ปัดวิจารณ์ “ทักษิณ” หาเสียง อบจ.เชียงใหม่
ชี้ เป็นหน้าที่ของ กกต. ระบุ ไม่ได้กำชับเจ้าหน้าที่เป็นพิเศษในช่วงโค้งสุดท้าย
ชี้ เป็นหน้าที่ของ กกต. ระบุ ไม่ได้กำชับเจ้าหน้าที่เป็นพิเศษในช่วงโค้งสุดท้าย
กกต. พร้อมตรวจสอบ “ทักษิณ” ครอบงำเพื่อไทย ยังไม่ฟันธงผิด เพราะมีหลายองค์ประกอบต้องพิจารณา
กกต. 16 ธ.ค.- นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลืกตั้ง (กกต.) ขอให้ตรวจสอบกรณีนายทักษิณ ชินวัตร ทวิตเตอร์ข้อความว่า เป็นผู้ปูรากฐานให้กับพรรคไทยรักไทยจนมาถึงพรรคเพื่อไทย และแสดงความเห็นตำหนิบุคคลที่ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย รวมถึง การโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ขอให้คนเชียงใหม่สนับสนุนผู้สมัครนายก อบจ. ที่สังกัดพรรคเพื่อไทย ว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการควบคุม ครอบงำ ชี้นำการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคการเมืองขัดมาตรา 28 มาตรา 29 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง เป็นเหตุให้ กกต.เสนอศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคเพื่อไทย ตามมาตรา 92(3) และมาตรา 108 ของกฎหมายเดียวกันได้หรือไม่ “สังคมรู้เห็นกับการที่คุณทักษิณมีปฏิสัมพันธ์กับพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ถ้าคุณทักษิณมีเพียงจดหมายน้อยมาถึงพี่น้องชาวเชียงใหม่ ขอให้สนับสนุนสมาชิกพรรคคนหนึ่งของพรรคที่ไปลงสมัครนายก อบจ.เท่านั้น ก็คงไม่มีประเด็นปัญหาอะไร แต่นี่ยังมีองค์ประกอบอื่นที่เกี่ยวข้องที่ต้องดูประกอบกัน ไม่ว่าจะเป็นการทวิตข้อความต่างๆ ที่ต่อเนื่องมา ล่าสุดทวิตข้อความตัดพ้อเรื่องที่การสมาชิกพรรคมีการลาออกจากพรรคเพื่อไทย ที่ตัวเองเป็นคนวางรากฐานมาตั้งแต่เป็นพรรคไทยรักไทยจนถึงพรรคเพื่อไทย พฤติการณ์เหล่านี้เป็นหลักฐานยืนยันชัดเจน ถึงการมีปฏิสัมพันธ์กันอย่างแนบแน่นของคุณทักษิณกับพรรคเพื่อไทย ที่สำคัญเหตุที่เกิดขึ้นสะท้อนว่า คุณทักษิณมีอิทธิพลเหนือพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ซึ่งมองว่าเข้าข่ายเป็นความผิดที่ กกต.สามารถวินิจฉัยและมีมติยื่นศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคเพี่อไทยได้” นายศรีสุวรรณ .- สำนักข่าวไทย
“สมพงษ์” ลั่นเพื่อไทยเป็นอิสระเลือกตั้งนายก อบจ. พร้อมให้ตรวจสอบ ชี้จดหมายจาก “ทักษิณ” ถึงชาวเชียงใหม่ เป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่ผิดกฎหมาย
กรุงเทพฯ 15 ธ.ค. – นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว. เปิดเผยว่า ได้ติดตามการทำงานของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เกี่ยวกับคดีคืนพาสปอร์ตนายทักษิณ ชินวัตร มาเป็นเวลาพอสมควร เพื่อดูว่า ป.ป.ช. จะดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่กี่ยวข้องหรือไม่ หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม ป.อาญา มาตรา 157 ดังนั้น ความผิดของจำเลยย่อมผูกพันเกี่ยวข้องกับนายอิทธิพร บุญประคอง กับพวก ที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้เกี่ยวข้องในขณะเกิดเหตุคดีนี้ด้วย “เวลาล่วงเลยมานาน จน ป.ป.ช. ชุดเก่าพ้นหน้าที่ และ ป.ป.ช. ชุดใหม่เข้ามาแทน กลับไม่เห็น ป.ป.ช. ดำเนินการต่อ ประกอบกับปัจจุบันนายอิทธิพร เป็นประธาน กกต. ซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนดคุณสมบัติว่า ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ การที่ ป.ป.ช. เป็นผู้ไต่สวนมาโดยตลอด ประกอบกับตามคำพิพากษา ป.ป.ช. ต้องรู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่า นายอิทธิพร กับพวก อยู่ในกระบวนการด้วย ดังนั้น นายอิทธิพร […]
เพิกถอนคำสั่งไล่ออกจากราชการ “วิชัย จึงรักเกียรติ” เป็นปลดออกจากคดีโอนหุ้นชินคอร์ป
ระบุ ฟังไม่ได้ว่าเอื้อประโยชน์พวกพ้อง ขณะที่ การเสนอชื่อคนบริหารแผนฟื้นฟูกิจการ เจ้าหนี้ทุกฝ่ายยินยอม ถือว่าคดีนี้เป็นที่สิ้นสุดแล้ว
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองพิพากษายืนจำคุก 2 ปี “สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล” กรณีออกหนังสือเดินทางให้ “ทักษิณ” แต่ให้รอลงอาญา เนื่องจากมีความประพฤติดี ประกอบกับมีโรครุมเร้า และเพิ่มโทษปรับ 100,000 บาท
ขอให้ไปถามเจ้าตัวเอง
“พล.อ.ประวิตร” ย้ำไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร ยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ชี้เรื่องเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของ กกต. ส่วนคนที่อยู่ต่างประเทศ ไม่มีสิทธิกับการเลือกตั้งในไทย
เพื่อชาติ อาสาเป็นตัวกลาง ปลดล็อกความขัดแย้งให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้
พรรคเพื่อชาติ ย้ำเปิดทางทักษิณกลับประเทศเชื่อลดความบาดหมางทุกฝ่าย