การเคหะฯ ช่วยเหลือเร่งด่วน 7 จว.ชายแดน “พักหนี้–เว้นค่าเช่า”

ทำเนียบ 27 ส.ค.- การเคหะฯ เปิดมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วนประชาชน 7 จังหวัดชายแดนไทย–กัมพูชา พักหนี้–เว้นค่าเช่า บรรเทาภาระช่วงวิกฤติ นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า รัฐบาลบูรณาการทุกหน่วยงานเพื่อดูแลประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัยและรักษาคุณภาพชีวิตให้มั่นคง รัฐบาล โดยการเคหะแห่งชาติ (กคช.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ออกมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วนใน 7 จังหวัด ได้แก่ ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี ตราด จันทบุรี และสระแก้ว ครอบคลุม 3 ด้านหลัก คือ “รัฐบาลยืนยันจะเดินหน้าให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่องในทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะช่วงเวลาวิกฤติ เพื่อให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลจะไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง” นางสาวศศิกานต์ กล่าว -สำนักข่าวไทย

เติมเงินเข้ากองทุนประชารัฐสวัสดิการ 2,900 ล้านบาท

ทำเนียบฯ 26 ส.ค. – ครม.อนุมัติงบกลางเข้ากองทุนประชารัฐสวัสดิการ 2,900 ล้านบาท รองรับรายย่อยใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการฯ ดึงงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 2.6 หมื่นล้านบาท เข้างบกลาง นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.อนุมัติงบกลาง 2,900 ล้านบาท ให้แก่กองทุนประชารัฐสวัสดิการฯ สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายของผู้ถือบัตรสวัสดิการ 13.45 ล้านคน ประกอบด้วย1) ค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา และวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรม วงเงิน 300 บาทต่อเดือน เงื่อนไขจากร้านธงฟ้าฯ2) วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม วงเงิน 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน3) ค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ วงเงิน 750 บาทต่อคนต่อเดือน สำหรับขึ้นรถ เช่น รถเมล์ ขสมก. , บขส. , รถไฟฟ้า และรถไฟ4) มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า วงเงินอุดหนุนค่าไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน เงื่อนไขกรณีที่ใช้ไฟฟ้าเกินวงเงินที่กำหนด […]

ครม.อนุมัติรับซื้อไฟฟ้าจาก สปป.ลาว 26,220 ล้านบาท

กรุงเทพฯ 19 ส.ค. – ครม.อนุมัติโครงการพัฒนาระบบส่งไฟฟ้าบริเวณจังหวัดน่าน แพร่ และอุตรดิตถ์ เพื่อรับซื้อไฟฟ้าจาก สปป.ลาว 26,220 ล้านบาท นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ดำเนินโครงการพัฒนาระบบส่งไฟฟ้าบริเวณจังหวัด น่าน แพร่ และอุตรดิตถ์ เพื่อรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (โครงการ NPUP) ภายในวงเงิน 26,220 ล้านบาท ตามที่กระทรวงพลังงาน (พน.) เสนอ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงพลังงานขอให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ดำเนินโครงการพัฒนาระบบส่งไฟฟ้าบริเวณจังหวัด น่าน แพร่ และอุตรดิตถ์ เพื่อรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (โครงการ NPUP) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบางและโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำปากแบงตามนโยบายของภาครัฐที่มุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน รวมทั้งเป็นไปตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561 – 2580 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 (PDP2018 Rev.1) โครงการนี้มีมูลค่าการลงทุนรวม ประมาณ […]

ครม.อนุมัติการโอนสิทธิ ของ บ.เอ็มพี จี2 ร้อยละ 40 ให้แก่ บริษัท ปตท.สผ.

ทำเนียบฯ 19 ส.ค. – ครม.อนุมัติการโอนสิทธิประโยชน์ และแบ่งปันผลผลิตของ บ.เอ็มพี จี2 ร้อยละ 40 ให้แก่ บริษัท ปตท.สผ. แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทย นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้บริษัท เอ็มพี จี2 (ประเทศไทย) จำกัด โอนสิทธิประโยชน์และพันธะซึ่งบริษัทถืออยู่ทั้งหมดร้อยละ 40 ในสัญญาแบ่งปันผลผลิตเลขที่ 1/2562/1 แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทย หมายเลข G1/61 ให้แก่ บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ตามที่กระทรวงพลังงาน (พน.) เสนอ ทั้งนี้ พน. จะได้ออกเป็นสัญญาแบ่งปันผลผลิตเพิ่มเติม (ฉบับที่ 1) ของสัญญาแบ่งปันผลผลิต เลขที่ 1/2562/1 ตามแบบ ชร/ป12/1 ที่กำหนดในกฎกระทรวงกำหนดแบบสัญญา แบ่งปันผลผลิต พ.ศ. 2561 ต่อไป รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]

เชิญร่วมสักการะพระบรมสารีริกธาตุ “อุรังคธาตุ”

ทำเนียบ 18 ส.ค.- “ศศิกานต์” เชิญพุทธศาสนิกชนร่วมสักการะพระบรมสารีริกธาตุ “อุรังคธาตุ” จากรัฐพิหาร อินเดีย ณ วัดประสิทธิชัย จังหวัดตรัง นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และสภาส่งเสริมวัฒนธรรมอาเซียน ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนในจังหวัดตรังและพื้นที่ใกล้เคียง น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และร่วมสักการะพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระอุระ หรือ “อุรังคธาตุ” ซึ่งอัญเชิญมาจากรัฐพิหาร สาธารณรัฐอินเดีย มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้สักการะอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ การจัดงานจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 25 สิงหาคม 2568 ณ วัดประสิทธิชัย (วัดท่าจีน) อำเภอเมือง จังหวัดตรัง โดยกำหนดให้พุทธศาสนิกชนสามารถเข้าสักการะได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น. – 20.00 น. ภายในงานได้จัดสถานที่อย่างวิจิตรงดงาม เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าร่วม และเสริมสร้างบรรยากาศแห่งศรัทธาและความสงบเย็น พระบรมสารีริกธาตุ “อุรังคธาตุ” นับเป็นหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่พุทธศาสนิกชนน้อมเคารพและศรัทธา การได้มีโอกาสสักการะในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสมงคลสูงสุดที่จะเกื้อหนุนให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและครอบครัว อีกทั้งยังสะท้อนถึงสายสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับอินเดีย […]

ครม.รับแก้ไขปัญหายาสูบและยาเส้นราคาตกต่ำ

ทำเนียบฯ 22 ก.ค. – ครม.รับแก้ไขปัญหายาสูบและยาเส้นราคาตกต่ำ หนุนปรับโครงสร้างภาษี 3 อัตรา หาช่องทางดูแลเกษตรกร นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีพิจารณารายงานผลการพิจารณาศึกษาญัตติ เรื่อง แนวทางการแก้ไขปัญหายาสูบและยาเส้นราคาตกต่ำ ของคณะกรรมาธิการ การเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน สภาผู้แทนราษฎร ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ เพื่อดำเนินการ 1) การลดต้นทุนเพิ่มรายได้เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร โดยการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) กำหนดยุทธศาสตร์ด้านการผลิต ควบคุม และปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อลดต้นทุนการผลิต โดยได้มีการนำยาสูบมาผลิตเป็นซิการ์เพื่อจำหน่าย ปรับขึ้นราคา รับซื้อใบยาสูบให้เกษตรกรผู้เพาะปลูกยาสูบทุกสายพันธุ์ และรับซื้อใบยาสูบจากเกษตรกรเกินโควตาที่กำหนด เพื่อส่งออกใบยาสูบให้เอกชนและต่างประเทศ 2) การปรับโครงสร้างภาษียาสูบ กระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพสามิตอยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางการปรับโครงสร้างภาษีที่เหมาะสมในทุกมิติอย่างรอบด้าน โดย ยสท. เห็นว่าอัตราภาษี 3 อัตรา สามารถลดช่องว่างระหว่างบุหรี่ถูกกฎหมายและบุหรี่ผิดกฎหมาย โดยเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคที่มีรายได้น้อยหรือบริโภคบุหรี่ผิดกฎหมาย และรัฐยังคงรักษารายได้ใกล้เคียงกับรายได้เดิม รวมถึงเป็นการสนับสนุนเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบภายในประเทศขายใบสูบให้มากขึ้น 3) การป้องกันและปราบปราม กระทรวงการคลัง […]

“เชียงใหม่” คว้าอันดับ 1 เมืองที่ดีที่สุดในเอเชีย

ทำเนียบ 16 ก.ค.- รองโฆษกรัฐบาล เผย “เชียงใหม่” คว้าอันดับ 1 เมืองที่ดีที่สุดในเอเชีย จากการจัดอันดับของ เว็บไซต์ Travel + Leisure ขณะที่กรุงเทพมหานคร ติดอันดับ 3 สะท้อนศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของไทยในระดับสากล นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการจัดอันดับเมืองที่ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ประจำปี พ.ศ. 2568 โดยเว็บไซต์ Travel + Leisure แพลตฟอร์มด้านการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ชั้นนำของภูมิภาค พบว่า จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย ได้รับคะแนนสูงสุดเป็นอันดับ 1 ด้วยคะแนน 91.94 คะแนน ขณะที่กรุงเทพมหานคร ได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับ 3 ด้วยคะแนน 91.34 คะแนน รองจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ในอันดับ 2 ด้วยคะแนน 91.39 คะแนน ทั้งนี้ เว็บไซต์ดังกล่าวระบุว่า จังหวัดเชียงใหม่ […]

ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ. Financial Hub

ทำเนียบฯ 15 ก.ค. – ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ. Financial Hub ผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการเงินของโลก หวังดึงเงินลงทุนจากแบงก์ต่างชาติ ให้บริการ ทั้งตลาดเงิน ตลาดทุน ประกันภัย นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี เห็นชอบร่าง พ.ร.บ. ศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน พ.ศ. ….. เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงินของโลก (Financial Hub) และดึงดูดผู้ประกอบธุรกิจทางการเงินจากต่างประเทศให้มาประกอบธุรกิจในประเทศไทย ช่วยพัฒนาระบบนิเวศของอุตสาหกรรมการเงิน สร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน หลังจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ตรวจพิจารณาการกำหนดแนวทางการจัดตั้ง Financial Hub ในเขตพื้นที่ที่กำหนดสำหรับการประกอบธุรกิจเป้าหมาย ได้แก่ ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจบริการการชำระเงิน ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ธุรกิจประกันภัย ธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อ และธุรกิจทางการเงินอื่นหรือธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่องหรือสนับสนุนธุรกิจทางการเงินตามที่คณะกรรมการฯ ประกาศกำหนด โดยอนุมัติของคณะรัฐมนตรี เพื่อให้บริการเฉพาะผู้มีถิ่นที่อยู่นอกประเทศ (non-residents) เท่านั้น ยกเว้น 2 กรณี คือ 1) การให้บริการระหว่างผู้ประกอบธุรกิจเป้าหมายด้วยกันเอง […]

ยอดจดทะเบียนธุรกิจทัวร์พุ่งกว่า 14% เตือนเลี่ยงทริปเถื่อน

กทม.11 ก.ค.- สัญญาณท่องเที่ยวฟื้น ยอดจดทะเบียนธุรกิจทัวร์พุ่งกว่า 14% รัฐบาลเตือนเลี่ยงใช้บริการทริปเถื่อน เสี่ยงถูกหลอก-ไม่ปลอดภัย ย้ำใช้บริการจากผู้มีใบอนุญาตเท่านั้น นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรมการท่องเที่ยวรายงานสถิติการยื่นจดทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวช่วงครึ่งปีแรก (มกราคม – มิถุนายน 2568) มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 3,436 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนซึ่งมี 3,013 ราย คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.04 สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวไทยอย่างชัดเจน โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่กระจายอยู่ทั้งในพื้นที่เมืองหลักและเมืองรองทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางสัญญาณบวกของภาคธุรกิจทัวร์ กลับพบว่ามีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลบางส่วนจัดกิจกรรมท่องเที่ยวในลักษณะเชิงพาณิชย์ผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น การรวมกลุ่มเดินทาง รับจัดแพ็กเกจท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหารให้บุคคลทั่วไปหรือผู้ที่ไม่รู้จักกันมาก่อน โดยมีจุดประสงค์เพื่อแสวงหากำไร ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเข้าข่าย “การประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับใบอนุญาต” ตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 มาตรา 15 ซึ่งมีโทษปรับสูงสุดถึง 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ดังนั้น จึงขอย้ำเตือนผู้ที่ดำเนินกิจกรรมท่องเที่ยวในลักษณะดังกล่าวให้เร่งดำเนินการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวอย่างถูกต้อง โดยสามารถยื่นคำขอได้ที่สำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ทั้ง 8 แห่งทั่วประเทศ และขอความร่วมมือจากประชาชนให้ใช้บริการกับผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตถูกต้องเท่านั้น เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย และความมั่นใจด้านความปลอดภัยตลอดการเดินทาง […]

ครม.เห็นชอบ “คุณสู้ เราช่วย เฟส 2”

ทำเนียบฯ 1 ก.ค. – ครม. เห็นชอบ “คุณสู้ เราช่วย เฟส2” และมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยของแบงก์รัฐ งัดมาตรการ “จ่าย ตัด ต้น” ลดภาระหนี้รายย่อย ชำระร้อยละ 2 ของ เงินต้น และพักหนี้ให้ 3 ปี นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.เห็นชอบโครงการ “คุณสู้ เราช่วย เฟส 2” ช่วยเหลือลูกหนี้ผ่าน ธนาคารออมสิน, ธ.ก.ส., ธอส., ธนาคารอิสลามฯ, ธสน., และเอสเอ็มอีดีแบงก์ โดยปรับปรุงกรอบวงเงินของแบงก์รัฐ ให้สอดคล้องกับจำนวนผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ โดยมอบหมายให้แบงก์รัฐทั้ง 6 แห่ง ทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ (สงป.) เพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณเป็นรายปีตามความเหมาะสมโดยคำนึงถึงสภาพคล่องของแต่ละแห่ง ครม.ยังเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ตามมาตรการสินเชื่อสู้ภัย COVID-19 และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือลูกหนี้ ผ่านโครงการคุณสู้ เราช่วย เฟส 2 […]

ครม.เห็นชอบแพลตฟอร์มดิจิทัลกลาง Citizen Portal

ทำเนียบฯ 5 มิ.ย. – ครม.เห็นชอบแผนบริการของหน่วยงานของรัฐ บนแพลตฟอร์มดิจิทัลกลาง Citizen Portal ดึงทุกหน่วยงานรัฐรวมศูนย์เดียว นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแผนการนำงานบริการของหน่วยงานของรัฐมาให้บริการบนแพลตฟอร์มดิจิทัลกลางเพื่อเชื่อมโยงงานบริการทั้งหมด ของหน่วยงานรัฐมาให้บริการบนแพลตฟอร์ม ศูนย์การบริการภาครัฐเพื่อภาคธุรกิจ (Biz Portal) หรือ ระบบพอร์ทัลกลางเพื่อประชาชน (Citizen Portal) ดำเนินการภายในปีงบประมาณ 68 -70 รวม 2,101 งานบริการ ได้แก่ จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่ามีงานบริการภาครัฐที่เชื่อมโยง ให้บริการบน Biz Portal หรือ Citizen Portal ได้แล้ว 182 งานบริการ จากงานบริการภาครัฐ โดยแผนงานดังกล่าวจะถูกนำมาปรับใช้ให้สอดคล้องกับ 5 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล และ 10 Focus Area ตามแผนพัฒนางานดิจิทัลของไทย 66-70 เพื่อการพัฒนาในด้านต่างๆอย่างรอบด้าน ทั้งนี้ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จะดำเนินการจัดทำแนวทางการดำเนินงานให้รัดกุม เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการใช้งาน […]

ครม.เห็นชอบคลังออกโทเคนดิจิทัล

ทำเนียบฯ 13 พ.ค. – ครม.เห็นชอบให้ ก.คลัง ออกโทเคนดิจิทัล เปิดทางให้รายย่อยเข้าถึงการระดมทุนชดเชยขาดดุลงบประมาณปี 68 รูปแบบใหม่ น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม. เห็นชอบการปรับแผนบริหารจัดการหนี้สาธารณะ เพื่อให้อำนาจกระทรวงการคลัง ระดมทุนด้วยการออกโทเคนดิจิทัล กู้เงินชดเชยขาดดุลงบประมาณตามกรอบที่กำหนด เพื่อระดมทุนรูปแบบใหม่ โดยกระทรวงการคลังจะมอบหมายให้มีตัวแทนจำหน่ายโทเคนดิจิทัล เช่น โบรกเกอร์ ผู้รับใบอนุญาต การกำหนดแนวทางการโอน การรับโอนโทเคนดิจิทัล นับว่าเป็นกลไกการระดมทุนแบบใหม่ เปิดทางให้ประชาชนรายย่อยเข้าถึงการระดมทุนได้ โดยกระทรวงคลังจะกำหนดผลตอบแทนดอกเบี้ย กำหนดวันชำระดอกเบี้ย โดยการออกโทเคนดิจิทัลของรัฐบาล (Government Token: G-Token) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เป็นการกู้เงินตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะ โดยการออก (G-Token) รองรับการกู้และการนําไปให้กู้ต่อ การกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ และการค้ำประกัน เงินกู้ให้กับรัฐวิสาหกิจ ภายใต้กรอบวงเงินของแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบฯ 2568 และให้กระทรวงการคลังบริหารความเสี่ยงในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น ดังนี้1.กำหนดให้ กค. ออกโทเคนดิจิทัล โดยวงเงินกู้ตามกรอบการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบฯ2.กำหนดให้ กค. อาจมอบหมายให้ผู้เกี่ยวข้องเป็นตัวแทนของ กค. ในการดำเนินการด้านต่างๆ3.กำหนดให้ กค. […]

1 2 3 4
...