20 เกาหลีเหนือปฏิเสธจัดส่งลูกกระสุนปืนใหญ่และกระสุนประเภทอื่นๆ ให้รัสเซีย
81 เปียงยาง 23 ธ.ค. – เกาหลีเหนือระบุว่า รายงานข่าวที่อ้างว่าเกาหลีเหนือจัดส่งอาวุธให้แก่รัสเซียนั้นไม่เป็นความจริงและเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีหลักฐาน พร้อมตำหนิสหรัฐที่ส่งอาวุธร้ายแรงให้แก่ยูเครน สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือเคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือ รายงานอ้างคำพูดของโฆษกกระทรวงต่างประเทศของเกาหลีเหนือที่ระบุว่า รายงานข่าวของหนังสือพิมพ์โตเกียวชิมบุนของญี่ปุ่นที่ระบุว่าเกาหลีเหนือส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ให้แก่รัสเซียนั้นไม่ใช่เรื่องจริง และเป็นเพียงการเบี่ยงเบนประเด็นอย่างไร้สาระ ซึ่งไม่ควรค่าแก่การให้ความเห็นหรือชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้ เกาหลีเหนือยืนยันหนักแน่นว่าไม่เคยทำข้อตกลงซื้อขายอาวุธกับรัสเซีย และตำหนิสหรัฐว่าเป็นต้นเหตุทำให้เกิดการนองเลือดและการทำลายล้างในยูเครนด้วยการส่งอาวุธยุทโธปกรณ์หลายชนิดให้แก่ยูเครน ก่อนหน้านี้ หนังสือพิมพ์โตเกียวชิมบุนของญี่ปุ่นรายงานว่า เกาหลีเหนือได้ส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ เช่น กระสุนปืนใหญ่ ให้แก่รัสเซียผ่านทางรถไฟที่บริเวณพรมแดนของทั้งสองประเทศในเดือนพฤศจิกายน และคาดว่าจะส่งอาวุธเพิ่มให้ในอีกไม่กี่สัปดาห์หน้า ขณะที่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวของสหรัฐเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เกาหลีเหนือได้เสร็จสิ้นการส่งอาวุธในขั้นต้นให้แก่แวกเนอร์ กรุ๊ป บริษัทกองกำลังเอกชนของรัสเซีย เพื่อช่วยกองทัพรัสเซียในการทำสงครามยูเครน โดยที่แวกเนอร์ได้รับมอบจรวดและขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือ อย่างไรก็ดี นายเยฟเกนี พริโกซิน เจ้าของบริษัทแวกเนอร์ ได้ออกมาระบุว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่เป็นความจริงเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย
94 มอสโก 22 ธ.ค. – ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ระบุว่า ปัญหาขัดแย้งในยูเครนไม่ใช่ความผิดของรัสเซียเพียงผู้เดียว แต่ยูเครนก็มีส่วนผิดเช่นเดียวกัน ประธานาธิบดีปูตินกล่าวกับเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของรัสเซีย ซึ่งได้รับการถ่ายทอดผ่านโทรทัศน์ว่า ปัญหาขัดแย้งในยูเครนไม่ใช่ความผิดของรัสเซียเพียงคนเดียว แต่ยูเครนก็มีส่วนผิดเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ดี เขายังคงเห็นยูเครนเป็นประเทศพี่น้องกับรัสเซียอยู่เสมอ ปัญหาขัดแย้งที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากนโยบายของกลุ่มประเทศที่สามที่เข้ามาแทรกแซง ทั้งยังอ้างว่า ชาติตะวันตกกำลังใช้วิธีล้างสมองกลุ่มประเทศที่แยกตัวจากสหภาพโซเวียต โดยเริ่มจากยูเครนเป็นประเทศแรก ประธานาธิบดีปูตินยังกล่าวว่า รัสเซียได้พยายามสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับยูเครนมาเป็นเวลานานหลายปี เช่น การเสนอให้กู้ยืมเงินและการขายพลังงานราคาถูก แต่วิธีเหล่านี้ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทหารของรัสเซียระบุว่า กองทัพรัสเซียจะยังคงเดินหน้าใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนต่อไปในปีหน้า บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธกว่า 1,000 ลูก และส่งฝูงโดรนจู่โจมทางอากาศที่ผลิตโดยอิหร่านเข้าไปโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานหลายแห่งของยูเครนตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. จนทำให้มีชาวยูเครนหลายล้านคนต้องใช้ชีวิตท่ามกลางไฟดับในฤดูหนาวที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย
100 วอชิงตัน 22 ธ.ค. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ กล่าวกับประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนว่า สหรัฐจะยังคงให้ความช่วยเหลือยูเครนตราบนานเท่านานในสงครามกับรัสเซีย และยูเครนจะไม่มีวันถูกทอดทิ้งให้โดดเดี่ยวเดียวดาย ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวกับประธานาธิบดีเซเลนสกีในขณะที่ผู้นำยูเครนเดินเยี่ยมชมทำเนียบขาวของสหรัฐว่า ยูเครนจะไม่มีวันถูกทอดทิ้งให้โดดเดี่ยวเดียวดาย พร้อมยืนยันเรื่องที่สหรัฐจะมอบความช่วยเหลือครั้งใหม่มูลค่ากว่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 69,308 ล้านบาท) ให้แก่ยูเครนเพื่อนำไปใช้ป้องกันประเทศจากการโจมตีของรัสเซีย และให้สัญญาว่าจะมอบความช่วยเหลืออีกราว 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.56 ล้านล้านบาท) นอกจากนี้ ประธานาธิบดีไบเดนยังกล่าวในงานแถลงข่าวร่วมกับประธานาธิบดีเซเลนสกีว่า เขาไม่ได้รู้สึกวิตกกังวลเลยแม้แต่น้อยเกี่ยวกับการจัดตั้งกลุ่มแนวร่วมนานาชาติที่เป็นพันธมิตรร่วมกันเพื่อช่วยเหลือยูเครน ทั้งยังระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ยังคงไม่มีความคิดที่จะหยุดการทำสงครามอันโหดร้ายในครั้งนี้ ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีเซเลนสกี ได้กล่าวขอบคุณสหรัฐสำหรับการสนับสนุนและความช่วยเหลือแก่ยูเครนในด้านต่าง ๆ และหวังว่ารัฐสภาสหรัฐจะลงมติอนุมัติวงเงินเพิ่มเติม 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในการช่วยเหลือยูเครนเพื่อปกป้องอิสรภาพและดินแดนของยูเครน แม้สหรัฐเพิ่งมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในรัฐสภา แต่เขาเชื่อว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทั้งพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต นอกจากนี้ ผู้นำยูเครนยังกล่าวกับ ส.ส. สหรัฐ ที่อาคารรัฐสภาว่า ยูเครนจะไม่มีวันยอมแพ้ในสงครามครั้งนี้ แต่ต้องการอาวุธเพิ่มมากขึ้นเพื่อนำมาใช้ปกป้องประเทศ พร้อมทั้งมอบธงรบที่มีรายนามของเหล่าทหารผู้พิทักษ์เมืองบัคมุต ซึ่งเป็นเมืองสมรภูมิรบด่านหน้าในแคว้นโดเนตสก์ ทางตะวันออกของยูเครน ให้แก่รัฐสภาสหรัฐ […]
34 “เซเลนสกี” ผู้นำยูเครน ปราศัยในที่ประชุมรัฐสภาสหรัฐ ระบุยูเครนยืนหยัดต่อต้านการรุกราน พร้อมขอบคุณสหรัฐที่มอบแรงสนับสนุนต้านทานรัสเซีย
78 เคียฟ/วอชิงตัน 21 ธ.ค. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน อาจเดินทางเยือนกรุงวอชิงตันของสหรัฐเพื่อพบกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน และเยี่ยมรัฐสภาสหรัฐในวันนี้ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็จะถือเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งแรกของผู้นำยูเครนนับตั้งแต่ถูกรัสเซียบุกโจมตีเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างแหล่งข่าวไม่เผยนามที่ระบุว่า ประธานาธิบดีเซเลนสกีกับประธานาธิบดีไบเดนอาจพบกันที่ทำเนียบขาวสหรัฐในวันนี้ โดยที่การเดินทางเยือนสหรัฐของผู้นำยูเครนมีขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีไบเดนตั้งใจที่จะส่งระบบต่อต้านขีปนาวุธ ‘แพทริออต’ (Patriot) ให้แก่ยูเครนเพื่อใช้ปกป้องประเทศจากการถูกรัสเซียโจมตีอย่างหนัก นอกจากนี้ ซีเอ็นเอ็นยังรายงานอ้างแหล่งข่าวไม่เผยนาม 2 คนที่ระบุว่า ประธานาธิบดีเซเลนสกีกำลังอยู่ในระหว่างการเดินทางไปยังกรุงวอชิงตัน ซึ่งถือเป็นการเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรกในรอบเกือบ 10 เดือนนับตั้งแต่เกิดสงครามในยูเครน และจะเดินทางไปพบกับ ส.ส. สหรัฐที่รัฐสภาด้วย แต่ยังไม่มีการยืนยันเกี่ยวกับกำหนดการนี้ และอาจมีการเปลี่ยนแผนได้ เนื่องจากข้อกังวลด้านความปลอดภัย อย่างไรก็ดี โฆษกของประธานาธิบดีเซเลนสกียังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับรายงานของซีเอ็นเอ็น ส่วนสำนักงานของนางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ก็ไม่ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่อย่างใด ทำเนียบประธานาธิบดียูเครนเผยเมื่อวันอังคารว่า ประธานาธิบดีเซเลนสกีได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกองทหารที่เมืองบัคมุต ซึ่งเป็นสมรภูมิรบด่านหน้าในแคว้นโดเนตสก์ ทางตะวันออกของยูเครน ขณะที่ผู้นำยูเครนแถลงเมื่อคืนของวันเดียวกันโดยกล่าวถึงการลงพื้นที่ดังกล่าวว่าเป็นการไปตรวจเยี่ยม ‘ป้อมปราการบัคมุต’ (Fortress Bakhmut) ในแคว้นโดเนตสก์ ซึ่งรัสเซียประกาศผนวกเป็นส่วนหนึ่งของประเทศในเดือนกันยายนและถูกนานาชาติโจมตีว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย
75 ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ระบุว่าสถานการณ์ใน 4 แคว้นของยูเครนที่รัสเซียผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศอยู่ในขั้นยากลำบากอย่างยิ่ง
137 มอสโก 19 ธ.ค. – กระทรวงกลาโหมของรัสเซียระบุว่า รัสเซียกับจีนจะซ้อมรบทางทะเลร่วมกันในวันที่ 21-27 ธ.ค. ซึ่งเป็นการซ้อมรบที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีนับตั้งแต่ปี 2555 เพื่อรักษาความสงบสุขและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก กระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยวันนี้ว่า รัสเซียกับจีนจะซ้อมรบทางทะเลร่วมกันในวันที่ 21-27 ธ.ค. ซึ่งจะมีการยิงขีปนาวุธและปืนใหญ่ในทะเลจีนตะวันออก การซ้อมรบดังกล่าวมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสร้างความร่วมมือทางทะเลระหว่างรัสเซียกับจีนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น รวมถึงการรักษาความสงบสุขและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ทั้งยังระบุว่า รัสเซียจะส่งเรือรบ 4 ลำ ซึ่งรวมถึงเรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธ ‘วาร์ยัก’ (Varyag) เข้าร่วมการซ้อมรบ ส่วนจีนจะส่งเรือรบ 6 ลำ นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายจะส่งอากาศยานและเฮลิคอปเตอร์อีกหลายลำเข้าร่วมการซ้อมรบอีกด้วย ทั้งนี้ เรือรบของรัสเซียได้ออกเดินทางจากท่าเรือเมืองวลาดิวอสตอค ทางตะวันออกสุดของรัสเซีย ในวันนี้เพื่อเข้าร่วมการซ้อมรบทางทะเลที่มีกำหนดเปิดฉากขึ้นในวันพุธ สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า รัฐบาลรัสเซียพยายามหาทางยกระดับความสัมพันธ์ด้านการเมือง ความมั่นคง และเศรษฐกิจกับรัฐบาลจีนมากขึ้นนับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากบุกโจมตียูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ และมองประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เป็นพันธมิตรสำคัญในการเดินหน้าต่อต้านชาติตะวันตก ก่อนหน้านี้ รัสเซียกับจีนได้ลงนามในข้อตกลงความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ร่วมกันแบบไร้ขีดจำกัดเพียงไม่กี่วันก่อนที่รัสเซียเปิดฉากบุกโจมตียูเครนแต่หลังจากนั้นจีนก็ได้แสดงความรู้สึกวิตกกังวลต่อสถานการณ์ในยูเครนอยู่บ่อยครั้ง. -สำนักข่าวไทย
190 มอสโก 19 ธ.ค.- สื่อรัสเซียอ้างกระทรวงกลาโหมว่า กองกำลังรัสเซียจะซ้อมรบในเบลารุส ประเทศพันธมิตรรัสเซียที่มีพรมแดนติดกับทางเหนือของยูเครน สำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์รายงานว่า จะมีการประเมินศักยภาพและความพร้อมในการต่อสู้ของกองกำลังรัสเซียในขั้นสุดท้าย หลังจากที่ได้ดำเนินการซ้อมรบของกองพันปฏิบัติการทางยุทธวิธีแล้ว รายงานไม่ได้ระบุว่า กองกำลังรัสเซียจะซ้อมรบในเบลารุสเมื่อใด และจะซ้อมในพื้นที่ใดของเบลารุส สื่อรัสเซียรายงานข่าวนี้ ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียจะเดินทางไปกรุงมินส์ก เพื่อพบหารือกับประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโกของเบลารุส ผู้นำเบลารุสขึ้นครองอำนาจตั้งแต่ปี 2537 เป็นพันธมิตรที่ยาวนานของรัสเซีย และเมื่อเดือนตุลาคมเบลารุสได้ประกาศเรื่องตั้งกองกำลังในภูมิภาคร่วมกับรัสเซีย เปิดทางให้รัสเซียส่งทหารหลายพันนายไปประจำการในเบลารุส และจุดกระแสวิตกว่า ทหารเบลารุสอาจเข้าร่วมกับทหารรัสเซียในการโจมตียูเครน เพราะรัสเซียเคยใช้เบลารุสเป็นหนึ่งในฐานเปิดฉากบุกยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์.-สำนักข่าวไทย
113 เคียฟ 19 ธ.ค. – รัสเซียโจมตีโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในกรุงเคียฟของยูเครนและอาคารที่พักอาศัยที่ตั้งอยู่ในแคว้นเคียฟ จนเสียหายหนัก โดยที่ระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนสามารถยิงสกัดฝูงโดรนที่ถูกส่งมายังกรุงเคียฟได้ราว 15 ลำ นายวิตาลี คลิตช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ เผยผ่านเทเลแกรม แอปพลิเคชั่นสนทนาออนไลน์แบบเข้ารหัสว่า รัสเซียได้เปิดฉากยิงโจมตีโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในกรุงเคียฟ โดยที่ระบบป้องกันภัยทางอากาศสามารถยิงสกัดฝูงโดรนได้ราว 15 ลำจากทั้งหมดกว่า 20 ลำ ซึ่งเป็นโดรน ‘ชาเฮด’ ที่ผลิตโดยอิหร่าน จากข้อมูลเบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว แต่เขาได้ส่งเจ้าหน้าที่แพทย์ลงพื้นที่เกิดเหตุในเขตโซโลเมียนสกีและเชฟเชนกิฟสกีแล้ว ในขณะเดียวกัน นายโอเลกซี คูเลบา ผู้ว่าการแคว้นเคียฟ ซึ่งมีพื้นที่รอบนอกกรุงเคียฟและไม่รวมเมืองหลวงของยูเครน กล่าวว่า มีโครงสร้างพื้นฐานและอาคารที่พักอาศัยหลายแห่งได้รับความเสียหายจากฝูงโดรนที่รัสเซียส่งมาโจมตีในช่วงคืนที่ผ่านมา และมีผู้บาดเจ็บ 2 คน ทั้งยังระบุว่า รัสเซียยังคงก่อสงครามที่มุ่งโจมตีพลเรือนอย่างต่อเนื่อง แต่เชื่อว่ายูเครนจะเอาชนะและฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้ทั้งหมด สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างผู้เห็นเหตุการณ์ในกรุงเคียฟที่ระบุว่า เกิดเหตุไฟไหม้ในเมืองหลวงของยูเครนที่เป็นผลมาจากการโจมตีเขตเชฟเชนกิฟสกี ซึ่งตกเป็นเป้าโจมตีมาแล้วหลายครั้ง อีกทั้งยังได้ยินเสียงไซเรนเตือนภัยทางอากาศในกรุงเคียฟและพื้นที่โดยรอบเกือบตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ก่อนที่ทางการท้องถิ่นจะประกาศความปลอดภัยทางอากาศเมื่อเวลา 05.50 น. ของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 10.50 น. ของวันนี้ตามเวลาประเทศไทย. -สำนักข่าวไทย
112 กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ยอมรับรัสเซียใช้อาวุธที่มีความแม่นยำสูงโจมตีศูนย์อุตสาหกรรมด้านการทหารและศูนย์พลังงานของยูเครนได้รับความเสียหายหนัก
91 เคียฟ 18 ธ.ค.- ระบบทำความร้อนในกรุงเคียฟของยูเครนกลับมาทำงานตามปกติแล้ว หลังจากรัสเซียโจมตีเป้าหมายที่เป็นโครงสร้างสาธารณูปโภคของชาวยูเครนในช่วงที่อากาศหนาวเหน็บ นายวิตาลี คลิตช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟเผยผ่านแอปพลิเคชันสนทนาเทเลแกรมในวันนี้ว่า กรุงเคียฟกำลังฟื้นฟูบริการสาธารณูปโภคทั้งหมดหลังจากถูกยิงถล่มครั้งล่าสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบทำความร้อนที่ฟื้นฟูเต็มที่แล้ว เพราะแหล่งทำความร้อนทั้งหมดกลับมาทำงานตามปกติอีกครั้ง ทางการยูเครนเผยว่า รัสเซียได้ระดมยิงขีปนาวุธเข้ามามากกว่า 70 ลูกเมื่อวันศุกร์ หนักหน่วงที่สุดครั้งหนึ่งนับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากทำสงครามในยูเครนตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ทำให้ยูเครนต้องดับไฟฉุกเฉินทั้งประเทศ และทำให้บริการทำความร้อนและน้ำประปาใช้งานไม่ได้ กรุงเคียฟและหลายพื้นที่ทั่วยูเครนมีอุณหภูมิติดลบในเช้าวันนี้ คาดว่าอุณหภูมิในกรุงเคียฟจะลดลงแตะระดับติดลบ 6 องศาเซลเซียสในเย็นวันนี้ กรุงเคียฟมีประชากรประมาณ 3 ล้านคน มากที่สุดในยูเครน และมากเป็นอันดับ 7 ของยุโรป คน 1 ใน 3 ของเมืองยังไม่มีไฟฟ้าใช้เมื่อนับถึงช่วงค่ำวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทจ่ายไฟฟ้าในกรุงเคียฟยอมรับว่า สถานการณ์ยังวิกฤตอยู่ แต่สามารถจ่ายไฟเพิ่มมากขึ้นแล้ว.-สำนักข่าวไทย
