กทม.โชว์ศักยภาพเรือดับเพลิง ซ่อมแซมจากคดีทุจริต
กทม.โชว์ศักยภาพเรือดับเพลิงจากคดีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง 6,000 ล้านบาท หลังซ่อมแล้วศักยภาพใช้งานเกินร้อยละ 80
กทม.โชว์ศักยภาพเรือดับเพลิงจากคดีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง 6,000 ล้านบาท หลังซ่อมแล้วศักยภาพใช้งานเกินร้อยละ 80
ผู้ว่าฯ แปดริ้วลงพื้นที่แปลงยาวติดตามเหตุไฟไหม้โรงงานผลิตใยสังเคราะห์ รถน้ำระดมฉีดสกัดควบคุมไว้ได้ สาเหตุรอเจ้าหน้าที่กองวิทยาการตรวจพิสูจน์
เจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิง 5 คัน เข้าควบคุมสถานการณ์ หลังเกิดเพลิงไหม้บ้าน 2 ชั้น ตกแต่งหรูหรา ย่านถนนธนุชพงศ์ ตำบลหนองป่าครั่ง อำเภอเมืองเชียงใหม่ แต่กว่าจะเข้าไปถึงจุดเกิดเหตุต้องใช้เวลานานกว่าปกติ เพราะซอยคับแคบ
ไฟไหม้ชุมชนซาฮาดะห์ ภายในซอยกรุงเทพกรีฑา 26 แยก 1 เจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิง 10 คัน ฉีดน้ำสกัดใช้เวลากว่า 20 นาที เพลิงจึงสงบ เบื้องต้นเสียหาย 6 หลังคาเรือน
เพลิงไหม้โรงงานกระดาษ ยังคุมเพลิงไม่ได้ ผู้ว่าฯ สมุทรปราการ เตรียมประสานขอรถดับเพลิงจากปราจีนบุรี ล่าสุดมีรถดับเพลิงในพื้นที่กว่า 100 คัน ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงจุดดังกล่าว
พระนครศรีอยุธยา 12 เม.ย.- ปภ.อยุธยาเร่งดับเพลิงไหม้รุนแรงริมถนนสายบางปะอิน ใกล้ปั๊มน้ำมันและหอพัก พร้อมปิดเส้นทางชั่วคราวให้รถที่สัญจรช่วงสงกรานต์เลี่ยงใช้ทางอื่นก่อน ล่าสุดคุมได้เพียงวงจำกัด เมื่อเวลา 17.00 น. (12 เม.ย.) เครือข่ายแจ้งเหตุ ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานเหตุด่วนเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรงแหล่งรับซื้อขายไม้เก่าขนาดใหญ่ ริมถนนสาย 347 ปทุมธานี-บางปะหัน หลักกิโลเมตรที่ 19+800 เขตตำบลบางกระสั้น อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นเส้นทางขาขึ้นภาคเหนือ ก่อนขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา หรือสะพานเกาะเกิด โดยเพลิงโหมไหม้อย่างรวดเร็วท่ามกลางกลุ่มควันดำลอยหนาทึบ อีกทั้งสถานที่เกิดเหตุยังอยู่ใกล้ปั้มน้ำมัน ด้าน ร.ต.อ.กิตติธร ศัลยรื่น รอง สวป.สภ.บางปะอิน และนายประทีป บริบูรณ์รัตน์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระดมรถน้ำกว่า 10 คัน เร่งเข้าระงับเหตุ พร้อมปิดการจราจรชั่วคราว และประกาศให้รถยนต์ที่สัญจรในช่วงสงกรานต์ที่จะไปภาคเหนือให้เลี่ยงไปใช้ทางหลวงหมายเลข 9 หรือวงแหวนตะวันตก สามารถไปออกที่วงแหวนบางปะอิน และเข้าสู่ถนนสายเอเชีย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้ในวงกำจัดเมื่อเวลา 18.30 น. แต่ยังไม่ดับสนิท ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง หากเพลิงสงบแล้วเจ้าหน้าที่จะได้เข้าตรวจสอบหาสาเหตุให้ชัดเจน นายประทีป กล่าวว่า เมื่อเวลา […]
ลพบุรี 6 พ.ย.- จนท.ระดมรถน้ำกว่า 10 คัน ดับไฟไหม้บ้านเรือนรอยต่อลพบุรี-นครสวรรค์ ท่ามกลางลมพัดแรงลามวอด 5 หลัง รถอีกหลายคัน และบาดเจ็บ 2 ศูนย์วิทยุ สภ.โคกเจริญ จ.ลพบุรี ประสานดับเพลิงในพื้นที่เข้าช่วยเหลือหน่วยดับเพลิงของ อบต.ตะคร้อ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อ เพื่อเร่งระงับเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนในพื้นที่หมู่ 3 ต.ตะคร้อ ช่วงเช้าตรู่ (6 พ.ย.) โดยระดมรถน้ำกว่า 10 คัน เร่งฉีดสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลาม แต่เนื่องจากกระแสลมแรงและตัวบ้านเป็นไม้ ทำให้เพลิงไหม้เร็วมาก ในที่สุดสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้พบว่าบ้านเรือนเสียหายไปทั้งหมด 5 หลัง รวมทั้งรถยนต์ 1 คัน รถการเกษตร 4 คัน รถจักรยานยนต์ 5 คัน และมีผู้บาดเจ็บ 2 ราย เจ้าหน้าที่ช่วยนำส่งโรงพยาบาล ส่วนสาเหตุคาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กองวิทยาการจะเข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนประเมินความเสียหาย..-สำนักข่าวไทย
เหตุเพลิงไหม้ในบริษัทโลตัส แมทเทรส จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเครื่องนอน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ขณะนี้เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยยังระดมรถดับเพลิงกว่า 50 คัน ฉีดน้ำสกัดเปลวเพลิงที่ยังลุกไหม้
เทศบาลฯ บางคล้าระดมรถน้ำดับไฟไหม้โรงงานผลิตกรอบรูป ช่วงเที่ยงวันนี้ ล่าสุดสกัดได้แล้ว สาเหตุคาดถังดักฝุ่นช็อต
นครสวรรค์ 3 พ.ค.- นครสวรรค์อากาศร้อนระอุ เกิดไฟไหม้บ้านพักเก่าแก่ของ ผอ.สำนักพื้นที่บริหารที่ 12 หวิดลามทั้งหลัง เมื่อเวลา 11.30 น. (3 พ.ค.) ร.ต.ท.พนมศักดิ์ สุนทรา ร้อยเวร สภ.เมืองนครสวรรค์ ประสานรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุเพลิงไหม้บ้านพักเก่าแก่ในพื้นที่ตำบลโกสีย์ใต้ อำเภอเมือง ของนายวิทยา หงษ์เวียงจันทร์ อายุ 57 ปี ผู้อำนวยการสำนักพื้นที่บริหารที่12 (นครสวรรค์) โดยเพลิงเกิดขึ้นบริเวณห้องครัวด้านหลังและเริ่มลุกลามมายังตัวบ้าน ท่ามกลางอากาศร้อนระอุ เจ้าหน้าที่ได้ฉีดน้ำสกัดประมาณ 30 นาที เพลิงจึงสงบพบว่าบ้านเสียหายไปส่วนหนึ่ง เนื่องจากตัวบ้านเป็นไม้และปลูกสร้างมานาน ส่วนสาเหตุคาดว่ามาจากถังแก๊สอาจปิดไม่สนิท หรือไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจะเข้าตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนก่อนประเมินความเสียหาย.-สำนักข่าวไทย
อุบลราชธานี 3 พ.ค.- ระทึกกลางดึกซอยชุมชนเมืองอุบลฯ ไฟไหม้บ้านลุกลามไป 3 หลัง เสียหาย 5 ล้านบาท คาดสาเหตุไฟฟ้าลัดวงจร เมื่อเวลา 02.30 (3 พ.ค.) ร.ต.อ.รัตนชัย สิงห์ทอง พนักงาน (สอบสวน) สภ.เมืองอุบลราชธานี รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ในซอยชยางกูร 2 ถ.ชยางกูร ต.ในเมือง ซึ่งบ้านต้นเพลิงเป็นไม้เก่า ทำให้ลุกลามอย่างรวดเร็ว จึงประสานหน่วยดับเพลิงเทศบาลนครอุบลราชธานี องค์การบริหารส่วนจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด กองบิน 21 และพื้นที่ใกล้เคียงระดมรถน้ำ 15 คัน เข้าระงับเหตุพบว่าเพลิงเริ่มลุกลามมายังบ้านข้างเคียงอีก 2 หลัง ครึ่งตึกครึ่งไม้ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาฉีดน้ำกว่า 1 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบ เบื้องต้นบ้านเสียหายไป 3 หลัง รวมประมาณ 5 ล้านบาท ส่วนบ้านต้นเพลิงขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่บ้าน เจ้าหน้าที่สันนิษฐานอาจเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งชุดพิสูจน์หลักฐานภูธรจังหวัดจะเข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุให้ชัดเจนอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย
เทศบาลนครเชียงรายระดมรถดับเพลิงและรถน้ำฉีดพ่นละอองน้ำทั่วเมือง เพื่อชำระล้างหมอกควันและฝุ่นละอองจากควันไฟ