ไบแดนซ์

เครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน 26 ม.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐได้พูดคุยกับหลายคนที่ต้องการซื้อกิจการของติ๊กต็อก (TikTok) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นยอดนิยมที่ถูกบังคับให้ขายกิจการให้แก่บริษัทในสหรัฐ ประธานาธิบดีทรัมป์ตอบข้อถามสื่อมวลชนบนแอร์ฟอร์ซวันที่เป็นเครื่องบินประจำตำแหน่งระหว่างเดินทางไปยังรัฐฟลอริดาเมื่อวันเสาร์ว่า เขาได้คุยกับหลายคนเรื่องติ๊กต็อกและมีคนสนใจเป็นอย่างมาก แต่ไม่ได้พูดคุยกับนายแลร์รี เอลลิสัน วัย 80 ปี ผู้ร่วมก่อตั้งออราเคิล (Oracle) บริษัทซอฟต์แวร์รายใหญ่ของสหรัฐ เขาคาดว่าจะตัดสินใจเรื่องนี้ได้ภายใน 30 วัน แม้ว่ารัฐสภาให้เวลามากถึง 90 วันก็ตาม หากสามารถช่วยให้ติ๊กต็อกให้บริการในสหรัฐได้ต่อไปก็จะเป็นเรื่องดี ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันรอยเตอร์รายงานอ้างแหล่งข่าว 2 คนว่า รัฐบาลทรัมป์กำลังหาทางช่วยติ๊กต็อกด้วยการเชื้อเชิญออราเคิลและกลุ่มนักลงทุนภายนอกให้เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ โดยที่ยังให้ไบแดนซ์ (ByteDance) บริษัทจีนที่เป็นบริษัทแม่ของติ๊กต็อกมีหุ้นเหลืออยู่บางส่วน แต่จะให้ออราเคิลซึ่งดูแลเว็บไซต์ของติ๊กต็อกอยู่แล้ว ดูแลเรื่องการรวบรวมข้อมูลและอัปเดตซอฟต์แวร์ ติ๊กต็อกซึ่งมีคนใช้งานในสหรัฐประมาณ 170 ล้านคน ได้ระงับการให้บริการในสหรัฐเมื่อวันที่ 18 มกราคม หนึ่งวันก่อนคำสั่งห้ามใช้งานหรือแบนต๊กต็อกมีผลบังคับใช้ ตามที่กฎหมายสมัยรัฐบาลโจ ไบเดนกำหนดให้ต้องขายกิจการให้แก่บริษัทในสหรัฐภายในวันที่ 19 มกราคม อย่างไรก็ดี ติ๊กต็อกได้กลับมาให้บริการในวันรุ่งขึ้น และนายทรัมป์ได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารในวันที่รับตำแหน่ง 20 มกราคมให้ชะลอการบังคับใช้กฎหมายออกไป 75 วัน.-814.-สำนักข่าวไทย

วอชิงตัน 21 ม.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารในวันแรกที่รับตำแหน่ง ให้ชะลอการบังคับใช้กฎหมายห้ามหรือแบนติ๊กต็อก (TikTok) ออกไปอีก 75 วัน จากเดิมที่ต้องถูกปิดการให้บริการในสหรัฐตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม ติ๊กต็อกเป็นแอปพลิเคชันวิดีโอสั้นยอดนิยมที่มีผู้ใช้งานในสหรัฐมากถึง 170 ล้านคน และได้งดการให้บริการชั่วขณะเมื่อวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ ก่อนถึงเส้นตายที่ไบแดนซ์ (ByteDance) บริษัทแม่ที่เป็นบริษัทจีนต้องจำหน่ายติ๊กต็อกให้แก่ธุรกิจสหรัฐภายในวันอาทิตย์ ตามที่ทางการสหรัฐอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติว่า การที่ติ๊กต็อกเป็นของบริษัทจีนทำให้ข้อมูลของชาวอเมริกันเสี่ยงถูกนำไปใช้โดยมิชอบ ต่อมาติ๊กต็อกได้กลับมาให้บริการอีกครั้งในวันอาทิตย์ โดยได้ขอบคุณนายทรัมป์ที่ให้ความมั่นใจว่า ติ๊กต็อกและหุ้นส่วนทางธุรกิจจะไม่ถูกปรับสถานหนักหากติ๊กต็อกยังคงให้บริการในสหรัฐต่อไป ขณะนี้แอปพลิเคชันและเว็บไซต์ติ๊กต็อกใช้งานได้แล้ว แต่ยังไม่สามารถดาวน์โหลดจากแอปสโตร์ของแอปเปิลและกูเกิล คาดว่าทั้ง 2 บริษัทนี้กำลังรอการรับประกันทางกฎหมายที่ชัดเจน.-814.-สำนักข่าวไทย  

นิวยอร์ก 18 ม.ค.- ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอแพลตฟอร์มติ๊กต็อก (TikTok) ขอบคุณนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีของสหรัฐที่สนับสนุนความพยายามของบริษัทที่ต้องการให้บริการในสหรัฐต่อไป ทั้งนี้หลังจากที่ศาลฎีกาสหรัฐมีคำตัดสินเมื่อวานนี้ วินิจฉัยยืนตามกฎหมายห้ามการใช้งานติ๊กต็อกในสหรัฐตั้งแต่วันที่ 19 มกราคมที่จะถึงนี้ นายโจว โซ่วจือ  ซีอีโอติ๊กต็อกได้ โพสต์คลิปลงติ๊กต็อกในวันเดียวกันว่า อยากขอบคุณนายทรัมป์ที่ต้องการทำงานร่วมกับติ๊กต็อกเพื่อหาทางออกให้ติ๊กต็อกสามารถให้บริการในสหรัฐได้ต่อไป ถือเป็นการแสดงจุดยืนมั่นคงที่สนับสนุนบทบัญญัติการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ 1 (First Amendment) และต่อต้านการตรวจสอบตามอำเภอใจ นายโจวกล่าวว่า ติ๊กต็อกเป็นสถานที่ที่ผู้คนสามารถสร้างชุมชนของตนเอง ค้นพบความสนใจใหม่ ๆ และแสดงความเป็นตัวเองออกมา ธุรกิจอเมริกันมากกว่า 7 ล้านรายมีรายได้และมีลูกค้าใหม่ ๆ จากการใช้แพลตฟอร์มนี้ ขณะที่นายทรัมป์ใช้ติ๊กต็อกสื่อสารความคิดและมุมมองกับผู้คนทั่วโลก มีคนรับชมเนื้อหาของนายทรัมป์มากกว่า 60,000 ล้านครั้ง ซีอีโอติ๊กต็อกรับปากในตอนท้ายของคลิปว่า ขอให้ผู้ใช้งานวางใจได้ ติ๊กต็อกจะทำทุกอย่างที่สามารถทำได้เพื่อสร้างหลักประกันว่า แพลตฟอร์มนี้จะเติบโตในฐานะสื่อออนไลน์ประจำบ้านเพื่อความคิดสร้างสรรค์และการค้นพบที่ไร้ขีดจำกัด และในฐานะแหล่งสร้างแรงบันดาลใจและความสนุกในอีกหลายปีข้างหน้า ก่อนหน้านี้นายทรัมป์กล่าวในวันเดียวกันว่า การตัดสินใจเรื่องอนาคตของติ๊กต็อกขึ้นอยู่กับเขา แต่ไม่เปิดเผยรายละเอียดว่าจะดำเนินการอย่างไร สื่อรายงานว่า ทรัมป์กำลังพิจารณาออกคำสั่งฝ่ายบริหารที่จะระงับการบังคับใช้กฏหมายออกไปอีก 60-90วัน รัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดนได้ออกกฎหมายฉบับนี้เมื่อเดือนเมษายน 2567 ให้แบนการใช้งานติ๊กต็อกในสหรัฐ หากบริษัทแม่อย่างไบต์แดนซ์ (Bydance) ไม่ขายแพลตฟอร์มนี้ให้แก่ธุรกิจในสหรัฐ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

วอชิงตัน 14 มี.ค.- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ของสหรัฐผ่านความเห็นชอบด้วยคะแนนล้นหลามต่อร่างกฎหมายที่จะบังคับให้ไบแดนซ์ (ByteDance) ขายแอปพลิเคชันติ๊กต็อก (TikTok) ในสหรัฐภายใน 6 เดือน ไม่เช่นนั้นจะถูกห้ามใช้งาน ร่างกฎหมายนี้ผ่านความเห็นชอบจาก สส.ด้วยคะแนน 352 ต่อ 65 แต่อาจไม่ผ่านความเห็นชอบจากสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่สนับสนุนการใช้แนวทางที่ต่างออกไปในการควบคุมแอปต่างชาติที่สร้างความกังวลด้านความมั่นคง สส. สตีฟ สกาลีส ผู้นำเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกันโพสต์ผ่านเอ็กซ์ (X) ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นความมั่นคงแห่งชาติที่สำคัญ สว. จะต้องผ่านความเห็นชอบเช่นกัน ขณะที่โฆษกทำเนียบขาวแถลงในเวลาต่อมาว่า รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ต้องการให้ สว. ดำเนินการโดยทันที นายโชว ซื่อ ชิว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของติ๊กต็อกที่มีชาวอเมริกันใช้งานราว 170 ล้านคน โพสต์คลิปว่า หากร่างกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้แล้วจะทำให้ติ๊กต็อกถูกห้ามใช้งานในสหรัฐ  และจะทำให้ผู้สร้างเนื้อหาและธุรกิจรายเล็กสูญเสียรายได้จำนวนมหาศาล ไบแดนซ์จะใช้สิทธิตามกฎหมายในการยับยั้งการห้ามใช้งาน ร่างกฎหมายนี้ให้เวลาไบแดนซ์ 165 วันในการยื่นอุทธรณ์หากประธานาธิบดีไบเดนลงนามเป็นกฎหมาย ซึ่งไบเดนเผยเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าเขาจะลงนามเพื่อให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ กลุ่มปกป้องสิทธิหลายกลุ่มในสหรัฐวิจารณ์ร่างกฎหมายนี้ว่า ขัดต่อรัฐธรรมนูญเรื่องเสรีภาพในการแสดงออกและอีกหลายเรื่อง รัฐบาลสหรัฐสมัยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคยหาทางห้ามใช้งานติ๊กต็อกและวีแชท […]