รอง ปธน.สหรัฐ-ผู้นำเกาหลีใต้ ประณามเกาหลีเหนือ

วอชิงตัน 29 ก.ย.- รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริสของสหรัฐและประธานาธิบดียุน ซอก-ยอลของเกาหลีใต้ประณามเกาหลีเหนือที่ขู่เรื่องนิวเคลียร์และทดสอบอาวุธเพิ่มขึ้น หลังจากเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธครั้งล่าสุดเมื่อวันพุธ รองประธานาธิบดีแฮร์ริสพบกับประธานาธิบดียุนทันทีที่เดินทางถึงกรุงโซลในช่วงเช้าวันนี้ ทำเนียบขาวของสหรัฐแถลงว่า รองประธานาธิบดีสหรัฐและประธานาธิบดีเกาหลีใต้ได้ประณามเกาหลีเหนือที่ใช้ถ้อยคำยั่วยุเรื่องนิวเคลียร์และทดสอบขีปนาวุธร่อน พร้อมกับย้ำเป้าหมายร่วมกันเรื่องทำให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดนิวเคลียร์อย่างสิ้นเชิง และได้หารือเรื่องการรับมือกับการยั่วยุที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น ความร่วมมือไตรภาคีกับญี่ปุ่น รองประธานาธิบดีแฮร์ริสยังได้ย้ำเรื่องสหรัฐมีพันธกิจที่จะป้องปรามรัฐอื่นที่จะคุกคามพันธมิตรในเอเชียอย่างเกาหลีใต้ ด้วยการใช้ศักยภาพด้านกลาโหมที่มีอยู่อย่างเต็มพิกัด พร้อมกับใช้โอกาสนี้หารือหนทางแก้ไขความกังวลของเกาหลีใต้ที่เกรงว่า ผู้ผลิตยานยนต์ของเกาหลีใต้จะได้รับผลกระทบจากการที่สหรัฐผ่านร่างกฎหมายลดอัตราเงินเฟ้อที่มีการแก้ไขระเบียบการอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้า ด้านสำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้รายงานอ้างรองโฆษกทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ว่า รองประธานาธิบดีแฮร์ริสพบหารือกับประธานาธิบดียุนที่ทำเนียบประธานาธิบดีเป็นเวลา 85 นาที และเห็นพ้องกันเรื่องกำหนดการที่ประธานาธิบดียุนจะไปเยือนสหรัฐในปี 2566 เพื่อฉลองความเป็นพันธมิตรครบ 70 ปี ส่วนเรื่องที่เกิดประเด็นขึ้นหลังจากประธานาธิบดียุนพบกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐที่นครนิวยอร์กเมื่อสัปดาห์ก่อน รองประธานาธิบดีแฮร์ริสเผยว่า สหรัฐไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย โฆษกไม่ได้ระบุในรายละเอียด แต่ยอนฮับชี้ว่า น่าจะเป็นเรื่องที่ผู้นำเกาหลีใต้หลุดใช้คำหยาบโดยไม่รู้ตัวว่าไมโครโฟนเปิดอยู่ และมีข่าวในตอนแรกว่าเขาพูดถึงประธานาธิบดีและรัฐสภาสหรัฐ.-สำนักข่าวไทย

คนสนิท “ปูติน” ขู่ใช้นิวเคลียร์กับยูเครน

มอสโก 26 ก.ย.- นายดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ขู่ใช้อาวุธนิวเคลียร์โจมตียูเครนว่า พันธมิตรทางทหารที่นำโดยสหรัฐจะไม่เข้ามาข้องเกี่ยวโดยตรงกับความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน เพราะกลัวหายนะนิวเคลียร์ นายเมดเวเดฟ วัย 57 ปี รองประธานสภาความมั่นคงรัสเซียโพสต์ในเทเลแกรมว่า รัสเซียมีสิทธิที่จะปกป้องตนเองด้วยอาวุธนิวเคลียร์หากถูกกดดันจนเลยขีดจำกัด เรื่องนี้ไม่ใช่การขู่ให้กลัว ขอให้ลองนึกภาพรัสเซียถูกบีบให้ต้องใช้อาวุธที่น่ากลัวที่สุดกับระบอบยูเครนที่ดำเนินการรุกรานขนานใหญ่ที่เป็นอันตรายต่อการดำรงอยู่ของรัสเซีย เขาเชื่อว่า องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต จะไม่เข้ามาแทรกแซงความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน แม้แต่ในกรณีดังกล่าว เพราะบรรดาผู้ปลุกปั่นยุยงในยุโรปและข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกไม่อยากตายเพราะหายนะนิวเคลียร์ นายเมดเวเดฟซึ่งเป็นคนสนิทของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ย้ำว่า ขอเตือนไปถึงคนหูหนวกที่ฟังแต่เสียงของตัวเองว่า รัสเซียมีสิทธิที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์หากจำเป็น โดยจะทำล่วงหน้าและเป็นไปตามนโยบายของประเทศอย่างเคร่งครัด ประธานาธิบดีปูตินประกาศระดมพลเมื่อวันพุธ ซึ่งเป็นครั้งแรกของประเทศนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 และสนับสนุนการลงประชามติขอรวมกับรัสเซียในดินแดนยูเครนที่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย พร้อมกับเตือนชาติตะวันตกว่า เขาไม่ได้ขู่ให้กลัวเมื่อพูดว่าพร้อมจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ปกป้องรัสเซีย ทั้งนี้รัสเซียมีหลักการเรื่องการใช้อาวุธนิวเคลียร์ว่า ประธานาธิบดีอาจใช้อาวุธนิวเคลียร์หากประเทศเผชิญภัยที่มีอยู่จริง รวมถึงภัยจากอาวุธทั่วไป ปัจจุบันหัวรบนิวเคลียร์ร้อยละ 90 ของทั้งโลกอยู่ในความครอบครองรัสเซียและสหรัฐ.-สำนักข่าวไทย

คะแนนนิยมผู้นำเกาหลีใต้ร่วง หลังหลุดใช้คำหยาบที่สหรัฐ

โซล 26 ก.ย.- ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอลของเกาหลีใต้มีคะแนนนิยมลดลงเล็กน้อยในข่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากมีการเผยแพร่ภาพเขาหลุดใช้คำหยาบขณะอยู่ในนครนิวยอร์กของสหรัฐเพื่อร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) เว็บไซต์สำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้รายงานว่า เรียลมิเตอร์ซึ่งเป็นสำนักสำรวจในเกาหลีใต้ได้สอบถามผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 2,533 คนระหว่างวันจันทร์ถึงวันศุกร์ที่แล้วพบว่า คะแนนนิยมของประธานาธิบดียุนลดลงจากร้อยละ 36.4 เมื่อวันอังคารเหลือร้อยละ 32.8 เมื่อวันศุกร์ คาดว่าอาจเป็นผลจากเสียงวิจารณ์เรื่องเขาหลุดใช้คำหยาบขณะพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับคนสนิทเมื่อวันพุธโดยลืมปิดไมโครโฟน สถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งได้ซ้อนตัวอักษรแสดงคำพูดของเขา เนื่องจากภาพที่บันทึกไว้ได้ยินเสียงไม่ชัดเพราะมีเสียงรบกวน ผู้ชมหลายคนคิดว่าเขาใช้คำหยาบพูดถึงประธานาธิบดีโจ ไบเดนและรัฐสภาสหรัฐ ด้านรอยเตอร์รายงานว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อผู้นำเกาหลีใต้เผลอสบถขณะลืมปิดไมโครโฟน ขณะเดินออกจากงานแห่งหนึ่งในนครนิวยอร์กหลังจากสนทนากับผู้นำสหรัฐเป็นเวลาสั้น ๆ สถานีโทรทัศน์ในเกาหลีใต้แพร่ภาพคลิปขณะเขาพูดกับนายปัก จิน รัฐมนตรีต่างประเทศ โดยรายงานว่าเขาพูดว่า ไบเดนจะต้องอับอาย หากรัฐสภาสหรัฐไม่ผ่านความเห็นชอบร่างกฎหมายเกี่ยวกับกองทุนโลกของยูเอ็น คลิปดังกล่าวถูกส่งต่อในสื่อสังคมออนไลน์อย่างรวดเร็ว ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้แถลงปฏิเสธว่า ประธานาธิบดียุนไม่ได้พูดถึงไบเดนหรือรัฐสภาสหรัฐ แต่พูดว่าตนเองจะอับอายหากสภานิติบัญญัติแห่งชาติของเกาหลีใต้ที่มีฝ่ายค้านครองเสียงข้างมากไม่ยอมผ่านความเห็นชอบเงิน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,780 ล้านบาท) ที่เขารับปากว่าจะบริจาคให้กองทุนโลกของยูเอ็น ขณะที่ประธานาธิบดียุนตอบข้อถามสื่อในวันนี้ว่า ข่าวเรื่องคำพูดหลุดของเขาจะเป็นอันตรายต่อความสัมพันธ์กับสหรัฐไม่ใช่เรื่องจริง และข่าวที่ไม่ใช่เรื่องจริงจะทำให้ประชาชนเสี่ยงอันตราย.-สำนักข่าวไทย

“ไบเดน” และภริยาถึงมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์แล้ว

ลอนดอน 19 ก.ย.- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐและนางจิล ไบเดน ภริยาเดินทางถึงมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์แล้ว เพื่อร่วมพระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ของอังกฤษ ประธานาธิบดีไบเดนและภริยาเดินทางถึงอังกฤษตั้งแต่วันเสาร์ และเดินทางถึงมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์เมื่อเวลา 10:00 น.วันนี้ตามเวลาอังกฤษ ตรงกับเวลา 16:00 น.วันนี้ตามเวลาไทย ทั้งคู่เคยเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่พระราชวังวินด์เซอร์เมื่อเดือนมิถุนายน 2564 หลังจากไบเดนเสร็จสิ้นการประชุมผู้นำกลุ่มชาติอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศหรือจี 7 (G7) ที่เทศมณฑลคอร์นวอลล์ของอังกฤษ ครั้งนั้นพระองค์พระราชทานเลี้ยงพระสุธารสชาแก่ไบเดนและภริยา สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงพบกับประธานาธิบดีสหรัฐ 13 คน จากทั้งหมด 14 คนที่อยู่ในตำแหน่งในช่วงพระชนม์ชีพของพระองค์ คนที่ไม่ได้พบพระองค์คือ ประธานาธิบดีลินดอน บี จอห์นสัน และคนแรกที่ได้พบพระองค์คือ แฮร์รี เอส ทรูแมน เมื่อครั้งที่ยังทรงเป็นเจ้าหญิงเอลิซาเบธในปี พ.ศ.2494.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำเกาหลีใต้จะเข้าร่วมพระราชพิธีพระบรมศพควีนเอลิซาเบธ

ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ของเกาหลีใต้ มีแผนการจะเดินทางไปเข้าร่วมพระราชพิธีพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่กำหนดจัดขึ้นที่กรุงลอนดอนของอังกฤษในสัปดาห์หน้า

ผู้นำฟิลิปปินส์เยือนอินโดนีเซียเป็นประเทศแรก

จาการ์ตา 5 ก.ย.- ประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส จูเนียร์ ของฟิลิปปินส์ พบกับประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซีย ในวันนี้ เป็นการเยือนในฐานะประมุขของรัฐเป็นครั้งแรก และเป็นการเยือนประเทศแรกตั้งแต่รับตำแหน่งเมื่อสิ้นเดือนมิถุนายน ประธานาธิบดีมาร์กอสแถลงข่าวที่ทำเนียบประธานาธิบดีอินโดนีเซียพร้อมกับประธานาธิบดีวิโดโดว่า ทั้ง 2 ประเทศมุ่งมั่นที่จะรักษาเสถียรภาพภูมิภาคผ่านสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน โดยได้ใช้เวลาพูดคุยกันค่อนข้างมากเรื่องบทบาทของอาเซียนในช่วงเวลาอ่อนไหวทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งไม่เฉพาะในภูมิภาคเท่านั้นแต่ยังรวมถึงทั้งโลกด้วย และเห็นตรงกันว่าอาเซียนควรเป็นแกนนำในการเปลี่ยนแปลงที่ต้องการให้เกิดขึ้นเพื่อให้บังเกิดสันติภาพ ด้านประธานาธิบดีวิโดโดกล่าวว่า เขาและผู้นำฟิลิปปินส์ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านกลาโหมและความมั่นคง แผนปฏิบัติการทางการทูตระยะ 5 ปี และเห็นพ้องเรื่องเร่งรัดและทบทวนข้อตกลงพรมแดนทางทะเล พร้อมกับถือโอกาสนี้เรียกร้องให้ทั้ง 2 ประเทศเดินหน้ายกระดับการค้าบริเวณพรมแดนและฟื้นฟูเส้นทางขนส่งระหว่างกัน หลังจากมูลค่าการค้าปีนี้เพิ่มขึ้นเกือบครึ่งหนึ่งจากปีก่อน.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำเกาหลีใต้จะป้องกันการเกิดวิกฤตการเงินรอบใหม่

โซล 24 ส.ค.- ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ของเกาหลีใต้ประกาศวันนี้ว่า รัฐบาลจะเตรียมการอย่างรอบคอบเพื่อป้องกันการเกิดวิกฤตการเงินรอบใหม่และจะหาทางแบ่งเบาภาระทางเศรษฐกิจของประชาชน ประธานาธิบดียุนกล่าวระหว่างเป็นประธานการประชุมการเงินระดับมหภาคกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลและผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจถึงเรื่องเงินวอนอ่อนค่าและการขาดดุลการค้าที่เพิ่มขึ้นว่า เมื่อเปรียบเทียบกับวิกฤตที่ผ่านมา เสถียรภาพการเงินภายนอกของเกาหลีใต้ถือว่าดีขึ้นมาก แต่ก็ยังต้องป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตการเงินรอบสอง และนับตั้งแต่รัฐบาลเปลี่ยนมาใช้นโยบายเศรษฐกิจฉุกเฉินตั้งแต่เดือนมิถุนายน เขาได้เป็นประธานการประชุมเศรษฐกิจฉุกเฉินและความเป็นอยู่ของประชาชนทุกสัปดาห์ เพื่อพิจารณาประเด็นความเป็นอยู่ของประชาชนทีละเรื่องอย่างระมัดระวัง เขาจะตรวจสอบและรับมืออย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตอีกครั้งในตลาดการเงินและตลาดปริวรรตเงินตรา และป้องกันไม่ให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ยากลำบากมากยิ่งขึ้นไปอีก ผู้นำเกาหลีใต้ระบุด้วยว่า แม้ราคาน้ำมันและธัญพืชโลกเริ่มทรงตัวแล้ว แต่เกาหลีใต้ยังคงเผชิญกับความเสี่ยงเงินเฟ้อจากการที่รัสเซียลดการส่งออกก๊าซให้ยุโรป นอกจากนี้การที่เศรษฐกิจขนาดใหญ่พากันขึ้นดอกเบี้ย และสถานการณ์รอบตัวยังไม่แน่นอน ทำให้ตลาดเงินมีความผันผวนมากยิ่งขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงที่เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว.-สำนักข่าวไทย

“เฟาชี” หมอโควิดอเมริกันจะลาออกสิ้นปีนี้

วอชิงตัน 23 ส.ค.- นพ. แอนโธนี เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อที่เป็นหัวหน้าคณะรับมือกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของสหรัฐประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า จะลาออกจากการทำงานในหน่วยงานรัฐบาลในสิ้นปีนี้ หลังจากทำมานานกว่า 50 ปี นพ.เฟาชี ซึ่งจะมีอายุครบ 82 ปี ในเดือนธันวาคม ทำงานในรัฐบาลประธานาธิบดีสหรัฐมาแล้ว 7 คนตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติมาตั้งแต่ปี 2527 และรับตำแหน่งแพทย์ใหญ่ที่ปรึกษาประธานาธิบดีตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 เขาออกแถลงการณ์ว่า จะลาออกจากทั้งสองตำแหน่งในเดือนธันวาคมนี้ แต่ยังไม่เกษียณตัวเอง เพราะจะทำงานในวิชาอาชีพของตัวเองต่อไป ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน แถลงขอบคุณ นพ.เฟาชีจากใจจริง เพราะเป็นผู้ที่ช่วยให้สหรัฐแข็งแรงขึ้น มีความยืดหยุ่นมากขึ้น และมีสุขภาพที่ดีขึ้น นพ.เฟาชีเป็นคนตรงไปตรงมา จึงมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ เขาเคยขัดแย้งกับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรื่องการรับมือโควิด และเป็นที่เกลียดชังของกลุ่มฝ่ายขวาที่ต่อต้านการใช้มาตรการป้องกันโควิด ถึงขั้นถูกข่มขู่คุกคามทั้งครอบครัว เขาเคยเป็นแกนนำวิจารณ์รัฐบาลสหรัฐเรื่องไม่หาทางหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเอชไอวีและโรคเอดส์ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1980 และสามารถทำให้รัฐบาลหันมาให้ความสนใจในเรื่องนี้.-สำนักข่าวไทย

ผู้ว่ารัฐอินดีแอนาของสหรัฐเข้าพบผู้นำไต้หวัน

ไทเป 22 ส.ค.- นายเอริก โฮลคัมบ์ ผู้ว่าการรัฐอินดีแอนาของสหรัฐเข้าพบประธานาธิบดีไช่ อิงเหวินของไต้หวันในวันนี้ นับเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนที่ 3 ของสหรัฐที่มาเยือนไต้หวันในเดือนนี้ ประธานาธิบดีไช่กล่าวกับนายโฮลคัมบ์ที่ทำเนียบประธานาธิบดีโดยมีการถ่ายทอดสดผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ของเธอว่า ไต้หวันเผชิญกับภัยคุกคามทางทหารจากจีนมาโดยตลอด ทั้งในและรอบช่องแคบไต้หวัน ดังนั้นในเวลาเช่นนี้พันธมิตรประชาธิปไตยจึงต้องยืนเคียงข้างกันและส่งเสริมความร่วมมือในทุกด้าน ผู้นำไต้หวันกล่าวถึงเรื่องที่นายโฮลคัมบ์จะพบกับตัวแทนบริษัทเซมิคอนดักเตอร์หรือชิปในไต้หวันด้วยว่า ความมั่นคงทางเศรษฐกิจเป็นเสาหลักของความมั่นคงระดับชาติและระดับภูมิภาค ไต้หวันพร้อมและสามารถเสริมสร้างความร่วมมือกับหุ้นส่วนประชาธิปไตยในการทำให้ห่วงโซ่อุปทานของชิปประชาธิปไตยมีความยั่งยืน ผู้ว่าการรัฐอินดีแอนาถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนที่ 3 ของสหรัฐที่มาเยือนไต้หวันในเดือนนี้ หลังจากนางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐนำคณะสมาชิกสภามาเยือนเมื่อต้นเดือน และทำให้จีนตอบโต้ด้วยการซ้อมรบรอบไต้หวันครั้งใหญ่ที่สุด จากนั้น ส.ว.เอ็ดเวิร์ด มาร์กี รัฐแมสซาชูเซตส์ นำคณะสมาชิกรัฐสภาสหรัฐมาเยือนช่วงกลางเดือน.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำเกาหลีใต้จะปรับสัมพันธ์ญี่ปุ่น-เสนอช่วยเกาหลีเหนือ

โซล 15 ส.ค.- ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอลของเกาหลีใต้รับปากจะปรับปรุงความสัมพันธ์กับญี่ปุ่น และเสนอให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจกับเกาหลีเหนือ หากเกาหลีเหนือเดินหน้าปลดนิวเคลียร์ ประธานาธิบดียุนปราศรัยที่สนามหญ้าหน้าทำเนียบประธานาธิบดี เนื่องในวันฉลองอิสรภาพ 15 สิงหาคม รำลึกถึงการพ้นจากการเป็นอาณานิคมญี่ปุ่นปี 2453-2488 เมื่อ 77 ปีก่อนว่า ในอดีตชาวเกาหลีต้องปลดโซ่ตรวนให้ตัวเองจากการถูกจักรวรรดินิยมญี่ปุ่นควบคุมทางการเมืองเพื่อให้มีอิสรภาพอีกครั้ง แต่ปัจจุบันญี่ปุ่นเป็นหุ้นส่วนของเกาหลีเพราะเผชิญภัยคุกคามร่วมกันที่ท้าทายเสรีภาพของพลเมืองโลก สองประเทศต้องมีส่วนร่วมสร้างสันติภาพและความรุ่งเรืองให้แก่ประชาคมโลกด้วยการทำงานร่วมกันทั้งด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง สังคม และวัฒนธรรมบนพื้นฐานของการให้เกียรติกัน เพราะเมื่อความสัมพันธ์เกาหลี-ญี่ปุ่นมุ่งหน้าไปสู่อนาคตร่วมกัน และจัดการภารกิจเรียบร้อยตามค่านิยมสากลร่วมกัน ก็จะช่วยให้แก้ไขปัญหาในอดีตที่ยังคั่งค้างระหว่างสองประเทศได้ เกาหลีและญี่ปุ่นจะต้องปรับปรุงความสัมพันธ์อย่างทันทีและเหมาะสมด้วยการยึดมั่นตามปฏิญญาร่วมคิม แด-จุงและโอบุชิปี 2541 ที่เสนอพิมพ์เขียวอนาคตที่ครอบคลุมให้แก่ความสัมพันธ์ของสองประเทศ ผู้นำเกาหลีใต้ยังได้ใช้โอกาสนี้เปิดเผยรายละเอียดแผนการปรับปรุงเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนเกาหลีเหนือ หากเกาหลีเหนือยุติการพัฒนาโครงการนิวเคลียร์และเดินหน้าเรื่องการปลดนิวเคลียร์อย่างแท้จริง โดยจะดำเนินโครงการอาหารขนาดใหญ่ ให้ความช่วยเหลือด้านการผลิตไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานในการจ่ายกระแสไฟฟ้า ปรับปรุงท่าเรือและท่าอากาศยานเพื่อส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางการเกษตร ปรับปรุงโรงพยาบาลและโครงสร้างพื้นฐานทางการแพทย์ ดำเนินโครงการการลงทุนระหว่างประเทศและการสนับสนุนทางการเงิน.-สำนักข่าวไทย

“โกตาบายา ราชปักษา” อดีต ปธน.ศรีลังกา เดินทางถึงไทย

นายโกตาบายา ราชปักษา อดีตประธานาธิบดีศรีลังกา ที่ลี้ภัยออกนอกประเทศ เดินทางถึงไทยเมื่อคืนที่ผ่านมา หวังหาที่พักพิงชั่วคราวในประเทศที่สองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังหลบหนีออกจากศรีลังกาเมื่อเดือนที่แล้ว ท่ามกลางการลุกฮือประท้วงของประชาชน

1 23 24 25 26 27 71
...