ผู้แทนพิเศษยูเอ็นเรื่องเมียนมาลาออก

นางโนลีน เฮย์เซอร์ (Noeleen Heyzer) ผู้แทนพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติเรื่องเมียนมา จะลาออกจากตำแหน่งหลังจากทำหน้าที่มาเป็นเวลา 18 เดือน ซึ่งเธอถูกวิพากษ์ตำหนิจากทั้งรัฐบาลทหารเมียนมาและผู้ที่เห็นต่าง ในขณะที่เมียนมาตกอยู่ในสภาพยุ่งเหยิงทางการเมือง

ทูตพิเศษยูเอ็นจะประชุมกับเจ้าหน้าที่ รบ. ทหารเมียนมาวันนี้

เนปิดอว์ 17 ส.ค. – นางโนลีน เฮย์เซอร์ ทูตพิเศษของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เรื่องเมียนมา จะเริ่มประชุมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลทหารเมียนมาในวันนี้ แต่ไม่ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวที่ว่า เธอจะมีโอกาสพบนางออง ซาน ซู จี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนที่ถูกยึดอำนาจในเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อนหรือไม่ องค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ระบุว่า นางเฮย์เซอร์เริ่มปฏิบัติภารกิจเยือนเมียนมาตั้งแต่เมื่อวันอังคาร โดยให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาสถานการณ์รุนแรงในเมียนมาและข้อวิตกกังวลเร่งด่วน รวมถึงปัญหาสำคัญอื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย อย่างไรก็ดี นางเฮย์เซอร์ไม่ได้ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวในขณะที่กำลังเดินทางออกจากโรงแรมภายใต้การอารักขาความปลอดภัยของตำรวจและเจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาความปลอดภัยนอกเครื่องแบบ ที่ว่าเธอจะมีโอกาสพบนางซู จี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนที่ถูกยึดอำนาจในเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อนหรือไม่ ในขณะเดียวกัน นายซอ มิน ตัน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมา กล่าวในงานแถลงข่าววันนี้ว่า นางเฮย์เซอร์มีกำหนดประชุมกับรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัฐบาลทหารเมียนมา และพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมาในช่วงเย็นวันนี้ รัฐบาลทหารเมียนมาคาดว่าผลการประชุมในครั้งนี้จะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีและได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ทั้งนี้ การเดินทางเยือนเมียนมาของนางเฮย์เซอร์มีขึ้นหลังจากที่นางซู จี วัย 77 ปี ถูกศาลทหารเมียนมาตัดสินจำคุกเพิ่มอีก 6 ปีในความผิดฐานทุจริตเมื่อวันจันทร์ จนทำให้ขณะนี้นางซู จี มีโทษจำคุกรวมเป็น 17 ปี.-สำนักข่าวไทย

ทูตพิเศษเมียนมาของยูเอ็นร้องประกาศหยุดยิงในเมียนมา

สิงคโปร์ 28 ธ.ค. – ดร. โนลีน เฮย์เซอร์ ทูตพิเศษว่าด้วยกิจการเมียนมาคนใหม่ของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ระบุเมื่อวันจันทร์ว่า เธอรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นในเมียนมา และเรียกร้องให้ใช้ประกาศหยุดยิงในช่วงปีใหม่เพื่ออำนวยความสะดวกในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ดร. เฮย์เซอร์ ระบุในแถลงการณ์ครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งทูตพิเศษว่าด้วยกิจการเมียนมาของยูเอ็นเมื่อสองสัปดาห์ก่อนว่า เธอขอให้ยุติการสู้รบทั่วประเทศ และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายดำเนินการโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติมากขึ้น และเคารพต่อข้อผูกพันตามสัญญาภายใต้กฎหมายด้านมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชนเพื่อปกป้องพลเรือน การเดินทางอย่างปลอดภัยเมื่อจำเป็น และการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ที่จำเป็น ซึ่งรวมถึงผู้ที่ถูกบังคับให้หลบหนีความรุนแรง ดร. เฮย์เซอร์ ยังระบุว่า ความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นในเมียนมาทำให้พลเรือนหลายแสนคนต้องพลัดถิ่นฐาน ซึ่งรวมถึงสตรีและเด็ก ในจำนวนนี้ มีหลายคนกำลังหาที่หลบภัยโดยการข้ามพรมแดนเพื่อขอความคุ้มครองและความช่วยเหลือ ในขณะที่อีกหลายคนยังคงติดค้างอยู่ในเมียนมา ขณะนี้ เธอกำลังปรึกษากับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในด้านการสนับสนุนและช่วยเหลือเมียนมา โดยจะยังคงให้ความสำคัญกับความร่วมมือระหว่างประเทศที่สอดคล้องกันบนพื้นฐานของความสามัคคีในภูมิภาค แถลงการณ์ของ ดร. เฮย์เซอร์ มีขึ้นหลังเกิดเหตุสังหารหมู่และเผาคนในวันคริสต์มาสอีพที่รัฐกะยา ทางตะวันออกของเมียนมา ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 35 ราย โดยที่กลุ่มเฝ้าระวังและสื่อท้องถิ่นของเมียนมากล่าวหาว่า รัฐบาลทหารเมียนมาเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงในครั้งนี้. -สำนักข่าวไทย

ยูเอ็นแต่งตั้งชาวสิงคโปร์เป็นทูตพิเศษเมียนมาคนใหม่

นิวยอร์ก 26 ต.ค. – นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ประกาศแต่งตั้งนางโนลีน เฮย์เซอร์ นักสังคมวิทยาชาวสิงคโปร์ เป็นทูตพิเศษว่าด้วยกิจการเมียนมาคนใหม่ของยูเอ็น นางเฮย์เซอร์ วัย 73 ปี ระบุในแถลงการณ์ที่ส่งให้สำนักข่าวซีเอ็นเอของสิงคโปร์ว่า เธอรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นทูตพิเศษว่าด้วยกิจการเมียนมาของยูเอ็น และจะเข้ารับตำแหน่งดังกล่าวในวันที่ 13 ธันวาคมนี้ เธอหวังว่าจะได้รับฟังความปรารถนาและมุมมองของทุกฝ่ายในการแก้ปัญหาทางการเมืองในเมียนมาโดยสันติเพื่ออนาคตที่ดีขึ้นของชาวเมียนมาทุกคน ทั้งนี้ นางเฮย์เซอร์จะเข้ารับตำแหน่งทูตพิเศษว่าด้วยกิจการเมียนมาต่อจากนางคริสติน ชราเนอร์ เบอร์กเนอร์ นักการทูตชาวสวิส วัย 58 ปี ที่ดำรงตำแหน่งนี้มาเป็นเวลา 3 ปีครึ่ง ก่อนหน้านี้ นางเฮย์เซอร์เคยดำรงตำแหน่งระดับสูงของยูเอ็นมาแล้วหลายตำแหน่ง เช่น เลขาธิการคณะกรรมาธิการด้านเศรษฐกิจและสังคมประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกหรือเอสแคป ในปี 2550-2557 และที่ปรึกษาพิเศษประจำติมอร์-เลสเตในปี 2556-2558 นอกจากนี้ เธอยังเคยทำงานอย่างใกล้ชิดกับสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน และทางการเมียนมาในด้านการพัฒนาและการลดปัญหาความยากจน. -สำนักข่าวไทย

...