บีอาร์ไอ

รัฐบาลมาเลเซียกล่าวว่า จะพิจารณาขยายเส้นทางโครงการรถไฟมูลค่า 10,000 ล้านดอลลาร์ที่จีนเป็นผู้ให้การสนับสนุนให้ไปถึงชายแดนที่ติดกับประเทศไทยเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองประเทศ

ย่างกุ้ง 2 พ.ย.- กองทัพเมียนมากล่าวว่า เมียนมาสูญเสียการควบคุมเมืองยุทธศาสตร์ทางเหนือของประเทศที่มีพรมแดนติดกับมณฑลยูนนานของจีน หลังจากปะทะกับกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ 3 กลุ่มมาเป็นเวลาหลายวัน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมาแถลงเมื่อค่ำวันพุธว่า รัฐบาล หน่วยงานบริหาร และหน่วยงานด้านความมั่นคงไม่ได้อยู่ในเมืองชินฉ่วยฮ่อ (Chinshwehaw) ของรัฐฉานแล้ว เมืองนี้มีพรมแดนติดกับมณฑลยูนนานหรืออวิ๋นหนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน กองทัพเมียนต่อสู้กับกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธในรัฐฉานตั้งแต่วันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอางหรือปะหล่อง (TNLA) กองทัพอาระกัน (AA) และกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (MNDAA) ที่อ้างว่าสามารถยึดที่ตั้งทางทหารของกองทัพได้หลายแห่ง และยึดถนนเชื่อมเมียนมากับจีนได้หลายสาย สหประชาชาติวิตกว่า จะมีประชาชนจำนวนมากต้องพลัดถิ่นเพราะการสู้รบ และบางส่วนได้หนีข้ามพรมแดนเข้าไปในจีน เมียนมามีโครงการสร้างทางรถไฟมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐในรัฐฉาน อันเป็นส่วนหนึ่งในข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทางหรือบีอาร์ไอ (BRI) ของจีน ซึ่งเป็นคู่ค้าใหญ่ที่สุดของเมียนมา สื่อทางการเมียนมารายงานเมื่อเดือนกันยายนอ้างข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ว่า เดือนเมษายน-กันยายนปีนี้ เมียนมามีการค้าข้ามพรมแดนกับจีนมูลค่า 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว ล้านบาท) ในจำนวนนี้มากกว่า 1 ใน 4 เป็นการค้าผ่านเมืองชินฉ่วยฮ่อที่กองทัพเมียนมาเสียการควบคุมแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้-สำนักข่าวไทย

หนานหนิง 25 ต.ค. – จีนนำสื่อมวลชนอาเซียนดูการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม ในพื้นที่เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ซึ่งเป็นประตูสู่อาเซียน กรมประชาสัมพันธ์คณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ร่วมกับสำนักข่าวไชนา นิวส์ เซอร์วิส (China News Service) สาขากว่างซีจ้วง จัดโครงการ “Guangxi in the Eyes of International Media 2023” หรือ กว่างซีจ้วงในมุมมองของสื่อต่างชาติ ประจำปี 2566 นำสื่อมวลชน รวมทั้งนักสร้างคอนเทนต์แพลตฟอร์มออนไลน์ จาก 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน รวมทั้งตัวแทนจากสำนักข่าวไทย ดูการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมจีนภายใต้แนวคิดของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่มุ่งพัฒนาประเทศให้มีคุณภาพขั้นสูง ในโอกาสที่ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 20 ปีของการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์จีน-อาเซียน รวมทั้งเป็นวาระครบรอบ 10 ปีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Initiative) หรือบีอาร์ไอ (BRI) นายหลิว คุน รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์คณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง และผู้อำนวยการสำนักงานสารสนเทศของรัฐบาลกว่างซีจ้วง […]

ปักกิ่ง 20 ต.ค. – นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของไทยให้สัมภาษณ์สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนเมื่อวานนี้เกี่ยวกับการประชุมสายแถบและเส้นทางหรือบีอาร์เอฟ  (BRF) ครั้งที่ 3 และการเยือนจีนอย่างเป็นทางการ นายกรัฐมนตรีเศรษฐาเผยกับซินหัวว่า บีอาร์เอฟเป็นโอกาสที่ผู้นำนานาประเทศได้รวมตัว เพื่อแนะนำแผนการพัฒนาของตนเอง และแสดงความตั้งใจจะทำงานร่วมกันเพื่อต่อยอดข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทางหรือบีอาร์ไอ (BRI) ให้เป็นปึกแผ่นและเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน บีอาร์ไอที่นำเสนอโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนเชื่อมโยงนานาประเทศ สร้างประโยชน์ต่อมนุษยชาติด้วยการสนับสนุนการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน การค้าและการลงทุน การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและระหว่างประชาชน สุนทรพจน์ของประธานาธิบดีสีที่กล่าวในพิธีเปิดการประชุมได้สื่อสารความมุ่งมั่นของจีนในการพัฒนาอย่างสันติและขยับขยายการเปิดกว้างยิ่งขึ้น ซินหัวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีของไทยได้เจรจาพูดคุยกับบริษัทผู้ประกอบการของจีนหลายแห่งระหว่างอยู่ปักกิ่ง เพื่อดึงดูดการลงทุนเข้าสู่ไทย โดยกล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้เพื่อส่งสารถึงบรรดาบริษัทผู้ประกอบการของจีนว่าไทยพร้อมต้อนรับกลุ่มนักลงทุนจากจีน สำหรับแผนการส่งเสริมความร่วมมือไทย-จีน นายกรัฐมนตรีไทยกล่าวว่าทั้งสองประเทศได้พัฒนาความร่วมมือในหลายด้าน  สำหรับด้านการพัฒนาพลังงานใหม่นั้นปัจจุบันมีบริษัทยานยนต์พลังงานใหม่ของจีนหลายแห่งเข้ามาลงทุนและก่อสร้างโรงงานในไทย ซึ่งมีบทบาทสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกรถยนต์พลังงานใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน  ส่วนความร่วมมือการเกษตรระหว่างสองประเทศ นายกรัฐมนตรีเศรษฐายกการส่งออกทุเรียนเป็นตัวอย่างว่า ชาวจีนนิยมรับประทานทุเรียนอย่างมาก และคาดหวังว่าไทยจะสามารถส่งออกทุเรียนที่มีคุณภาพสูงสู่จีนเพิ่มขึ้นในอนาคต นายกรัฐมนตรีไทยปิดท้ายว่า ความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างไทยและจีนนั้นมีประวัติศาสตร์ยาวนาน ประชาชนของสองประเทศได้ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันฉันญาติสนิทมิตรสหาย ขณะเดียวกันไทยมีสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ดี จึงหวังว่าจะเกิดความร่วมมือกับกลุ่มบริษัทผู้ประกอบการของจีนภายใต้บีอาร์ไอเพิ่มขึ้น ส่งเสริมการค้าระหว่างสองประเทศและเดินหน้าการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปักกิ่ง 19 ต.ค. – สตรีหมายเลข 1 ของจีนพาคณะภริยาผู้นำต่างประเทศที่เข้าร่วมการประชุมสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Forum for International Cooperation) หรือบีอาร์เอฟ (BRF) ครั้งที่ 3 ที่กรุงปักกิ่งของจีนเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะและหัตถกรรมแห่งชาติจีน สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าวานนี้นางเผิง ลี่หยวน ภริยาของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนและคณะภริยาของผู้นำต่างประเทศได้ไปยังห้องจัดแสดงนิทรรศการของพิพิธภัณฑ์ศิลปะและหัตถกรรมแห่งชาติจีน หรือที่รู้จักในชื่อพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของจีน เยี่ยมชมงานหัตถกรรมอันประณีตวิจิตร อาทิ งานแกะสลักหยกและงานแกะสลักไม้ งานทอผ้า และงานเย็บปักถักร้อย คณะผู้เยี่ยมชมได้ชมกลุ่มผู้สืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ทำการแสดงทักษะฝีมือต่างๆ อาทิ การเย็บปักถักร้อยและงานโมเสกยัดลาย ฟังเด็กๆ จากมณฑลกุ้ยโจวทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ขับร้องบทเพลงแกรนด์ ซอง (Grand Song) ของกลุ่มชาติพันธุ์ต้ง รับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับอุปรากรจีนแบบดั้งเดิมและศิลปะเครื่องดนตรีกู่ฉิน ซึ่งเป็นพิณเจ็ดสายโบราณที่มีถิ่นกำเนิดจากประเทศจีน จากนั้นเพลิดเพลินกับการแสดงกู่ฉิน อุปรากรคุนฉวี่  และอุปรากรปักกิ่ง สตรีหมายเลข 1 ของจีนกล่าวว่า วัฒนธรรมเป็นสายสัมพันธ์ซึ่งช่วยให้กลุ่มประเทศสมาชิกข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Initiative) หรือบีอาร์ไอ (BRI) […]

ปักกิ่ง 18 ต.ค.- ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนเผยวันนี้ว่า จีนจะอัดฉีดเงินก้อนใหม่จำนวนมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (มากกว่า 36,370 ล้านบาท) ให้แก่ข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Initiative) หรือบีอาร์ไอ (BRI) ประธานาธิบดีสีเผยต่อการประชุมสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Forum for International Cooperation) หรือบีอาร์เอฟ (BRF) ครั้งที่ 3 ที่กรุงปักกิ่งของจีนว่า ผู้ให้สินเชื่อหลักของบีอาร์ไออย่างธนาคารพัฒนาจีนและธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออกแห่งชาติจีนจะให้สินเชื่อเพิ่มอีก 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะเปิดโอกาสทางการเงินให้แก่โครงการบีอาร์ไอ 47,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.74 ล้านล้านบาท) และจะอัดฉีดเงินอีก 80,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.9 ล้านล้านบาท) ให้แก่กองทุนเส้นทางสายไหม (Silk Road fund) ซึ่งเป็นสถาบันสินเชื่อหลักของบีอาร์ไอ การประชุมวันนี้มีตัวแทนจาก 130 ประเทศเข้าร่วม เป็นการประชุมครั้งที่ […]

ปักกิ่ง 18 ต.ค.- ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนประกาศว่า จีนไม่ยอมรับการข่มขู่ทางเศรษฐกิจและการแบ่งขั้ว ขณะเปิดการประชุมสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Forum for International Cooperation) หรือบีอาร์เอฟ (BRF) ครั้งที่ 3 ที่กรุงปักกิ่งของจีน ประธานาธิบดีสีกล่าวกับตัวแทนจาก 130 ประเทศว่า จีนคัดค้านการคว่ำบาตรแต่ฝ่ายเดียว การข่มขู่ทางเศรษฐกิจ การแยกตัว และการลดความเชื่อมโยง จีนจะไม่เข้าไปข้องเกี่ยวกับการเผชิญหน้าทางอุดมการณ์ การเล่นเกมทางภูมิรัฐศาสตร์ หรือการเผชิญหน้าเป็นกลุ่ม ผู้นำจีนกล่าวว่า การมองว่าการพัฒนาของคนอื่นเป็นภัยและการพึ่งพากันเป็นความเสี่ยงไม่ได้ทำให้ชีวิตของใครดีขึ้นหรือการพัฒนาของใครเร็วขึ้นแต่อย่างใด ข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Initiative) หรือบีอาร์ไอ (BRI) จะหาทางอัดฉีดสิ่งกระตุ้นใหม่ ๆ ให้แก่เศรษฐกิจโลก เพื่อส่งเสริมการดำเนินนโยบาย โครงสร้างพื้นฐาน การค้า การเงิน และการติดต่อระหว่างผู้คน จีนเชื่ออย่างยิ่งว่า ความร่วมมือแบบได้ประโยชน์ทุกฝ่ายเท่านั้นที่จะทำให้ทุกอย่างดำเนินไปได้และดำเนินไปได้ดี จีนยินดีกระชับความร่วมมือกับหุ้นบีอาร์ไอและทำงานอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อทำให้ทุกประเทศบนโลกมีความทันสมัย.-สำนักข่าวไทย

จีนประกาศวันนี้ว่า โครงการโครงสร้างพื้นฐานภายใต้ “ข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง” (Belt and Road Initiative) หรือ บีอาร์ไอ ได้ก่อให้เกิดสัญญาต่าง ๆ ทั่วโลกคิดเป็นมูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ หรือเทียบเท่ากับขนาดของประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่บางประเทศ