เสียชีวิต

มะนิลา 25 ส.ค. – พายุโซนร้อนหมาอ๊อน (Ma-On) ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 รายและบาดเจ็บ 4 ราย หลังพัดกระหน่ำฟิลิปปินส์ โดยขณะนี้พายุเคลื่อนตัวออกจากฟิลิปปินส์และกำลังมุ่งหน้าสู่พื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน  สำนักงานภัยพิบัติฟิลิปปินส์ เผยวันนี้ว่า พบผู้เสียชีวิต 2 รายถูกต้นไม้ล้มทับในจังหวัดคาลิงกาและจังหวัดคากายัน ซึ่งเป็นที่ราบภูเขาทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์ และมีผู้เสียชีวิตอีก 1 รายจากเหตุจมน้ำในจังหวัดคามารีเนสซูร์ ทางตะวันออกของฟิลิปปินส์ อีกทั้งยังพบผู้บาดเจ็บอีก 4 ราย สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า พายุโซนร้อนมาอ๊อน ซึ่งมีความเร็วลม 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้พัดถล่มพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฟิลิปปินส์เมื่อวันอังคาร อิทธิพลของพายุดังกล่าวทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วม และดินถล่ม ก่อนที่พายุได้เคลื่อนตัวออกจากฟิลิปปินส์เมื่อช่วงค่ำวันอังคาร ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ของฟิลิปปินส์ ได้ประกาศเมื่อวันอังคารสั่งปิดหน่วยงานราชการและโรงเรียนรัฐบาลในกรุงมะนิลาและจังหวัดใกล้เคียงเป็นเวลา 2 วัน เพื่อรับมือพายุโซนร้อนหมาอ๊อน ขณะนี้ หลายเมืองทางตอนใต้ของจีนกำลังเตรียมรับมือกับพายุโซนร้อนหมาอ๊อน โดยคาดว่าพายุดังกล่าวจะขึ้นชายฝั่งของมณฑลกวางตุ้งในวันนี้ อิทธิพลของพายุโซนร้อนหมาอ๊อนจะทำพื้นที่ดังกล่าวให้มีฝนตกและลมแรง ซึ่งถือเป็นการบรรเทาสภาพอากาศร้อนจัดเป็นเวลาหลายวันในพื้นที่ทางตอนใต้ของจีนจากคลื่นความร้อนสูง จนทำให้เกิดปัญหาด้านพลังงานไฟฟ้า พืชผลการเกษตรเสียหาย และไฟป่า.-สำนักข่าวไทย

เคียฟ 25 ส.ค. – ยูเครนระบุว่า กองทัพรัสเซียได้ยิงจรวดใส่สถานีรถไฟในพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครนในวันครบรอบ 31 ปีที่ยูเครนประกาศเอกราชจากสหภาพโซเวียตเมื่อวันพุธ ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิต 22 คน ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวผ่านคลิปวิดีโอที่แถลงต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี ว่า รัสเซียได้ยิงจรวดใส่รถไฟโดยสารในเมืองแชปลิน ซึ่งเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปราว 145 กิโลเมตรทางตะวันตกของแคว้นโดเนตสก์ที่ถูกรัสเซียยึดครอง ทั้งยังระบุในอีกคลิปวิดีโอเมื่อช่วงค่ำวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า ชาวยูเครนทุกคนรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ชาวเมืองแชปลินต้องเผชิญ ขณะนี้ เขาได้รับรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว 22 คน และยูเครนจะทำให้รัสเซียต้องชดใช้ในสิ่งที่เกิดขึ้น ในขณะเดียวกัน ผู้ช่วยของประธานาธิบดีเซเลนสกี ระบุในแถลงการณ์ว่า กองทัพรัสเซียได้โจมตีเมืองแชปลิน 2 ครั้ง ในจำนวนผู้เสียชีวิต 22 คน มีเด็กชาย 1 คนเสียชีวิตจากเหตุจรวดตกใส่บ้านในการโจมตีครั้งแรก และมีอีก 21 คนที่เสียชีวิตในเวลาต่อมาจากเหตุจรวดตกใส่สถานีรถไฟ จนทำให้เกิดไฟไหม้รถไฟ 5 ขบวน ด้านที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครนเผยว่า กองทัพรัสเซียได้หลีกเลี่ยงการโจมตีกรุงเคียฟและมุ่งโจมตีเมืองด่านหน้า เช่น คาร์คีฟ ไมโคลาอีฟ นิโคปอล และดนิโปร […]

คาบูล 22 ส.ค. – น้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ตอนกลางของอัฟกานิสถาน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คน และผู้บาดเจ็บ 35 คน ในรอบ 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา โฆษกสำนักงานจัดการภัยพิบัติของอัฟกานิสถาน เผยวันนี้ว่า น้ำท่วมฉับพลันที่จังหวัดโลการ์ ทางตอนกลางของอัฟกานิสถาน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คน และผู้บาดเจ็บ 35 คนในรอบ 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา ฝนที่ตกหนักยังทำให้บ้านเรือนและพื้นที่เกษตรเสียหายเป็นจำนวนมาก ขณะที่โฆษกของรัฐบาลกลุ่มตอลิบาน ระบุว่า รัฐบาลตอลิบานขอเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศอิสลามและองค์กรช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือผู้ประสบภัยในอัฟกานิสถานอย่างเร่งด่วน สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า อัฟกานิสถานต้องเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติหลายครั้งในปีนี้ ซึ่งรวมถึงภัยแล้งและเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรง ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 คนในเดือนมิถุนายน ทั้งนี้ องค์กรช่วยเหลือด้านสิทธิมนุษยชนทั่วโลกได้จัดส่งความช่วยเหลือให้แก่อัฟกานิสถานมาเป็นเวลาหลายเดือน แต่ระบุว่าจำเป็นต้องได้รับเงินทุนและโอกาสในการเข้าถึงประชาชนมากขึ้น เพื่อป้องกันภัยพิบัติทางมนุษยธรรมที่อาจเกิดขึ้นในกลุ่มประชาชนไร้บ้านจำนวนมากที่ไม่มีโอกาสเข้าถึงที่พักพิงและน้ำสะอาด. -สำนักข่าวไทย

ปารีส 19 ส.ค. – พายุฝนฟ้าคะนองรุนแรงถล่มอิตาลี ออสเตรีย และฝรั่งเศส ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 คน ซึ่งมีเด็กรวมอยู่ด้วย 3 คน ส่วนใหญ่เสียชีวิตจากต้นไม้ล้มทับ บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า เกาะกอร์ซีกาของฝรั่งเศสต้องเผชิญกับลมพายุความเร็วสูงสุดถึง 224 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้ต้นไม้หักโค่นและบ้านเคลื่อนที่เสียหาย ทางการท้องถิ่นของเกาะกอร์ซีการะบุว่า มีเด็กหญิง อายุ 13 ปี ถูกต้นไม้ล้มทับเสียชีวิตในที่ตั้งแคมป์ มีชายคนหนึ่งเสียชีวิตจากเหตุเดียวกัน หญิง อายุ 72 ปี เสียชีวิตในรถยนต์ที่ถูกหลังคากระท่อมริมหาดร่วงใส่ ชายชาวประมง 1 คนและหญิงนักพายเรือคายัค 1 คนที่เสียชีวิตในทะเล นอกจากนี้ ยังมีประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บอีก 20 คน ในจำนวนนี้ มี 4 คนที่บาดเจ็บสาหัส และทางการท้องถิ่นอาจประกาศใช้สถานการณ์ภัยพิบัติธรรมชาติในพื้นที่ดังกล่าว ในขณะเดียวกัน ออสเตรียพบผู้เสียชีวิตเป็นเด็กหญิง 2 คนที่ถูกต้นไม้ล้มทับบริเวณทะเลสาบในรัฐคารินเทีย ทางใต้สุดของประเทศ ส่วนสื่อท้องถิ่นของออสเตรียรายงานว่า พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 […]

ปักกิ่ง 18 ส.ค. – ฝนตกน้ำท่วมในมณฑลชิงไห่ ทางตะวันตกของจีน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 16 คน และสูญหาย 36 คน สถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน หรือซีซีทีวี รายงานว่า เขตปกครองตนเองต้าถงฮุยและตู ซึ่งมีประชากร 403,368 คนในมณฑลชิงไห่ มีฝนตกหนักกะทันหันเมื่อช่วงค่ำวันพุธ ทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ลาดเชิงเขาและดินถล่ม ขณะที่แม่น้ำหลายสายมีระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมหลายพื้นที่จนทำให้ประชาชนกว่า 6,200 คนเดือดร้อนหนัก ด้านทางการท้องถิ่นของมณฑลชิงไห่ได้ส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยราว 2,000 นายและยานพาหนะกว่า 160 คนลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า จีนต้องเผชิญกับสภาพอากาศย่ำแย่นับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศร้อนจัดที่เกิดจากคลื่นความร้อนไปจนถึงเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ ขณะที่รัฐบาลจีนระบุว่า สภาพอากาศย่ำแย่เกิดจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมมากขึ้นเรื่อย ๆ.-สำนักข่าวไทย

กีซา 15 ส.ค. – เหตุไฟไหม้โบสถ์แห่งหนึ่งที่เมืองกีซาของอียิปต์ ทำให้ผู้เข้าร่วมพิธีรำลึกถึงวันสวรรคตของพระเยซูราว 5,000 คนพากันวิ่งหนีตายออกมาจากโบสถ์ และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 41 คน เจ้าหน้าที่ของอียิปต์เผยว่า เกิดเหตุไฟไหม้โบสถ์ ‘คอปติก อาบู ซีฟิน’ ในเมืองกีซา ในขณะที่มีผู้เข้าร่วมพิธีรำลึกถึงวันสวรรคตของพระเยซูราว 5,000 คน เพลิงไหม้ได้ลุกลามปิดกั้นทางเข้าโบสถ์ ทำให้ผู้คนพากันวิ่งหนีตายจนเกิดเหตุเหยียบกันขึ้น และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 41 คน ขณะที่ซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างข้อมูลจากโรงพยาบาลในอียิปต์ว่า มีเด็กเสียชีวิตรวมอยู่ด้วย 18 คน ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 3-16 ปี บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของอียิปต์ยังไม่ทราบต้นเหตุเพลิงไหม้โบสถ์ในครั้งนี้อย่างแน่ชัด แต่บาทหลวงฟาริด ฟาห์มี ซึ่งทำงานในโบสถ์อีกแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในย่านใกล้กันเผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า เหตุไฟไหม้ในครั้งนี้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร โบสถ์แห่งนี้ต้องใช้เครื่องปั่นไฟในขณะทำพิธีเพราะไฟดับ แต่เมื่อระบบไฟฟ้ากลับมาเป็นปกติ ก็ทำให้แผงควบคุมไฟฟ้าลัดวงจรขึ้น ด้านผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า เขาและผู้เข้าร่วมพิธีคนอื่น ๆ กำลังอยู่บนชั้นสามและชั้นสี่ในขณะที่เห็นควันไฟลอยคลุ้งขึ้นมาจากชั้นสอง ผู้คนพากันวิ่งกรูลงบันได และมีบางคนที่ตกบันไดลงมาทับคนที่อยู่ด้านล่าง จากนั้น ก็มีเสียงระเบิดดัง เกิดประกายไฟ และมีไฟลุกลามออกมาทางหน้าต่าง ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีอับเดล […]