
รำลึก 80 ปีปลดปล่อยค่ายกักกัน ‘เอาช์วิตซ์’ ในโปแลนด์
บรรดาผู้รอดชีวิตจากค่ายกักกันของกองทัพนาซีเยอรมัน หรือ ‘เอาช์วิตซ์’ ไปรวมตัวกันที่เมืองออสวีซิม ประเทศโปแลนด์ ที่ตั้งของค่ายกักกันเมื่อวานนี้ เพื่อรำลึกวาระครบรอบ 80 ปี
บรรดาผู้รอดชีวิตจากค่ายกักกันของกองทัพนาซีเยอรมัน หรือ ‘เอาช์วิตซ์’ ไปรวมตัวกันที่เมืองออสวีซิม ประเทศโปแลนด์ ที่ตั้งของค่ายกักกันเมื่อวานนี้ เพื่อรำลึกวาระครบรอบ 80 ปี
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เดินทางเยือนเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่จีนกวาดล้างกลุ่มต่อต้านที่รัฐบาลจีนถูกกล่าวหาว่า กักขังชาวมุสลิมอุยกูร์และมุสลิมอื่น ๆ ไว้มากกว่า 1 ล้านคนในค่ายกักกัน
กัวลาลัมเปอร์ 20 เม.ย. – เกิดเหตุชาวโรฮิงญา 6 รายถูกรถชนเสียชีวิตบนทางหลวงมาเลเซีย ในจำนวนนี้ มีเด็กรวมอยู่ 2 ราย หลังจากที่ชาวโรฮิงญาหลายร้อยคนได้หลบหนีออกจากศูนย์กักกันคนเข้าเมืองในรัฐปีนัง ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมาเลเซียที่เกิดเหตุจลาจลเมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของมาเลเซียระบุในแถลงการณ์ว่า มีชาวโรฮิงญาทั้งหมด 582 คนที่หลบหนีออกจากค่ายกักกันคนเข้าเมืองชั่วคราวในรัฐปีนังด้วยการพังประตูและทำลายรั้วตาข่าย ขณะนี้ทางการมาเลเซียสามารถจับกุมผู้หลบหนีกลับมาได้ 362 คนแล้ว ขณะที่ตำรวจมาเลเซียเผยว่า เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนหาสาเหตุของการก่อจลาจลเมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ และกำลังเร่งตามจับกุมชาวโรฮิงญาที่ยังคงหลบหนีอยู่ ด้านตำรวจของรัฐเกดะห์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมาเลเซีย รายงานว่า มีชาวโรฮิงญา 6 รายถูกรถชนเสียชีวิตในขณะที่ทั้งหมดกำลังข้ามถนนบนทางหลวงที่อยู่ห่างจากค่ายกักกันคนเข้าเมืองชั่วคราว 8 กิโลเมตร ในจำนวนนี้ มีชาวโรฮิงญาที่เป็นผู้ชาย 2 ราย ผู้หญิง 2 ราย เด็กชาย 1 ราย และเด็กหญิง 1 ราย ทั้งนี้ ค่ายกักกันดังกล่าวมีชาวโรฮิงญาอาศัยอยู่ทั้งหมด 664 คน ซึ่งรวมถึงเด็ก 137 คน สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า มาเลเซีย ซึ่งไม่ยอมรับสถานะผู้ลี้ภัยของชาวโรฮิงญา เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญที่ชาวโรฮิงญานิยมเดินทางไปเพื่อหลบหนีการถูกกดขี่ข่มเหงในเมียนมาหรือค่ายผู้ลี้ภัยในบังกลาเทศ […]
คาร์คิฟ 22 มี.ค.- ชายชาวยูเครนวัย 96 ปี ที่รอดชีวิตจากค่ายกักกันหลายแห่งในเหตุนาซีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือฮอโลคอสต์ เสียชีวิตแล้ว ขณะอยู่ในที่พักในเมืองคาร์คิฟของยูเครนที่ถูกกองกำลังรัสเซียยิงโจมตี มูลนิธิอนุสรณ์บูเคนวัลด์ประกาศว่า ขอแจ้งด้วยความน่าตกใจว่า นายบอริส โรมันเชนโก เสียชีวิตในสงครามยูเครนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากอาคารชุดที่เขาพักอาศัยอยู่ในเมืองคาร์คิฟ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของยูเครนถูกยิงโจมตีจนเสียหายและเกิดไฟไหม้ การเสียชีวิตที่น่ากลัวของเขาแสดงให้เห็นว่า สงครามยูเครนกำลังเป็นภัยต่อผู้รอดชีวิตจากค่ายกักกันเพียงใด มูลนิธิอนุสรณ์บูเคนวัลด์เผยประวัติของนายโรมันเชนโกว่า เกิดเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2469 ในเมืองบอนดารี ใกล้เมืองซูมีของยูเครน ถูกเนรเทศไปบังคับใช้แรงงานทำเหมืองในเมืองดอร์ทมุนด์ของเยอรมนีในปี 2485 เขาพยายามหลบหนีแต่ไม่สำเร็จ จึงถูกส่งตัวไปยังค่ายกักกันบูเคนวัลด์ในปีถัดมา เป็นค่ายที่มีคนถูกสังหารมากกว่า 53,000 คนในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อมาถูกส่งตัวไปบังคับใช้แรงงานในโครงการพัฒนาจรวดวี-2 ในเมืองเพเนมุนเดบนเกาะอูเซดอมในทะเลบอลติก ตามด้วยค่ายกักกันมิตเทลเบา-โดรา และค่ายกักกันแบร์เกิน-เบลเซิน ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนกล่าวเมื่อค่ำวันจันทร์ว่า นายโรมันเชนโกต้องผ่านความยากลำบากมากมายในค่ายกักกันช่วงฮอโลคอสต์ แต่กลับเสียชีวิตจากการโจมตีของรัสเซียที่ยิงถล่มอาคารที่พักอาศัยธรรมดา สงครามแต่ละวันที่ผ่านไปทำให้เห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่า คำว่า “ปลดนาซี” ที่รัสเซียยกขึ้นมาอ้างเพื่อรุกรานยูเครน แท้จริงแล้วมีหมายความอย่างไรต่อรัสเซีย ด้านกระทรวงกลาโหมยูเครนทวีตประณามประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียว่า ทำในสิ่งที่แม้แต่อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำนาซียังทำไม่ได้.-สำนักข่าวไทย
เจ้าหน้าที่จีนเปิดเผยวันนี้ว่า ประชาชนส่วนใหญ่ที่ถูกส่งไปยังค่ายกักกันหมู่ในเขตปกครองตนเองซินเจียง ได้กลับคืนส่งสังคมแล้ว แต่เขาไม่ได้เปิดเผยตัวเลข
นิตยสารไทม์ของสหรัฐอ้างร่างบันทึกว่า กองทัพเรือสหรัฐเตรียมเปิดค่ายใหม่ตามฐานทัพห่างไกลไว้กักกันผู้ลอบเข้าเมือง เพื่อสนับสนุนนโยบายไม่อดทนต่อการลอบเข้าเมือง
ศาลเริ่มอ่านคำพิพากษาจำเลย 103 คนคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา หลังอัยการทยอยสั่งฟ้องตั้งแต่ปี 2558
โป๊ปฟรานซิส ประมุขคริสต์จักรนิกายโรมันคาทอลิกทรงขอให้รัฐบาลประเทศต่าง ๆ นำผู้อพยพและผู้เข้าเมืองออกจากค่ายที่พัก เนื่องจากหลายแห่งมีสภาพไม่ต่างจากค่ายกักกัน
หลายเมืองในออสเตรเลียชุมนุมประท้วงคำสั่งห้ามคนเข้าเมืองของผู้นำสหรัฐและเรียกร้องให้รัฐบาลออสเตรเลียปิดค่ายกักกันผู้ขอลี้ภัยในมหาสมุทรแปซิฟิก