
ผู้ค้าชายแดนตราด ชี้ปิดด่านกระทบไทยมากกว่ากัมพูชา
กทม. 12 ก.ย.-ผู้ประกอบการค้าชายแดนตราด ชี้ปิดด่านกระทบไทยมากกว่ากัมพูชา แนะรัฐใช้มาตรการเดียวกับช่วงโควิด เปิดด่านเฉพาะขนสินค้าข้ามแดน นายจตุพัฒน์ ฤกษ์สหกุล อุปนายกสมาคมผู้ประกอบการค้าชายแดน จังหวัดตราด และผู้ประกอบการส่งออกสินค้าไปกัมพูชา กล่าวถึงการพิจารณาเปิดด่านการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ต้องตั้งคำถามให้คิดว่า การปิดด่านช่วยกดดันกัมพูชา หรือส่งผลกระทบต่อกัมพูชาจริงหรือไม่ กัมพูชาพึ่งพาอะไรจากไทยบ้าง ทั้งข้าว น้ำตาล เครื่องใช้ต่างๆ สามารถผลิตได้ในกัมพูชา มีเพียงอาหารที่เป็นแบรนด์ไทย แต่สิ่งเหล่านี้สามารถนำเข้าจากประเทศอื่นทดแทนได้ รวมถึงวัสดุก่อสร้าง ปูนซีเมนต์ ที่สามารถผลิตได้ในกัมพูชาเช่นกัน อยากให้พิจารณาควบคู่กันไประหว่างความมั่นคงด้านเขตแดนและความมั่นคงด้านเศรษฐกิจ เมื่อไม่มีปัญหาด้านเขตแดน หรือไม่มีการยั่วยุกันแล้ว ต้องมาพิจารณาความมั่นคงเศรษฐกิจ หากดูตัวเลขการค้าชายแดนระหว่างกัน ซึ่งมีประมาณ 170,000 ล้านบาท เป็นไทยส่งออก 140,000 ล้านบาท นำเข้าเพียง 30,000 ล้านบาท นอกจากนี้ แรงงานกัมพูชาที่หายไปจากระบบ ส่งผลกระทบต่อการบริโภค ในพื้นที่มีแรงงานกัมพูชาจำนวนมาก จังหวัดตราดเองภาคการเกษตรใช้แรงงานกัมพูชา 70-80% ทั้งนี้ ตนไม่เห็นด้วยหากจะเปิดด่านเฉพาะตามคำร้องขอจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อเปิดให้ขนส่งอุปกรณ์ต่าง ๆ ไปนิคมอุตสาหกรรมที่เกาะกง แต่หากรัฐมีความกังวลเรื่องการเดินทางเข้าออกของประชาชน อาจพิจารณาใช้รูปแบบเดียวกันกับช่วงโควิด คือ ให้เฉพาะขนย้ายสินค้าระหว่างกันก่อน.-404.-สำนักข่าวไทย