เงินเฟ้อศรีลังกา ลดเหลือต่ำสุดตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงิน

โคลัมโบ 1 ก.ย.-อัตราเงินเฟ้อของศรีลังกา ลดลงแตะระดับต่ำที่สุด นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินรุนแรงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนเมื่อปี 2565 ข้อมูลของทางการศรีลังการะบุว่า อัตราเงินเฟ้อในเดือนสิงหาคม 2566 อยู่ที่ร้อยละ 4.0 ลดลงจากร้อยละ 6.3 ในเดือนกรกฎาคม และลดลงจากที่เคยสูงสุดที่ร้อยละ 69.8 ในเดือนกันยายน 2565 ธนาคารกลางศรีลังกาคาดหมายว่า ตัวเลขเงินเฟ้อจะลดลงอย่างต่อเนื่องในระยะกลาง ศรีลังกาเผชิญภาวะขาดแคลนอาหาร ยา และเชื้อเพลิงนานหลายเดือน เนื่องจากขาดแคลนทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ ทำให้เกิดการประท้วงใหญ่ทั่วประเทศ นำมาซึ่งการขับไล่ประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา ศรีลังกาผิดนัดชำระหนี้ต่างประเทศ 46,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.64 ล้านล้านบาท) ในปี 2565 และได้รับความช่วยเหลือมูลค่า 2,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 101,761 ล้านบาท) เป็นเวลา 4 ปีจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ (IMF) ไอเอ็มเอฟเผยเมื่อไม่นานมานี้ว่า เศรษฐกิจศรีลังกามีสัญญาณเบื้องต้นว่าดีขึ้น แต่ยังคงต้องเดินหน้าปฏิรูปต่อไป รัฐบาลชุดใหม่ของประธานาธิบดีรานิล วิกรมสิงเหได้ขึ้นภาษีเป็น 2 เท่า ยกเลิกการอุดหนุนราคาพลังงานแล้วปรับราคาขึ้นอย่างมากเพื่อให้รัฐสามารถจัดเก็บรายได้มากขึ้น.-สำนักข่าวไทย

นิกเกอิของญี่ปุ่นทำสถิติสูงสุดในรอบ 33 ปี

โตเกียว 5 มิ.ย.- ดัชนีนิกเกอิของตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่นทะลุแนวต้านที่ 32,000 จุดในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ ทำสถิติสูงที่สุดในรอบ 33 ปี นักลงทุนซื้อขายกันคึกคักตามตลาดวอลล์สตรีทที่ปิดเพิ่มขึ้นหลังจากตัวเลขการจ้างงานเดือนพฤษภาคมออกมาน่าพอใจ ดัชนีนิกเกอิ 225 ปรับตัวขึ้น 521.60 จุด หรือร้อยละ 1.65 จากเมื่อวันศุกร์ไปเคลื่อนไหวที่ 32,045.83 จุด ส่วนดัชนีโทปิกซ์ปรับตัวขึ้น 29.18 จุด หรือร้อยละ 1.34 ไปเคลื่อนไหวที่ 2,211.88 จุด หุ้นในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ยกเว้นไฟฟ้าและก๊าซปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยสิ่งทอและเสื้อผ้า เครื่องจักร และเหมืองแร่ เว็บไซต์เกียวโดนิวส์รายงานว่า ระหว่างการซื้อขายมีช่วงหนึ่งที่ดัชนีนิกเกอิขึ้นไปทำสถิติสูงสุดนับจากวันที่ 23 กรกฎาคม 2533 บรรยากาศการซื้อขายคึกคักขึ้นเพราะได้อานิสงส์จากดัชนีดาวโจนส์ในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐที่ปิดเพิ่มขึ้นมากกว่า 700 จุดเมื่อวันศุกร์ มากที่สุดนับจากวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 หลังจากข้อมูลการจ้างงานในเดือนพฤษภาคมออกมาน่าพอใจและสหรัฐบรรลุข้อตกลงที่ทำให้สามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้ในที่สุด นอกจากนี้หุ้นในญี่ปุ่นยังได้รับอานิสงส์จากหุ้นน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น หลังจากซาอุดีอาระเบีย ผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลกประกาศเมื่อวันอาทิตย์ว่า จะลดกำลังผลิตน้ำมันลงวันละ 1 ล้านบาร์เรลในเดือนกรกฎาคม.-สำนักข่าวไทย

ส.ว. สหรัฐลงมติระงับการใช้เพดานหนี้

วอชิงตัน 2 มิ.ย.- สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) สหรัฐลงมติระงับการใช้เพดานหนี้เมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น ปิดฉากการเจรจานานหลายสัปดาห์เรื่องการขยายเพดานหนี้ ก่อนที่สหรัฐอาจต้องผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรกในอีก 4 วันตามการคาดหมายของกระทรวงการคลัง ร่างกฎหมายความรับผิดชอบทางการคลัง (Fiscal Responsibility Act) ที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครตและแกนนำพรรครีพับลิกันตกลงร่วมกัน ได้รับความเห็นชอบจาก ส.ว.ด้วยเสียงข้างมาก 63 ต่อ 36 เสียง หลังจากได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ด้วยคะแนน 314 ต่อ 117 เสียงเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่น และจะนำเสนอให้ประธานาธิบดีไบเดนลงนามบังคับใช้ต่อไป ส.ว.ทั้ง 2 พรรคใช้เวลาอภิปรายร่างกฎหมายที่มีทั้งหมด 99 หน้าอย่างเคร่งเครียดถึง 11 ชั่วโมง ส.ว.สายกลาโหมไม่พอใจที่มีการจำกัดเพดานงบกลาโหมปี 2567 ไว้ตามที่รัฐบาลเสนอไว้ที่ 886,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 30.62 ล้านล้านบาท) และขู่จะคว่ำร่างกฎหมายทั้งหมด จนกระทั่งมีการเสนอให้ออกร่างกฎหมายแยกต่างหากเรื่องการจัดสรรงบประมาณให้ยูเครนสู้รบกับรัสเซีย การส่งเสริมผลประโยชน์ด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐในตะวันออกกลางและในการรับมือกับจีนเรื่องไต้หวัน จึงเป็นอันยุติ รัฐบาลกลางสหรัฐใช้จ่ายเกินรายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี ทำให้ต้องกู้ยืมเงินผ่านการออกพันธบัตรรัฐบาล สมาชิกรัฐสภาจึงได้กำหนดเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางมาตั้งแต่เมื่อ 80 ปีก่อน […]

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติเพิ่มเพดานหนี้แล้ว

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติในวันพุธตามเวลาท้องถิ่นให้ความเห็นชอบการเพิ่มเพดานหนี้ ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะทำให้สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ที่จะส่งผลกระทบสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าสหรัฐขยายเพดานหนี้ไม่ทัน 5 มิ.ย.

วอชิงตัน 27 พ.ค.- สำนักข่าวเอเอฟพีวิเคราะห์สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น หากสหรัฐไม่สามารถขยายเพดานหนี้ได้ก่อนวันที่ 5 มิถุนายน ซึ่งเป็นเส้นตายใหม่ที่กระทรวงการคลังสหรัฐคาดการณ์ว่าจะทำให้สหรัฐผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรก เอเอฟพีมองว่า กระทรวงการคลังอาจเลือกชะลอการจ่ายเงินบางอย่างในโครงการสวัสดิการสังคม โครงการประกันสุขภาพทั้งเมดิแคร์ (Medicare) และเมดิเคด (Medicaid) ซึ่งมีผู้ได้รับประโยชน์หลายล้านคน หรืออาจเลือกงดจ่ายเงินบางส่วนอย่างถ้วนหน้า ซึ่งจะลดผลกระทบต่อผู้รับประโยชน์ข้างต้น แต่จะทำให้บริการภาครัฐได้รับผลกระทบมากขึ้น หากกระทรวงการคลังสามารถประคองไปได้จนถึงวันที่ 15 มิถุนายนโดยไม่มีการผิดนัดชำระหนี้ ก็อาจจะหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ในสัปดาห์ต่อ ๆ ไปได้ รัฐบาลกลางสหรัฐกู้ยืมจนถึงเพดานที่กำหนดไว้ที่กว่า 31 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 1,076 ล้านล้านบาท) เมื่อกลางเดือนมกราคม จากนั้นได้ใช้มาตรการทางบัญชีพิเศษเพื่อขยายอายุงบประมาณที่ได้รับอนุญาตให้ใช้จ่ายได้โดยไม่ได้ขยายเพดานการกู้ยืม แต่เมื่อถึงเส้นตายซึ่งคือวันที่ 5 มิถุนายนในปัจจุบัน รัฐบาลจะมีเงินใช้จ่ายจากภาษีที่เก็บได้เท่านั้น ศูนย์นโยบาย 2 พรรค (Bipartisan Policy Center) วิเคราะห์ว่า รัฐบาลจะเก็บภาษีรายได้บุคคลและนิติบุคคลรายไตรมาสได้ประมาณ 80,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.78 ล้านล้านบาท) โดยในระหว่างวันที่ 1-15 มิถุนายน กระทรวงการคลังจะขาดแคลนงบประมาณมากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ […]

“ไบเดน” มีหวังเรื่องขยายเพดานหนี้หลังคลังขยายเส้นตาย

วอชิงตัน 27 พ.ค.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐจากพรรคเดโมแครตและผู้เจรจาของพรรครีพับลิกันมีความคาดหวังในแง่ดีว่า จะสามารถบรรลุข้อตกลงขยายเพดานหนี้ หลังจากกระทรวงการคลังสหรัฐขยายเส้นตายที่รัฐบาลจะผิดนัดชำระหนี้จาก 1 มิถุนายน 2566 เป็น 5 มิถุนายน 2566 ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวกับสื่อเมื่อวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐว่า ทุกอย่างกำลังเป็นไปด้วยดี ขณะที่ ส.ส.แพทริค แมคเฮนรี ที่อยู่ในคณะเจรจาของนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรเผยว่า มีความหวัง แต่ยังมีความท้าทายสำคัญรออยู่ เนื่องจากพรรครีพับลิกันมีเงื่อนไขเรื่องภาษีและข้อตกลงที่ชัดเจน ทั้งคู่กล่าวเรื่องนี้หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังกล่าวว่า รัฐบาลจะไม่มีเงินชำระหนี้ภายในวันที่ 5 มิถุนายน จากเดิมที่เคยบอกว่าจะไม่มีเงินชำระหนี้ภายในวันที่ 1 มิถุนายนเป็นอย่างเร็วที่สุด คณะเจรจาของพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันเจรจากันมาหลายรอบเรื่องขยายเพดานหนี้ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,090 ล้านล้านบาท) ของรัฐบาลกลางออกไปเป็นเวลา 2 ปี ทั้ง 2 ฝ่ายได้ข้อตกลงคร่าว ๆ แล้วเรื่องจะตัดลดงบประมาณรายจ่ายปี 2567 อย่างไร แต่ยังตกลงกันไม่ได้เรื่องโครงการสวัสดิการสังคม รีพับลิกันต้องการให้คนวัยต่ำกว่า 56 ปีที่ไม่มีบุตรต้องแสดงหลักฐานว่ามีงานทำหรือกำลังหางานทำจึงจะได้เข้าโครงการประกันสุขภาพเมดิเคด (Medicaid) […]

เตือนสหรัฐจะถูกลดอันดับเครดิตหากขยายเพดานหนี้ไม่ได้

วอชิงตัน 25 พ.ค.- บริษัทจัดอันดับเครดิตฟิทช์ เรทติ้งส์ เตือนสหรัฐว่า อันดับเครดิตที่ดีเยี่ยมของสหรัฐอาจถูกลดลง หากไม่สามารถผ่าทางตันเรื่องการขยายเพดานหนี้ให้ได้ก่อนถึงเส้นตายวันที่ 1 มิถุนายน ฟิทช์คงอันดับเครดิตสหรัฐไว้ที่ทริปเปิ้ลเอ (AAA) เมื่อวันพุธตามเวลาสหรัฐ หมายถึงว่า มีความน่าเชื่อถือสูงที่สุดและมีความเสี่ยงต่ำที่สุด แต่มีสัญญาณการปรับอันดับเครดิตเป็นลบ (rating watch negative) เพื่อสะท้อนว่าการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นกำลังขัดขวางการหาทางออกในการขยายหรืองดการใช้เพดานหนี้ก่อนวันที่ 1 มิถุนายน ฟิทช์ยังคงหวังว่า จะมีทางออกก่อนถึงเส้นตาย แต่ก็เชื่อว่ามีโอกาสมากขึ้นที่จะไม่มีการขยายหรืองดการใช้เพดานหนี้ก่อนถึงเส้นตาย และจะทำให้รัฐบาลสหรัฐเริ่มผิดนัดชำระหนี้ โฆษกกระทรวงการคลังสหรัฐกล่าวว่า ควรถือว่าการเคลื่อนไหวของฟิทช์เป็นการเตือนว่า รัฐสภาควรรีบดำเนินการโดยทันทีเพื่อไม่ให้เศรษฐกิจต้องเผชิญกับวิกฤตที่ถูกสร้างขึ้นมา ขณะที่ทำเนียบขาวแถลงว่า เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งหลักฐานสนับสนุนว่า การผิดนัดชำระหนี้ไม่ใช่ทางเลือก และตอกย้ำให้รัฐสภาต้องเร่งผ่านข้อตกลงสองฝ่ายที่สมเหตุสมผล รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดนแถลงเมื่อวันพุธก่อนที่ฟิทช์จะจัดอันดับเครดิตในคืนวันเดียวกันว่า ยังเห็นลู่ทางที่จะบรรลุข้อตกลง นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐกล่าวในงานที่มีขึ้นในวันเดียวกันว่า ได้ยื่นขอเสนอเจรจาล่าสุดด้วยการเสนอให้คงงบประมาณรายจ่ายปี 2567 ให้เท่ากับปี 2566 ซึ่งจะช่วยลดการขาดดุลงบประมาณลงได้ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 34.73 ล้านล้านบาท) ขณะที่แหล่งข่าวเผยว่า ประธานาธิบดีไบเดนได้ยื่นข้อเสนอประนีประนอมในหลายประเด็น รวมถึงเรื่องคืนงบเยียวยาโควิด-19 แต่พรรครีพับลิกันยืนกรานไม่ยอมรับเรื่องที่รัฐบาลจะลดการขาดดุลงบประมาณด้วยการขึ้นภาษีชาวอเมริกันและบริษัทอเมริกันที่ร่ำรวย รีพับลิกันอ้างว่า ข้อเสนอของพรรคจะลดการขาดดุลงบประมาณลงได้ […]

ตลาดเอเชียพากันร่วงหลังเจรจาขยายเพดานหนี้สหรัฐชะงัก

ตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียพากันปิดลดลงในวันนี้ ตามตลาดวอลล์สตรีทในสหรัฐที่ปิดลดลงเมื่อวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลมากยิ่งขึ้นเรื่องการเจรจาขยายเพดานหนี้ที่ชะงักงัน และอาจทำให้สหรัฐผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรก

“ไบเดน” จะเจรจาขยายเพดานหนี้อีกครั้งในวันนี้

วอชิงตัน 22 พ.ค.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐจะเจรจากับนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งในบ่ายวันนี้ตามเวลาสหรัฐ เพื่อขยายเพดานหนี้ให้ได้ก่อนถึงเส้นตายที่รัฐบาลจะผิดนัดชำระหนี้ในวันที่ 1 มิถุนายนตามการคาดการณ์ของกระทรวงคลัง ประธานาธิบดีไบเดนได้ลดกำหนดการเยือนเอเชียหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศหรือจี 7 (G7) ที่ญี่ปุ่น และเดินทางกลับถึงกรุงวอชิงตันเมื่อค่ำวันอาทิตย์ เขาเผยกับสื่อว่าได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายแมคคาร์ธีขณะอยู่บนแอร์ฟอร์ซวันที่เป็นเครื่องบินประจำตำแหน่ง การสนทนาเป็นไปด้วยดีและจะพบหารือกันอีกครั้งในวันจันทร์ ด้านนายแมคคาร์ธีเผยว่า การสนทนาเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ อย่างไรก็ดี เขายืนยันในจุดยืนเดิมเรื่องรัฐบาลไม่สามารถเดินหน้าใช้จ่ายเงินทั้งที่ไม่มี แล้วปล่อยให้เป็นภาระของคนรุ่นหลัง ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีไบเดนแถลงข่าวก่อนเดินทางออกจากญี่ปุ่นว่า ข้อเรียกร้องล่าสุดของพรรครีพับลิกันที่ต้องการให้ลดงบประมาณรายจ่ายเป็นเงื่อนไขในการขยายเพดานหนี้รัฐบาลเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ เขาอาจจะใช้อำนาจของประธานาธิบดีขยายเพดานหนี้เองโดยไม่ต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา และทวีตย้ำว่าคัดค้านการลดงบประมาณรายจ่ายด้านสังคมและสุขภาพ ด้านนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐยืนยันในการให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี (NBC) เมื่อวันอาทิตย์ว่า วันที่ 1 มิถุนายนยังคงเป็นเส้นตายหลักที่รัฐบาลจะไม่มีเงินและผิดนัดชำระหนี้ หากไม่มีการขยายเพดานนี้จาก 31 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,069 ล้านล้านบาท) ในปัจจุบัน.-สำนักข่าวไทย

รีพับลิกันพักเจรจาขยายเพดานหนี้

วอชิงตัน 20 พ.ค.- สหรัฐมีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรกเพิ่มขึ้นอีก เมื่อคณะเจรจาของพรรครีพับลิกันพักการเจรจาขยายเพดานหนี้เมื่อวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐ นายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกันกล่าวว่า จำเป็นต้องพักการเจรจา เพราะไม่สามารถให้งบประมาณปีหน้ามีรายจ่ายเพิ่มเติมได้ ทั้งที่เขาเพิ่งแสดงความเห็นในแง่ดีเมื่อวันก่อนว่า จะสามารถนำร่างขยายเพดานหนี้เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาได้ภายในสัปดาห์หน้า แต่ต้องมีข้อตกลงในหลักการให้ได้ภายในวันอาทิตย์หรือวันจันทร์ เว็บไซต์ข่าวการเมืองพันช์โบลว์นิวส์ (Punchbowl News) รายงานว่า แกนนำในคณะเจรจาของพรรครีพับลิกันออกจากห้องเจรจาอย่างกะทันหันพร้อมกันกับ ส.ส.แมคคาร์ธี และไม่กลับเข้าไปอีก มีรายงานว่า ประเด็นหลักที่คณะเจรจาของพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตตกลงกันไม่ได้คือ การลดงบประมาณรายจ่ายปี 2567 ให้เหลือเท่ากับปี 2565 ตามความต้องการของกลุ่มฟรีดอม คอคัส (Freedom Caucus) ที่มีสมาชิกราว 1 ใน 5 ของพรรครีพับลิกัน พรรครีพับลิกันตั้งเงื่อนไขว่า จะสนับสนุนการขยายเพดานหนี้เพื่อไม่ให้รัฐบาลต้องผิดนัดชำระหนี้ ต่อเมื่อรัฐบาลลดงบประมาณรายจ่ายของหน่วยงานรัฐบาลกลางและโครงการต่าง ๆ ทั้งหมดลง 130,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.46 ล้านล้านบาท) เร่งเดินหน้าโครงการผลิตพลังงานในประเทศ ลดขั้นตอนการขออนุญาตวางท่อขนส่งน้ำมันและตั้งโรงกลั่นน้ำมัน และเรียกคืนงบเยียวยาโควิด-19 ที่ไม่ได้ใช้.-สำนักข่าวไทย

1 2
...