช่ปีนะ 6 เดือนกำไรหมื่น 5,000 ล้าน เพราะราคาที่ตั้งเป็นราคาที่เราไปอิงจากสิงคโปร์ ดังนั้น ถ้าวันนี้พรรคชาติพัฒนากล้าได้มีโอกาสไปดูแลพี่น้องเราจะบอกเลิกไปอิงราคาสิงคโปร์ ต้องอิงราคาเมืองไทย ฉะนั้น น้ำมันจะราคาถูกลงแน่นอน จะถูกลงขนาดไหนจะว่ากันอีกที แต่ไม่มีทางที่จะถึง 33-35 บาท ต้องต่ำกว่า 30 แน่นอนพอน้ำมันถูกแก๊สก็จะถูกก็จะทำให้ต้นทุนลดลง ก็จะทำให้ค่าไฟ ที่พวกเราเสียทุกวันนี้ลดลงเหมือนกัน

  1. มอเตอร์เวย์ทั่วไทย 4 ทิศ 2,000 กม. 3.ท่องเที่ยวนำไทย เพิ่มนักท่องเที่ยว 2 เท่า 80 ล้านล้านคน 4.หาเงินใหม่ให้ประเทศ 5 ล้านล้าน 5.ลดภาษีบุคคล เงินเดือน 40,000 บาทแรกไม่ต้องเสียภาษี 6.ยกเลิกแบล็กลิสต์บูโร รื้อระบบสินเชื่อ 7. Gov-Tech ราชการในมือถือ รวดเร็ว ปลอดคอร์รัปชั่น รื้อระบบราชการ 8.เกษตรสร้างชาติ เพิ่มมูลค่าด้วยเทคโนโลยี-อุตสาหกรรม 9.สร้างเด็กไทย 3 ภาษา ไทย-ต่างประเทศ-Coding 10.ทุนธุรกิจสร้างสรรค์ สูงสุดรายละ 1,000,000 บาท ไม่จำกัดวุฒิและวัย 11.สูงวัยไฟแรง งานใหม่ 5 แสนตำแหน่ง 12.อารยสถาปัตย์ ปรับปรุงบ้าน 50,000 ให้ผู้สูงวัยและผู้พิการ

นายสุวัจน์ กล่าวว่า ในส่วนของจุดยืนของพรรคชาติพัฒนากล้า ตอนนี้เรายังไม่ได้พูดถึงเรื่องของการไปจับมือกับพรรคใดพรรคหนึ่งในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะยังไม่ได้มีการเลือกตั้ง แต่ภายหลังจากการเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้วถ้าหากพรรคการเมืองใดมีคะแนนมาเป็นอันดับที่ 1 ก็ถือว่าเป็นพรรคการเมืองที่มีความชอบธรรมในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพราะถือว่าเป็นฉันทามติ ของประชาชนส่วนใหญ่แล้ว ซึ่งพรรคชาติพัฒนากล้าก็พร้อมที่จะสนับสนุนพรรคนั้นเพื่อทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพและสามารถบริหารประเทศชาติ ด้วยความราบรื่น ต่อไป.

สำหรับจุดแข็งของการหาเสียงของพรรคชาติพัฒนากล้านั้น นายสุวัจน์ ย้ำว่าเราพยายามที่จะตอกย้ําความเป็นไปได้แล้วการเกิดขึ้นจริงและสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจที่อยู่ภายใต้นโยบายเศรษฐกิจของพรรค ในเรื่องนโยบายในการที่จะสร้างงานใหม่ๆ เพื่อให้งานไปสร้างเงินให้กับพี่น้องประชาชน หรือว่านโยบายที่จะลดค่าครองชีพ ค่าไฟ ค่าน้ํามัน โดยเฉพาะเรื่องโคราชโนมิกส์ เราได้รับการขานรับซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนครั้งใหญ่ของภาคอีสาน เรามีอุตสาหกรรมเกิดขึ้นพี่น้องแรงงานก็ไม่ต้องย้ายถิ่น และโครงสร้างพื้นฐานที่รัฐสร้างไว้แล้วก็ไปเร่งให้เสร็จโดยเร็วทุกอย่างก็จะเกิดขึ้นจริงๆ ก็จะชูเรื่องของนโยบายสร้างความชัดเจนของนโยบาย และจะต้องเน้นในเรื่องของการปราศรัยพบกับพี่น้องประชาชน ให้มากขึ้น เพื่อให้พี่น้องประชาชนที่ยังไม่ทราบได้ความชัดเจนมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

กต.โต้ท่าทีกัมพูชา ปมทุ่นระเบิดสังหารบุคคล

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – โฆษก กต. โต้ 4 ข้อ เกี่ยวกับท่าทีของฝ่ายกัมพูชา ปมทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ตามที่มีการสอบถามเกี่ยวกับท่าทีของฝ่ายกัมพูชาที่ออกมาแถลงในประเด็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในช่วงที่ผ่านมานั้น นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงเพิ่มเติม ดังนี้ 1. เป็นที่น่าเสียดายที่กัมพูชาไม่รับข้อเสนอของไทยในการร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด ในการประชุม RBC ระหว่างกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด กับกองบัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา เมื่อวานนี้ (16 ส.ค.68) โดยฝ่ายกัมพูชาระบุว่าต้องขึ้นอยู่กับพัฒนาการของการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิง ตลอดจนเสนอให้มีความร่วมมือเฉพาะในบริเวณที่มีการปักปันเขตแดนแล้วเสร็จก่อน 2. ท่าทีของกัมพูชาดังกล่าว เป็นท่าทีที่ย้อนแย้งกันอย่างชัดเจน โดยกัมพูชาอ้างว่าให้ความสำคัญกับการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม แต่กลับสร้างเงื่อนไขและปล่อยให้อาวุธร้ายแรงเช่นนี้ยังคงอยู่และถูกนำไปใช้ ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของ GBC อย่างชัดเจน และไม่ให้ค่ากับชีวิตและความปลอดภัยของมนุษย์ที่เป็นพี่น้องประชาชนของทั้งสองประเทศ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม และตอกย้ำเจตนารมณ์ที่จะยังคงละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศต่อไป 3. นอกจากนี้ ตามการแถลงข่าวของโฆษก กห. กัมพูชา และกรณีนายเฮง รัตนา ผอ. CMAC เช้าวันนี้ ที่กล่าวอ้างว่าทุ่นระเบิด PMN-2 ที่นำมาเสนอต่อคณะทูต องค์การระหว่างประเทศ […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

มทภ.2 ปฏิเสธรับตำแหน่งทางการเมืองหลังเกษียณ

กาฬสินธุ์ 17 ส.ค. – แม่ทัพภาค 2 ร่วมพิธียกเสาเอกเจดีย์โนนสาวเอ้ “หลวงปู่ศิลา” พร้อมปฏิเสธรับตำแหน่งทางการเมืองหลังเกษียณอายุราชการ “บิ๊กกุ้ง” พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 หลังมีหลายฝ่ายเรียกร้องให้ พล.ท.บุญสิน รับตำแหน่งทางการเมือง หรือต่ออายุราชการ จากผลงานแม่ทัพภาคที่ 2 อันโดดเด่น ถูกใจประชาชน วันนี้ พล.ท.บุญสิน ในฐานะลูกศิษย์คนดังของหลวงปู่ศิลา เดินทางมาร่วมพิธีฉลองประกาศตั้งวัดสวนธรรมปีติ และยกเสาเอก เสาโท เจดีย์โนนสาวเอ้ ณ วัดสวนธรรมปีติ ต.เชียงเครือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ขณะทำพิธียกเสาเอก เกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกลด ท่ามกลางพุทธศาสนิกชนนับหมื่นคนเข้าร่วมพิธี ขณะที่หลายคนมารอต้อนรับ พล.ท.บุญสิน เพื่อมอบกำลังใจและขอบคุณที่ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของไทยอย่างเต็มความสามารถจำนวนมาก พล.ท.บุญสิน เปิดเผยถึงแผนในอนาคตหลังจากเกษียณอายุราชการว่า จะไปทำหน้าที่เป็นทหารกองหนุน เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศไทย ส่วนตำแหน่งทางการเมืองไม่ขอรับ ขอทำหน้าที่ดูแลประเทศชาติในส่วนที่เราสามารถทำได้.-สำนักข่าวไทย

ร่วมส่งดวงวิญญาณ “พลทหารรัฐภูมิ” แน่นวัด

สุรินทร์ 17 ส.ค. – ประชาชนจำนวนมากร่วมพิธีฌาปนกิจร่าง “พลทหารรัฐภูมิ” แน่นวัดกลางบัวเชด จ.สุรินทร์ พ่อเผยโล่งใจมีคนเข้าใจลูกชายมากขึ้น วัดกลางบัวเชด อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ สถานที่จัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพของพลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ซึ่งก่อเหตุยิงวัยรุ่น 2 ราย ได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา ก่อนถูกพบว่าเสียชีวิตบริเวณป่าริมคลองส่งน้ำบ้านเขื่อนแก้ว พื้นที่ อ.กาบเชิง โดยวันนี้มีพิธีฌาปนกิจศพพลทหารรัฐภูมิ ท่ามกลางความเศร้าโศกของญาติและเพื่อนร่วมงานที่มาร่วมพิธีเป็นอย่างมาก รวมถึงหน่วยงานต้นสังกัด ก่อนทำพิธีมีทหารกองเกียรติยศทำความเคารพศพ นายอำเภอบัวเชด เป็นประธานในพิธีขึ้นทอดผ้าบังสุกุล จากนั้นผู้ที่เข้าร่วมงานขึ้นวางดอกไม้จันทน์ โดยก่อนหน้าที่จะประกอบพิธี มีหลายหน่วยงาน องค์กรต่างๆ และประชาชน ร่วมกันมอบเงินจากกองทุนต่างๆ ให้กับครอบครัวของพลทหารรัฐภูมิ พ่อโล่งใจคนเข้าใจลูกชายมากขึ้นนายประยูร ผู้เป็นพ่อ เผยความรู้สึกว่าตอนนี้สบายใจขึ้นมากเกี่ยวกับข่าวของลูกชายที่ออกไปในครั้งแรกส่งผลกระทบต่อสภาจิตใจของคนในครอบครัว ก่อนมีการแก้ไขข่าวที่ถูกต้อง ตรงกับข้อเท็จจริง และมีคนมาให้กำลังใจจำนวนมาก บอกลูกชายครั้งสุดท้ายว่าลูกทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว พ่อภูมิใจในตัวลูกชายมาก พร้อมยอมรับว่ามีคนมาขอสำเนาเลขบัญชีไปเปิดรับเงินบริจาค แต่ไม่ได้เป็นคนเปิดเอง และจะปิดรับบริจาควันจันทร์นี้ (18 ส.ค.) จนถึงขณะนี้ไม่ทราบว่าได้เงินเท่าไร มีน้องชายมาบอกว่าเขาจะโอนมาให้ 50,000 […]