กษัตริย์ชาร์ลส์ทอดพระเนตรทหารยูเครนฝึกในอังกฤษ

ลอนดอน 21 ก.พ.- สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ของอังกฤษเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรทหารยูเครนรับการฝึกฝนการทำสงครามแบบสนามเพลาะ ในขณะที่สงครามในยูเครนใกล้จะครบ 1 ปีในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 เสด็จฯทอดพระเนตรสนามฝึกที่เทศมณฑลวิลท์เชอร์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ ทหารยูเครน 200 นายมีกำหนดฝึกฝนการรบแบบพื้นฐานเป็นเวลา 5 สัปดาห์ ภายใต้การดูแลของนายทหารจากนิวซีแลนด์ พระองค์ทรงทักทายแบบชนพื้นเมืองเมารีกับทหารนายหนึ่งที่มาจากนิวซีแลนด์ด้วยการแตะหน้าผากและจมูก และทอดพระเนตรทหารฝึกการหลบอยู่ในสนามเพลาะในช่วงที่ถูกระดมยิง เนื่องจากขณะนี้สงครามในยูเครนได้เปลี่ยนมาเป็นการรบแบบสนามเพลาะที่เคยใช้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อกว่า 100 ปีก่อน กองทัพอังกฤษประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ตั้งเป้าฝึกฝนทหารยูเครนให้ได้ 10,000 นายภายใน 6 เดือน เพื่อให้ทหารที่ไร้ประสบการณ์มีทักษะที่จะสามารถนำไปใช้ในแนวรบ และจะมีทหารยูเครนอีก 20,000 นายเดินทางมาฝึกในอังกฤษในปีนี้ ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนเคยเข้าเฝ้าสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ที่พระราชบักกิงแฮมเมื่อต้นเดือนนี้ และรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีให้แก่ชาวยูเครนที่ลี้ภัยสงครามมาอังกฤษ.-สำนักข่าวไทย

พบรังสีสูงผิดปกติที่สนามเพลาะรัสเซียขุดในเชอร์โนบิล

เชอร์โนบิล 10 เม.ย.- บริษัทโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของทางการยูเครนเผยว่า ตรวจพบกัมมันตภาพรังสีสูงผิดปกติในบริเวณที่กองกำลังรัสเซียขุดสนามเพลาะภายในเขตหวงห้ามของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลที่เกิดอุบัติเหตุนิวเคลียร์ร้ายแรงที่สุดในโลกเมื่อปี 2529 นายเปโตร โคติน ผู้บริหารของเอเนอร์ฮัวตอม บริษัทบริหารโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของทางการยูเครน เผยผ่านแพลตฟอร์มเทเลแกรมว่า ได้เดินทางพร้อมคณะผู้เชี่ยวชาญไปยังพื้นที่บางส่วนในเรดฟอเรสต์ ซึ่งกินพื้นที่ 10 ตารางกิโลเมตรรอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล และอยู่ภายในเขตหวงห้ามรัศมี 30 กิโลเมตร ตรวจพบกัมมันตภาพรังสีสูงผิดปกติในบริเวณที่กองกำลังรัสเซียขุดสนามเพลาะและพยายามสร้างป้อมปราการ ตัวชี้วัดพบว่า กัมมันตภาพรังสีภายนอกร่างกายสูงกว่าปกติ 10-15 เท่า และมีความเป็นไปได้ว่ากัมมันตภาพรังสีภายในร่างกายที่ได้รับจากการสัมผัสดินปนเปื้อนอาจสูงกว่าปกติถึง 160 เท่า นายโคตินอธิบายเพิ่มเติมว่า หนึ่งในกัมมันตภาพรังสีภายในร่างกายคือ รังสีอัลฟาที่เกิดขึ้นเนื่องจากเชื้อเพลิงนิวเคลียร์แตกตัวกระจัดกระจายในพื้นที่ดังกล่าว หลังจากเตาปฏิกรณ์ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลระเบิดในปี 2529 เศษเชื้อเพลิงเหล่านี้อยู่ลึกลงไปในดิน 40-80 เซนติเมตรในช่วงที่กลุ่มผู้ยึดครองขุดสนามเพลาะ และเมื่อเข้าไปในร่างกายจะส่งผลรุนแรงกว่ารังสีแกมมาและเบตา ดังนั้นกลุ่มยึดครองที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวเกือบ 30 วัน จึงน่าจะได้รับรังสีในปริมาณที่ร้ายแรง ขณะเดียวกันเอเนอร์ฮัวตอมแถลงว่า กองกำลังรัสเซียที่ยึดครองโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลได้ขโมยข้าวของและทำลายสำนักงานและห้องทดลองปฏิบัติการของสถาบันเพื่อความปลอดภัยนิวเคลียร์ด้วย.-สำนักข่าวไทย

...