กัวลาลัมเปอร์ 20 เม.ย. – เกิดเหตุชาวโรฮิงญา 6 รายถูกรถชนเสียชีวิตบนทางหลวงมาเลเซีย ในจำนวนนี้ มีเด็กรวมอยู่ 2 ราย หลังจากที่ชาวโรฮิงญาหลายร้อยคนได้หลบหนีออกจากศูนย์กักกันคนเข้าเมืองในรัฐปีนัง ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมาเลเซียที่เกิดเหตุจลาจลเมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของมาเลเซียระบุในแถลงการณ์ว่า มีชาวโรฮิงญาทั้งหมด 582 คนที่หลบหนีออกจากค่ายกักกันคนเข้าเมืองชั่วคราวในรัฐปีนังด้วยการพังประตูและทำลายรั้วตาข่าย ขณะนี้ทางการมาเลเซียสามารถจับกุมผู้หลบหนีกลับมาได้ 362 คนแล้ว ขณะที่ตำรวจมาเลเซียเผยว่า เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนหาสาเหตุของการก่อจลาจลเมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ และกำลังเร่งตามจับกุมชาวโรฮิงญาที่ยังคงหลบหนีอยู่ ด้านตำรวจของรัฐเกดะห์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมาเลเซีย รายงานว่า มีชาวโรฮิงญา 6 รายถูกรถชนเสียชีวิตในขณะที่ทั้งหมดกำลังข้ามถนนบนทางหลวงที่อยู่ห่างจากค่ายกักกันคนเข้าเมืองชั่วคราว 8 กิโลเมตร ในจำนวนนี้ มีชาวโรฮิงญาที่เป็นผู้ชาย 2 ราย ผู้หญิง 2 ราย เด็กชาย 1 ราย และเด็กหญิง 1 ราย ทั้งนี้ ค่ายกักกันดังกล่าวมีชาวโรฮิงญาอาศัยอยู่ทั้งหมด 664 คน ซึ่งรวมถึงเด็ก 137 คน
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า มาเลเซีย ซึ่งไม่ยอมรับสถานะผู้ลี้ภัยของชาวโรฮิงญา เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญที่ชาวโรฮิงญานิยมเดินทางไปเพื่อหลบหนีการถูกกดขี่ข่มเหงในเมียนมาหรือค่ายผู้ลี้ภัยในบังกลาเทศ อย่างไรก็ดี นับตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ทางการมาเลเซียได้ย้ายชาวโรฮิงญาหลายพันคนให้มาอาศัยอยู่รวมกันในศูนย์กักกันคนเข้าเมืองดังกล่าวที่มีสภาพแออัด โดยระบุว่าแนวทางนี้มีขึ้นเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19. -สำนักข่าวไทย