“แนนซี เปโลซี” ประกาศยุติบทบาทประธานสภาผู้แทนฯ สหรัฐ

วอชิงตัน 18 พ.ย. – นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ประกาศยุติบทบาทในตำแหน่งดังกล่าว ในขณะที่คาดกันว่าพรรครีพับลิกันจะกลับมาครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอีกครั้งหลังการเลือกตั้งกลางสมัย นางเปโลซีกล่าวในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า เธอไม่เคยนึกว่าวันหนึ่งจะมีโอกาสได้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจากเดิมที่เป็นเพียงแม่บ้านเท่านั้น แต่เธอจะไม่สมัครเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรในครั้งหน้า เพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามามีบทบาทในการกำหนดทิศทางของพรรคเดโมแครต อย่างไรก็ดี นางเปโลซีจะยังคงดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรต่อไปจนถึงเดือนมกราคมปีหน้า และจะดำรงตำแหน่ง  ส.ส. รัฐแคลิฟอร์เนียต่อไปจนถึงเดือนมกราคม 2568 หลังจากได้รับเลือกมายาวนานตั้งแต่ปี 2530 ทั้งนี้ การประกาศยุติบทบาทดังกล่าวของนางเปโลซีมีขึ้นในขณะที่มีแนวโน้มว่าพรรครีพับลิกันจะกลับมาครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอีกครั้งหลังการเลือกตั้งกลางสมัย บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า นางเปโลซี วัย 82 ปี ถือเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลของพรรคเดโมแครต และเป็นผู้หญิงคนแรกของสหรัฐที่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่วนผู้ที่ได้รับการคาดหมายว่าจะขึ้นเป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครตลงชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรแทนนางเปโลซี คือ นายฮาคีม เจฟฟรีส์ ส.ส. รัฐนิวยอร์ก วัย 52 ปี ซึ่งจะทำให้เขากลายเป็น ส.ส. ผิวดำคนแรกในประวัติศาสตร์ของสหรัฐที่ได้ดำรงตำแหน่งผู้นำ ส.ส. ของพรรคเดโมแครตในสภา. -สำนักข่าวไทย

“เปโลซี” รับเหตุชายบุกบ้านทำร้ายสามีกระทบอนาคตการเมือง

วอชิงตัน 8 พ.ย. – นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เผยว่า เหตุคนร้ายบุกบ้านพักและใช้ค้อนทำร้ายสามีของเธอจนกะโหลกศีรษะร้าว มีส่วนสำคัญต่อการตัดสินใจว่าเธอจะยุติบทบาทในสภาหรือไม่ นางเปโลซี วัย 82 ปี ได้ปรากฏตัวทางโทรทัศน์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดเหตุคนร้ายบุกบ้านพักเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม โดยให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า เหตุดังกล่าวเป็นผลมาจากการบิดเบือนความจริงเช่นเดียวกับเหตุม็อบบุกอาคารรัฐสภาสหรัฐเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 เธอเล่าย้อนเหตุการณ์ที่คนร้ายบุกบ้านพักโดยกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ว่า เช้าวันนั้นตำรวจรัฐสภาสหรัฐได้มาปลุกเธอที่อพาร์ตเมนต์ในกรุงวอชิงตัน และแจ้งว่านายพอล เปโลซี สามี วัย 82 ปี ถูกทำร้ายที่บ้านพักในเมืองซานฟรานซิสโกในรัฐแคลิฟอร์เนีย ทั้งยังระบุว่า ส่วนที่เธอทำใจรับได้ยากที่สุดคือ การที่เธอรู้ว่าคนร้ายต้องการมาจับตัวเธอ ไม่ใช่สามี แต่เขากลับตกเป็นผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์ในครั้งนี้แทนที่จะเป็นตัวเธอเอง นางเปโลซีระบุว่า เธอจะไม่ยุติบทบาทในสภา หรือลาออกจากตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร หากพรรคเดโมแครตได้คะแนนเสียงข้างน้อยจากการเลือกตั้งกลางสมัยในวันนี้ แต่ยอมรับว่าเหตุคนร้ายบุกบ้านพักและทำร้ายสามีมีส่วนสำคัญต่อการตัดสินใจว่าจะยุติบทบาทในสภาหรือไม่ ทั้งยังระบุว่า เธอรู้สึกมีความสุขที่ได้ทำงานในสภามาเป็นเวลานานถึง 35 ปี. -สำนักข่าวไทย

สหรัฐตั้งข้อหาคนร้ายบุกบ้าน “แนนซี เปโลซี”

วอชิงตัน 1 พ.ย. – กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐตั้งข้อหาคนร้ายก่อเหตุบุกบ้านนางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐ และใช้ค้อนทำร้ายนายพอล เปโลซี สามีของเธอ จนกะโหลกศีรษะร้าวเมื่อวันศุกร์ตามเวลาในสหรัฐ กระทรวงยุติธรรมกล่าวหานายเดวิด เดอพาเป วัย 42 ปี ว่า ข่มขู่ว่าจะจับนางเปโลซี วัย 82 ปี เป็นตัวประกันและจะทุบกระดูกสะบ้าหัวเข่าให้แตก ขณะที่ตำรวจระบุว่า นายเดอพาเปได้ใช้ค้อนทำร้ายนายเปโลซี วัย 82 ปี จนกะโหลกศีรษะร้าว ทางการไม่ได้เปิดเผยถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุของนายเดอพาเปที่ถูกจับกุมตัวที่บ้านพักของนางเปโลซีเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่กระทรวงยุติธรรมได้ตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายสมาชิกในครอบครัวของเจ้าหน้าที่สหรัฐโดยมีเจตนาแก้แค้นเจ้าหน้าที่จากการปฏิบัติราชการในทันที มีโทษจำคุกสูงสุดถึง 30 ปี และตั้งข้อหาพยายามลักพาตัวเจ้าหน้าที่สหรัฐด้วยเหตุผลจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการ มีโทษจำคุกสูงสุดถึง 20 ปี ข้อมูลจากสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐ หรือเอฟบีไอ ระบุว่า นายเดอพาเปให้การกับตำรวจหลังถูกจับกุมว่า เขาวางแผนจับนางเปโลซีเป็นตัวประกันเพื่อสอบถามคำถามบางอย่าง หากนางเปโลซีตอบความจริง เขาก็จะปล่อยตัวเธอไป แต่ถ้านางเปโลซีโกหก เขาก็จะใช้ค้อนทุบกระดูกสะบ้าหัวเข่าของเธอให้แตก ทั้งนี้ อัยการประจำเขตซานฟรานซิสโกในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐและหัวหน้าสำนักงานตำรวจเขตซานฟรานซิสโก ระบุตรงกันว่า นายเดอพาเปจงใจก่อเหตุดังกล่าว. -สำนักข่าวไทย

VOA ส่งตรงจากสหรัฐ : สหรัฐ-จีน ตึงเครียดกรณีไต้หวัน

การเยือนไต้หวันของแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ทำให้จีนตอบโต้ด้วยการประณามและยกระดับมาตรการทางเศรษฐกิจและกิจกรรมด้านกลาโหม ติดตามบทวิเคราะห์จากคุณคมสัน ศรีธนวิบุญชัย ผู้สื่อข่าววีโอเอไทย

“เปโลซี” หนุนปลดนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ

นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ หนุนปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และมีแผนเดินทางไปเยือนพรมแดนสองเกาหลี

ไต้หวันยิงพลุไล่โดรนจีนเหนือหมู่เกาะจินเหมิน

ไทเป 4 ส.ค. – ไต้หวันเผยว่า มีเครื่องบินไม่ทราบชนิด ซึ่งคาดว่าอาจเป็นโดรน บินเข้ามาเหนือน่านฟ้าหมู่เกาะจินเหมิน ที่ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีนไม่กี่กิโลเมตร จนทำให้ไต้หวันต้องยิงพลุไล่โดรนออกไป กองบัญชาการป้องกันกองทัพจินเหมินเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า จีนได้ส่งโดรน 2 ลำบินเป็นคู่เข้ามาในน่านฟ้าของหมู่เกาะจินเหมิน 2 ครั้งในคืนวันพุธเมื่อเวลา 21.00 น. และ 22.00 น. ไต้หวันจึงตัดสินใจส่งสัญญาณเตือนด้วยการยิงพลุไล่โดรนเหล่านี้ออกจากน่านฟ้าในทันที แต่หลังจากนั้นโดรนก็บินวกกลับมาในเขตหวงห้าม ไต้หวันจึงยิงพลุไล่โดรนออกจากน่านฟ้าอีกครั้ง วิธีนี้เป็นไปตามขั้นตอนปฏิบัติการมาตรฐาน และการประกาศเตือนภัยยังคงอยู่ในระดับปกติ เชื่อว่า จีนส่งโดรนเหล่านี้เข้ามาเพื่อเก็บข้อมูลเรื่องการวางกำลังรักษาความมั่นคงตามเกาะรอบนอกของไต้หวัน ในขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมไต้หวันเผยหลังจากที่นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เดินทางออกจากไต้หวันเมื่อวันพุธว่า จีนได้ส่งเครื่องบินรบ 27 ลำเข้ามาในเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) ของไต้หวัน ขณะนี้ ไต้หวันยังคงใช้ประกาศเตือนภัยรับมือจีนที่ประกาศซ้อมรบเพื่อตอบโต้การเยือนไต้หวันของนางเปโลซีเมื่อวันพุธ. -สำนักข่าวไทย

“แนนซี เปโลซี” เยือนไต้หวัน : ฤาสหรัฐหลับตาข้างเดียว?

รองศาสตราจารย์ ดร.ปิติ ศรีแสงนาม ผู้อำนวยการศูนย์อาเซียนศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิเคราะห์ประเด็นการเยือนไต้หวันของนางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐ

จีนเตือนสายการบินเลี่ยงน่านฟ้าใกล้ไต้หวัน

ปักกิ่ง 3 ส.ค. – จีนประกาศเตือนสายการบินที่ให้บริการในทวีปเอเชียหลีกเลี่ยงเส้นทางบินในน่านฟ้าใกล้ไต้หวัน เนื่องจากจีนกำลังซ้อมรบในระหว่างที่นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เดินทางเยือนไต้หวันในวันนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กของสหรัฐรายงานอ้างสายการบินและเจ้าหน้าที่กระทรวงคมนาคมของเกาหลีใต้ที่ได้รับหนังสือแจ้งเตือนอย่างเป็นทางการจากจีนเมื่อช่วงค่ำวันอังคารว่า จีนได้ประกาศเตือนสายการบินที่ให้บริการในทวีปเอเชียหลีกเลี่ยงเส้นทางบินในน่านฟ้าใกล้ไต้หวัน และกำหนดให้น่านฟ้า 6 แห่งเป็นเขตอันตราย โดยจะใช้มาตรการจำกัดเที่ยวบินตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนวันพฤหัสบดีไปจนถึงเที่ยงคืนวันอาทิตย์ ในขณะเดียวกัน สายการบินเซี่ยเหมิน แอร์ไลน์ ของจีน ได้ประกาศปรับเส้นทางการบินบางส่วนเพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างราบรื่นในมณฑลฝูเจี้ยน ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของจีนและมีพรมแดนติดช่องแคบไต้หวัน ส่วนสายการบินโคเรียน แอร์ ของเกาหลีใต้ ได้วางแผนปรับเส้นทางบินในเที่ยวบินบางส่วนที่ออกเดินทางไปยังภูมิภาคเอเชียใต้ เพื่อหลีกเลี่ยงน่านฟ้าไต้หวันในระหว่างที่จีนกำลังซ้อมรบ ด้านสายการบินคาเธย์ แปซิฟิค ของฮ่องกง ได้รับคำแนะนำให้เตรียมน้ำมันเชื้อเพลิงสำรองเพิ่มเพื่อให้ปฏิบัติการบินได้นานขึ้น 30 นาทีในกรณีที่อาจจำเป็นต้องเปลี่ยนเส้นทางบินเพื่อเลี่ยงน่านฟ้าไต้หวัน กระทรวงต่างประเทศของไต้หวันระบุในแถลงการณ์วันนี้ว่า การประกาศซ้อมรบด้วยกระสุนจริงของกองทัพปลดปล่อยประชาชนของจีน และประกาศเตือนให้สายการบินหรือเรือบรรทุกสินค้าของประเทศต่าง ๆ เลี่ยงน่านฟ้าหรือน่านน้ำดังกล่าว เป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดอันตรายอย่างยิ่งต่อการค้าระหว่างประเทศและการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจ รวมถึงกฎหมายระหว่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย

จีนระงับนำเข้าสินค้าจากไต้หวันกว่า 2,000 รายการ

ปักกิ่ง 3 ส.ค. – จีนประกาศห้ามนำเข้าสินค้าจากบริษัทผู้ผลิตอาหารของไต้หวันหลายร้อยราย ระงับนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารจากไต้หวันกว่า 2,000 รายการ และสั่งระงับส่งออกทรายธรรมชาติไปยังไต้หวันชั่วคราว เพื่อตอบโต้ไต้หวันจากกรณีที่นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เดินทางเยือนไต้หวันในวันนี้ หนังสือพิมพ์เดอะไฟแนนเชียลไทมส์ของอังกฤษ รายงานว่า สำนักงานศุลกากรของจีนได้ประกาศระงับนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารจากไต้หวันกว่า 2,000 รายการจากทั้งหมด 3,200 รายการนับตั้งแต่ช่วงคืนวันจันทร์ หลังเจ้าหน้าที่ของสหรัฐและไต้หวันยืนยันอย่างเป็นทางการว่า นางเปโลซีเดินทางเยือนไต้หวันและพบปะกับประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ของไต้หวัน ในวันนี้ การประกาศห้ามนำเข้าสินค้าจากไต้หวันครั้งนี้ ครอบคลุมสินค้ารวม 35 ประเภท เช่น ปลาและอาหารทะเล น้ำมันสำหรับปรุงอาหาร ผลไม้ตระกูลส้ม บิสกิต และเค้ก รวมถึงบริษัทผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและซอสถั่วเหลืองหรือโชยุ ทั้งนี้ สำนักงานศุลกากรจีนได้ประกาศคำสั่งระงับนำเข้าสินค้าจากบริษัทต่าง ๆ ในไต้หวัน โดยให้เหตุผลว่าไม่ได้ปฏิบัติตามการลงทะเบียนภายใต้กฎระเบียบใหม่ ก่อนหน้าน้ จีนเคยสั่งแบนการนำเข้าสับปะรดจากไต้หวันในช่วงต้นปี 2564 จนทำให้รัฐบาลไต้หวันต้องโต้กลับด้วยการใช้แคมเปญการตลาดว่า สับปะรดของไต้หวันเป็น ‘สับปะรดเสรีภาพ’ (freedom pineapple) และ ‘สับปะรดประชาธิปไตย’ (democracy pineapple) เพื่อหาช่องทางส่งออกสับปะรดไปยังตลาดอื่น.-สำนักข่าวไทย

1 2
...