เปรู

ลิมา 18 ก.ย.- ศพของนายอัลแบร์โต ฟูจิโมริ อดีตประธานาธิบดีของเปรู ได้รับการประกอบพิธีฝังแล้วที่สุสานในกรุงลิมา มีสมาชิกในครอบครัวและผู้สนับสนุนใกล้ชิดร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย นายฟูจิโมริถึงแก่อสัญกรรมเพราะอาการแทรกซ้อนจากโรคมะเร็งที่ลิ้นเมื่อต้นสัปดาห์นี้ ที่บ้านพักในกรุงลิมาด้วยวัย 86 ปี หลังจากเพิ่งได้รับการปล่อยตัวจากโทษจำคุกนาน 16 ปีเมื่อปลายปีที่แล้ว ฟูจิโมริซึ่งมีเชื้อสายญี่ปุ่น ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเปรูในช่วงทศวรรษ 1990 ได้รับเสียงชื่นชมว่า ช่วยฟื้นเศรษฐกิจเปรูด้วยนโยบายเปิดตลาดเสรีเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ ต่อมาถูกกล่าวหาว่าเป็นเผด็จการด้วยการร่วมกับกองทัพยึดอำนาจตนเองในปี 2535 จากนั้นได้รับเลือกตั้งต่ออีก 2 สมัย อีกทั้งยังถูกวิจารณ์ว่าโกงการเลือกตั้ง และสั่งประหารชีวิตประชาชนผู้เห็นต่าง.-815(814).-สำนักข่าวไทย

ลิมา 13 ก.ย. – ชาวเปรูหลายร้อยคนไปเข้าแถวหน้าอาคารกระทรวงวัฒนธรรม ในกรุงลิมา เพื่อเคารพศพนายอัลแบร์โต ฟูจิโมริ อดีตประธานาธิบดีเชื้อสายญี่ปุ่น ที่ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคมะเร็ง ชาวเปรูที่เข้าแถวรอเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น พากันโบกธงชาติและร้องคำขวัญสดุดีนายฟูจิโมริที่ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 11 กันยายนขณะอายุได้ 86 ปี เพื่อยกย่องที่เขาทำให้เศรษฐกิจประเทศมีเสถียรภาพในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 เมื่อวานนี้รัฐบาลเปรูประกาศให้มีการไว้อาลัยทั่วประเทศเป็นเวลา 3 วัน โดยในระหว่างนี้จะมีการตั้งศพของนายฟูจิโมริไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติในกรุงลิมา เพื่อให้คนมาเคารพศพจนถึงวันเสาร์ หลังจากนั้นจะเคลื่อนศพไปฝังที่สุสานทางตอนใต้ของกรุงลิมาต่อไป อดีตประธานาธิบดีฟูจิโมริใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำนานถึง 16 ปี หลังจากถูกตัดสินจำคุกนาน 25 ปีจากความผิดฐานทุจริต ใช้อำนาจในทางมิชอบและละเมิดสิทธิมนุษยชน จากการสังหารหมู่ในการปราบปรามกลุ่มกบฏฝ่ายซ้าย ก่อนได้รับการอภัยโทษเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว.-816(814).-สำนักข่าวไทย

ลิมา 12 ก.ย. – นายอัลแบร์โต ฟูจิโมริ อดีตประธานาธิบดีเปรูเชื้อสายญี่ปุ่น ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคมะเร็ง ขณะอายุได้ 86 ปี หลังมีอาการป่วยหนักจากหลายโรครุมเร้า ทำให้ต้องเข้าออกโรงพยาบาลอยู่เสมอในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นางเคอิโกะ ฟูจิโมริ นักการเมืองชาวเปรูที่เป็นบุตรสาวคนโตของนายฟูจิโมริโพสต์ผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) เมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่น โดยมีบุตรคนอื่นร่วมลงชื่อว่า บิดาถึงแก่อสัญกรรม หลังจากต่อสู้กับโรคมะเร็งมานาน เธอเคยแจ้งเมื่อเดือนกรกฎาคมว่า บิดาคิดจะลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกครั้งในปี 2569 นายฟูจิโมริเป็นลูกของชาวญี่ปุ่นที่อพยพมายังเปรู เขาได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีอย่างเหนือความคาดหมายในปี 2533 และได้เร่งพลิกฟื้นเศรษฐกิจด้วยนโยบายเปิดตลาดเสรี  เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อสูงมาก จนได้รับการสนับสนุนจากหลายฝ่าย ต่อมาได้กลายเป็นรัฐบาลเผด็จการด้วยการร่วมกับกองทัพยึดอำนาจการปกครองของตนเองในปี 2535 จากนั้นได้รับเลือกตั้งสมัยที่ 2 ในปี 2538 และสมัยที่ 3 ในปี 2543 ท่ามกลางเสียงครหาเรื่องโกงการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม หลังจากชนะเลือกตั้งสมัยที่ 3 ได้ไม่นาน นายฟูจิโมริได้หนีไปลี้ภัยที่ญี่ปุ่น เนื่องจากรัฐบาลของเขามีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริตอย่างกว้างขวาง  และการใช้กำลังปราบปรามกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาลอย่างรุนแรง ทำให้เกิดกระแสต่อต้านอย่างหนัก ต่อมาเขาถูกจับกุมที่ชิลีในปี 2548 และถูกส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาที่เปรู ศาลเปรูตัดสินจำคุก 25 ปีในปี […]