อับปาง

เรือประมงจีนเกิดอับปางในตอนกลางของมหาสมุทรอินเดียโดยลูกเรือ ซึ่งเป็นชาวจีน 17 คน ชาวอินโดนีเซีย 17 คนและชาวฟิลิปปินส์ 5 คน สูญหายไป

มะนิลา 29 มี.ค.- ชาวฟิลิปปินส์ในพื้นที่เดือดร้อนหนักนับตั้งแต่ทางการสั่งห้ามทำประมงและห้ามว่ายน้ำอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากน้ำมันยังคงรั่วจากเรือบรรทุกน้ำมันที่อับปางนอกชายฝั่งเกาะมินโดโร ทางตอนกลางของประเทศเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ น้ำมันเตามากกว่าครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด 800,000 ลิตรที่อยู่ในเรือปรินเซสส์เอ็มเพรสส์ (Princess Empress) ได้รั่วไหลและแผ่กระจายไปถึงแหล่งที่ขึ้นชื่อเรื่องมีความหลากหลายทางทะเลมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ผู้เชี่ยวชาญประมาณว่า คราบน้ำมันใหญ่ 2 ส่วนที่แผ่ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือและตะวันออกเฉียงใต้ของเรือบรรทุกน้ำมันอาจกินพื้นที่กว้างถึง 162 ตารางกิโลเมตรแล้ว คราบน้ำมันยังแผ่ไปถึงหมู่บ้านห่างไกลแห่งหนึ่งในเทศบาลโปลา จังหวัดโอเรียนตัลมินโดโร ปนเปื้อนชายหาด ก้อนหินและแม้แต่ปูที่อยู่ในบริเวณนั้น ชาวบ้านบางคนเริ่มล้มป่วย ชาวประมงเดือดร้อนเพราะทางการสั่งห้ามทำประมงและว่ายน้ำอย่างไม่มีกำหนด ทางการระบุว่า ต้องใช้เวลาทำความสะอาดคราบน้ำมันไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ขณะที่นักวิชาการเตือนว่า การฟื้นฟูสภาพแวดล้อมที่ได้รับผลกระทบอาจกินเวลานานหลายปี ชาวประมงหลายคนหารายได้ด้วยการเก็บคราบน้ำมันวันละ 4 ชั่วโมงแลกกับค่าจ้าง 355 เปโซ (ราว 224 บาท) จากรัฐบาล คิดเป็นครึ่งหนึ่งของรายได้จากการทำประมง รัฐบาลฟิลิปปินส์ประเมินว่า มีแนวปะการัง สาหร่ายทะเล และป่าชายเลนได้รับผลกระทบไม่ต่ำกว่า 31,250 ไร่ และอาจตายเพราะคราบน้ำมัน.-สำนักข่าวไทย

มะนิลา 21 มี.ค.- ฟิลิปปินส์แจ้งว่า พบเรือน้ำมันที่จมลงทะเลเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อนแล้ว ขณะที่คราบน้ำมันรั่วจากเรือได้แผ่ไปถึงแหล่งที่มีสัตว์น้ำอุดมสมบูรณ์ ผู้ว่าการจังหวัดโอเรียนตัลมินโดโร บนเกาะมินโดโร ห่างจากกรุงมะนิลาไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 140 กิโลเมตรเผยว่า ยานสำรวจใต้น้ำควบคุมจากระยะไกลของญี่ปุ่นพบเรือพรินเซสส์ เอ็มเพรสส์ (Princess Empress) ที่ระดับความลึกลงไปจากผิวน้ำเกือบ 400 เมตร เขาได้รับภาพถ่ายชุดแรกยืนยันตำแหน่งของเรือในเช้าวันนี้ ด้านสำนักงานภัยพิบัติแห่งชาติเผยว่า ยานสำรวจใต้น้ำจะประเมินสภาพความเสียหายของเรือก่อนตัดสินใจเรื่องวิธีการควบคุมน้ำมันรั่วไหลต่อไป เรือลำนี้บรรทุกน้ำมันเตาปริมาณ 800,000 ลิตร อับปางนอกชายฝั่งเกาะมินโดโรเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ น้ำมันเตาที่บรรทุกมาและน้ำมันดีเซลที่เป็นเชื้อเพลิงของเรือได้รั่วไหลออกมาปนเปื้อนน้ำทะเลและชายหาดของจังหวัดโอเรียนตัลมินโดโรและอีกหลายเกาะ ฟิลิปปินส์ได้ขอความช่วยเหลือจากหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น สหรัฐ ฝรั่งเศส ให้ช่วยจำกัดและกำจัดคราบน้ำมัน จนถึงขณะนี้คราบน้ำมันได้แผ่ไปไกลถึงเกาะเคเซียนไอส์แลนด์ นอกชายฝั่งทางเหนือของเกาะปาลาวัน ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่เรืออับปางไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 350 กิโลเมตร และแผ่ขึ้นเหนือไปยังช่องแคบเกาะเวิร์ดที่เป็นเส้นทางเดินเรือระหว่างเกาะมินโดโรกับเกาะลูซอนที่เป็นเกาะหลักของฟิลิปปินส์ และมีความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเล.-สำนักข่าวไทย

มะนิลา 3 มี.ค.- ทางการฟิลิปปินส์สั่งห้ามชาวประมงออกเรือทำประมง ในขณะที่ทางการพยายามจำกัดวงน้ำมันที่รั่วไหลจากเรือบรรทุกน้ำมันซึ่งอับปางและจมอยู่ใต้น้ำ เสี่ยงสร้างความเสียหายให้แก่สัตว์น้ำในทะเลและเศรษฐกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดโอเรียนตัล มินโดโร บนเกาะมินโดโร ห่างจากกรุงมะนิลาไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 140 กิโลเมตร กล่าวว่า สถานการณ์แย่ลงทุกขณะ และได้สั่งการให้ชาวประมงที่ขึ้นทะเบียนกับทางการจำนวน 18,000 คน งดออกเรือจนกว่ามีความปลอดภัยที่จะทำประมง โดยในระหว่างนี้ชาวประมงจะได้รับอาหารที่ทางการจัดสรรให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเผยด้วยว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านมาชี้ว่า ผลกระทบทางลบในครั้งนี้จะยืดเยื้อ ด้านนายกเทศมนตรีโปลาเผยว่า พบซากปลาเปื้อนคราบน้ำมันถูกซัดมาเกยชายหาด ขณะนี้แนวชายฝั่งทั้งหมดของเทศบาลได้รับผลกระทบแล้ว โดยก่อนหน้านี้ได้กลิ่นเหม็นน้ำมันราวกับเข้าไปในอู่ซ่อมรถ เรือปรินเซสส์ เอ็มเพรสส์ (Princess Empress) บรรทุกน้ำมันเตาปริมาณ 800,000 ลิตร เกิดปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้องและจมลงในทะเลที่มีคลื่นลมแปรปรวนนอกชายฝั่งจังหวัดโอเรียนตัล มินโดโร ระหว่างเดินทางออกจากจังหวัดบาตาอัน ใกล้กรุงมะนิลา ไปยังจังหวัดอีโลอีโล ทางตอนกลางของประเทศเมื่อวันอังคาร หน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์แจ้งในเบื้องต้นว่า น้ำมันที่รั่วไหลเป็นน้ำมันดีเซลที่ใช้กับเครื่องยนต์ ไม่ใช่น้ำมันเตาที่บรรทุกมา โดยรั่วไหลกินพื้นที่มากกว่า 24 ตารางกิเมตรนับจนถึงวันพุธ แต่ผลการตรวจตัวอย่างน้ำพบน้ำมันเตาปนเปื้อนในน่านน้ำนอกเทศบาลเนาฮัน จังหวัดโอเรียนตัล มินโดโร จนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลว่า มีน้ำมันดีเซลและน้ำมันเตารั่วไหลปนเปื้อนในปริมาณมากเพียงใด.-สำนักข่าวไทย

นักการทูตจีนเผยว่า เหตุเรือสินค้าอับปางในน่านน้ำนอกชายฝั่งญี่ปุ่น พบผู้เสียชีวิตแล้ว 8 คน ในจำนวนนี้เป็นชาวจีน 6 คน

ธากา 26 ธ.ค.- หน่วยงานของสหประชาชาติสันนิษฐานว่า เรือลำหนึ่งที่มีชาวโรฮีนจาอยู่บนเรือประมาณ 180 คนน่าจะอับปางลงแล้ว ตั้งแต่ล่องออกจากบังกลาเทศเมื่อสิ้นเดือนพฤศจิกายน โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอชซีอาร์ (UNHCR) แจ้งช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เกรงว่าเรือลำดังกล่าวซึ่งไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมออกทะเลได้สูญหายกลางทะเลไปแล้ว และคนบนเรือเสียชีวิตหมดทั้ง 180 คน  เพราะเรือน่าจะเริ่มแตกตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม ก่อนขาดการติดต่อไป โฆษกระบุด้วยว่า ปีนี้มีชาวโรฮีนจาเสียชีวิตหรือสูญหายกลางทะเลแล้วเกือบ 200 คน ถือเป็นปีที่เลวร้ายที่สุดปีหนึ่ง หลังจากที่มีชาวโรฮีนจาเสียชีวิตหรือสูญหายกลางทะเลอันดามันและอ่าวเบงกอลเกือบ 900 คนในปี 2556 และมากกว่า 700 คนในปี 2557 นอกจากนี้ยังพบว่าจำนวนชาวโรฮีนจาที่พยายามเสี่ยงตายหนีออกจากค่ายอพยพได้กลับมาใกล้ระดับก่อนโควิดระบาด เฉพาะที่ล่องเรือออกจากบังกลาเทศในปีนี้เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ถึง 5 เท่า ยูเอ็นเอชซีอาร์ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่า การที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นจุดหมายหลักของชาวโรฮีนจาผ่อนคลายมาตรการจำกัดโควิด มีส่วนทำให้ชาวโรฮีนจาพากันล่องเรือเสี่ยงตายมากขึ้นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย